ข่าว

ย่ามใจบุกวัดดังหวังลักตู้รับบริจาคครั้งที่ 9 ถูกรวบ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คลิปข่าวโดย...มงคล สว่างศรี

               ความคืบหน้าจากกรณีมีคนร้ายเข้ามาก่อเหตุลักตู้บริจาควัดสังฆจายเถร ตั้งอยู่ริมถนนสายสังฆจาย - มะขามล้ม หมู่ 8 ต.สวนแตง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี โดยพระครูสิริกิตติคุณ เจ้าอาวาส ได้เปิดกล้องวงจรปิดของวัด สามารถจับภาพไว้ได้ ภาพจากกล้องวงจรปิดพบจุดแรกคนร้ายเป็นชาย อายุระหว่าง 35 - 45 ปี ลักษณะรูปร่างผอม สูงประมาณ 165 - 170 เซนติเมตร เดินถือแม่แรงยกรถขึ้นมาจากทางขึ้นด้านข้างมณฑปพระพุทธนฤมิต (หลวงพ่อดำ) เลาะมาทางด้านหลังพระสังฆจาย ก่อนจะมานั่งลงที่ตู้รับบริจาคซึ่งเป็นตู้เหล็กหนาทึบแบบสี่เหลี่ยม จากนั้นลงมือใช้แม่แรงดันที่ฝาตู้บริจาค แต่ไม่สามารถเปิดได้ คนร้ายจึงลงไปขโมยตู้บริจาคไม้ที่อยู่หน้าพระสังฆจายด้านล่างหลบหนีไป

 

 

 

               พระครูสิริกิตติคุณ เจ้าอาวาส เปิดเผยว่า ทางวัดสร้างตู้รับบริจาคไว้ให้ญาติโยม พุทธศาสนิกชน ที่มาทำบุญไหว้พระขอพรได้ร่วมกันบริจาคเป็นค่าใช้จ่าย ค่าน้ำ ค่าไฟ บูรณปฏิสังขรณ์วัด สำหรับตู้ใบนี้ทางวัดได้นำมาติดตั้งไว้โดยใช้นอตยึดฝังติดกับพื้นปูน ส่วนฝาตู้ก็อ๊อกปิดตาย และจะเปิดปีละ 1 ครั้ง โดยใช้หินเจียร ตัดรอยอ๊อกบริเวณฝาปิด ซึ่งจะได้ปัจจัยปีละประมาณ 10,000 - 20,000 บาท จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่า ตั้งแต่ต้นปีมาถึงปัจจุบัน ที่วัดแห่งนี้ได้ถูกคนร้ายเข้ามาขโมยตู้บริจาคเงินไปแล้วถึง 8 ครั้ง แต่ละครั้งหลังเกิดเหตุได้ไปแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบเก็บหลักฐานของคนร้ายไว้ และออกสืบสวนติดตาม แต่ยังไม่สามารถจับตัวได้

               ล่าสุด เมื่อช่วงสาย วันนี้ (7 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ทางวัดได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้แล้ว จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบคนร้ายมีสภาพสะบักสะบอม เนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชาวบ้าน พระ เณร ไล่จับขณะขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาจะก่อเหตุเป็นครั้งที่ 9 เมื่อคนร้ายถูกเจ้าหน้าที่ไล่จับกุมได้ทิ้งรถและอุปกรณ์สำหรับใช้ก่อเหตุหลบหนีไปซ่อนตัวที่หลังห้องน้ำสามเณร แต่ไม่รอด ถูกจับได้ ควบคุมตัวส่งเจ้าหน้าที่สอบสวนดำเนินคดี

 

 

 

               พระครูสิริกิตติคุณ เจ้าอาวาส เปิดเผยว่า ช่วงเวลาประมาณ 04.00 น. (7 ต.ค.) ขณะที่พระลูกวัดกำลังตีระฆังปลุกพระภิกษุ สามเณร ตื่นทำวัดเช้า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามีคนร้ายกำลังเข้ามาก่อเหตุ โดยหลบหนีอยู่ในบริเวณวัด จึงบอกพระลูกวัดออกไปดู ใช้ไฟฉายส่องหาพบคนร้ายกำลังวิ่งหนีออกไปทางด้านหลังห้องของสามเณร ซึ่งอยู่ติดกับโรงเรียน บรรดาพระเณรในวัดจึงตะโกนเรียกชาวบ้านใกล้วัดออกมาช่วยเจ้าหน้าที่สายตรวจ ตำบลสวนแตง ซึ่งอยู่ที่ป้อมหน้าวัดจับ สุดท้ายสามารถจับตัวไว้ได้อย่างล้มลุกคลุกคลาน

               เจ้าหน้าที่นำตัวมาสอบสวน ทราบชื่อ นายฉัตรชัย วังมูล หรือ โอ๋ อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 79 หมู่ 1 ต.อู่ทอง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ของกลางประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ 1 คัน แม่แรงสำหรับยกรถ 1 ตัว คีมตัดเหล็ก 2 อัน ไขควง 1 อัน กระเป๋าผ้าสำหรับใส่อุปกรณ์ 3 ใบ และยาบ้าอีก 10 เม็ด จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนประกอบอาชีพเลี้ยงสุกรช่วยครอบครัว แต่ติดยาเสพติด จึงออกตระเวนลักทรัพย์ตามสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะตามวัดดังๆ ซึ่งตนจะใช้รถจักรยานยนต์ และจักรยานยนต์แบบพ่วงข้าง และเป็นคนร้ายตามภาพวงจรปิดของวัดสังฆจายเถรที่จับภาพไว้ได้จริง

               ซึ่งตนเข้ามาก่อเหตุแล้วหลายครั้งก่อนถูกจับ เมื่อคืนวันที่ 3 ต.ค. ที่ผ่านมา ได้เข้าไปใช้แม่แรงดันฝาตู้บริจาคเหล็ก แต่เปิดไม่ได้ จึงหันไปยกตู้ไม้ที่พระลูกวัดลืมเก็บ จากนั้นได้ไปขโมยตู้บริจาคของวัดไผ่แปลกแม่ ที่อยู่ห่างกันประมาณ 5 กม. รวม 2 วัด ได้เงินไปประมาณ 100 กว่าบาท ก่อนหน้านี้ ตนได้เข้าไปขโมยยกตู้เซฟของวัดยางยี่แส ต.กระจัน อ.อู่ทอง ได้เงินในตู้เซฟไป 20 บาท หลังก่อเหตุได้นำตู้ไปโยนทิ้งในคลอง จากนั้นก็ตระเวนหาขโมยมาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งก่อนถูกจับตนได้แวะเข้ามาดู แต่โชคร้ายถูกจับ ส่วนเงินที่ได้นำไปซื้อยาบ้ามาเสพ และนำไปใช้จ่าย

 

 

 

               เบื้องต้น เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าคนร้ายคงจะดูข่าวและรู้ว่าในตู้เหล็กที่ขโมยไปไม่ได้มีเงินอยู่ จึงเตรียมอุปกรณ์มาครบ โดยคนร้ายยังได้เสริมปลายแม่แรงให้สูงขึ้น เนื่องจากครั้งแรกความสูงของแม่แรงไม่พอจึงยกฝาตู้ไม่ได้ จึงได้หวนกลับมาก่อเหตุแบบไม่เกรงกลัวกฎหมาย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนขยายผลว่าคนร้ายก่อเหตุมาแล้วทั้งหมดกี่ครั้ง มีที่ไหนบ้าง เพื่อจะได้ติดตามนำทรัพย์สินต่างๆ คืน

               เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต และลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ และจากการตรวจสอบประวัติพบผู้ต้องรายนี้เคยถูกจับคดีเสพยาเสพติด ส่วนสาเหตุที่จับตัวคนร้ายรายนี้ไว้ได้ สืบเนื่องจากหลังเกิดเหตุคืนวันที่ 3 ต.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้จัดกำลังเฝ้าระวังตามจุดต่างๆ ของวัดดังทุกแห่งที่คาดว่าจะเป็นเป้าหมายคนร้ายเข้ามาก่อเหตุ กระทั่งพบคนร้ายซึ่งมีภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้ได้และยังเป็นข่าว แต่คนร้ายย่ามใจกลับเข้ามาก่อเหตุอีก จึงถูกจับได้ดังกล่าว

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ