ข่าว

จับกระบะขนไม้ชิงชันข้ามชาติ!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รวบหนุ่มแพร่ ขับกระบะลักลอบขนไม้ชิงชันข้ามชาติ 21 ท่อน มูลค่าครึ่งล้าน

 

               น่าน - สกัดจับกระบะลักลอบขนไม้ชิงชันข้ามชาติ 21 ท่อน มูลค่าครึ่งล้าน 2 ผู้ต้องหาเปิดประตูทิ้งรถหลบหนี ตามรวบได้ 1 ราย อีกรายหลบหนีไปได้ สารภาพรับจ้างจากนายทุน จ.แพร่ นำไปส่งให้กับกลุ่มนายทุนลักลอบทำไม้ค้าไม้ชิงชันข้ามชาติ 

 

               เมื่อวันที่ 24 ก.ย.61 ที่ สภ.เวียงสา จ.น่าน นายภูษิต พรหมมานพ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 สาขาแพร่ เดินทางไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมสนับสนุนความก้าวหน้าให้กับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมผู้ลักลอบขนไม้ชิงชันให้กับกลุ่มนายทุนลักลอบทำไม้ค้าไม้ชิงชันข้ามชาติจาก จ.แพร่ พร้อมตรวจสอบไม้ของกลาง

 

               ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ของหน่วย สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 สาขาแพร่ โดยการอำนวยการของนายภูษิต พรหมมานพ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 สาขาแพร่ นายชัยรัตน์ แสงปาน ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า ป่าไม้ที่ 3 สาขาแพร่ นายประสิทธิ์ ท่าช้าง ผอ.ศูนย์ป่าไม้น่าน ให้นายมนตรี พลภักดี หน.หน่วยป้องกันรักษาป่า น.น.13 (น้ำสา) หน.ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า แพร่- น่านที่ 1 และนายณัฐชนน คนสูง หัวหน้าสายตรวจปราบปรามทรัพยากรป่าไม้สายที่ 2 น่าน , ร.ต.ท.สมบัติ แกล้วกล้า กก.4 บก.ปทส. ร่วมกับ พ.ท.บัณฑิต ชาวกัณหา ผู้บังคับกองพันทหารม้าที่ 15 กรมทหารม้าที่ 2 , ร.ท.สราวุฒน์ พหรามณ์ธนโชต ชป.รส.ที่ 2 พัน 15 ม.2 , รส.ที่ 3 มทบ.38 ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ , ตชด.324 น่าน ศปป.ที่ 3 ภาคเหนือ , ฝ่ายปกครอง อ.เวียงสา , เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปทส.ภ.5 และ ตำรวจ ศปทส. ภ.จว.น่าน พร้อมกำลังกว่า 50 นาย ออกไปทำการดักซุ่มบริเวณป่าข้างทางถนน ระหว่างบ้านนาก้า หมู่ที่ 1 ต.ยาบหัวนา อ.เวียงสา - ต.บ้านฟ้า อ.บ้านหลวง จ.น่าน

 

 

จับกระบะขนไม้ชิงชันข้ามชาติ!

 

 

               หลังจากได้รับแจ้งจะมีขบวนการกลุ่มนายทุนลักลอบทำไม้ค้าไม้ชิงชันข้ามชาติจาก จ.แพร่ เข้ามาลักลอบขนไม้ชิงชันแปรรูป ตีปอนด์ ในบริเวณหมู่บ้านฮากฮาน หมู่ที่ 2 ต.ยาบหัวนา อ.เวียงสา จ.น่าน โดยรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ ตอนเดียวติดลูกรง หมายเลขทะเบียน บม 4191 แพร่ ในเวลากลางคืนที่ 23 ก.ย. จนถึงเช้ามืดวันที่ 24 ก.ย. เพื่อนำไปยัง จ.แพร่ โดยใช้เส้นทางบ้านฮากฮาน หมู่ที่ 2 บ้านนาก้า หมู่ 1 ต.ยาบหัวนา อ.เวียงสา ผ่าน ต.บ้านฟ้า อ.บ้านหลวง จ.น่าน ไป จ.แพร่

 

               กระทั่งเวลา 04.40 น.วันที่ 24 ก.ย. เจ้าหน้าที่ที่ทำการดักซุ่มรออยู่เส้นทางดังกล่าว ได้สังเกตเห็นรถยนต์คันหนึ่งซึ่งมีลักษณะตามที่ได้รับแจ้งวิ่งผ่านหน้าไป จึงได้ออกจากที่ดักซุ่ม ทำการตรวจค้น มีชาย 2 คน เป็นคนขับและผู้โดยสารมาด้วย ทันใดนั้น ชายทั้ง 2 ได้เปิดประตูรถแล้วลงจากรถหนีเข้าป่าข้างทาง เจ้าหน้าที่จึงได้วิ่งไล่ติดตาม ได้ผู้โดยสารที่นั่งคู่กับคนขับ ชื่อ นายมงคล ถุงทอง อายุ 31 ปี อ้างว่าจำเลขที่บ้านไม่ได้ บ้านดอนมูล หมู่ที่ 9 ต.ดอนมูล อ.สูงเม่น จ.แพร่ ส่วนคนขับชื่อ นายอ๋อย (นามสมมติ) อยู่บ้านเวียงทอ ต.เวียงทอง อ.สูงเม่น จ.แพร่ วิ่งหลบหนีไปได้เนื่องจากเป็นยามวิกาล

 

 

จับกระบะขนไม้ชิงชันข้ามชาติ!

 

 

               จากนั้นจึงร่วมกันตรวจสอบที่ท้ายรถยนต์กระบะบรรทุก พบว่าที่กระบะทางตอนท้ายของรถมีการบรรทุกไม้ชิงชันแปรรูปลักษณะตีปอนด์ ตามใบสั่งส่งออกนอกประเทศ มาเต็มกระบะ จำนวน 21 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 1.79 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นค่าเสียหายของรัฐ 537,000 บาท หากส่งถึงต่างประเทศมูลค่ากว่าล้านบาท โดยใช้ผ้าฟางสีดำปกคลุมปิดบังอำพรางไว้ และจากการตรวจสอบไม้ชิงชันแปรรูป พบเป็นไม้ที่มีลักษณะใหม่สด ไม่มีร่องรอยว่าเคยเป็นสิ่งปลูกสร้างหรือเครื่องใช้อื่นใดมาก่อน ตรวจที่หน้าตัดของไม้ชิงชันแปรรูป/แผ่นเหลี่ยม ไม่ปรากฏรูปรอยดวงตาของพนักงานเจ้าหน้าที่ของรัฐตีประทับไว้แต่อย่างใด

 

               นายมงคล สารภาพรับว่า ตนรับจ้างจากนายทุนชื่อ นายเค (นามสมมติ) อยู่บ้านเวียงทอง ต.เวียงทอง อ.สูงเม่น จ.แพร่ ให้มาช่วยนายอ๋อย คนขับที่หลบหนีไปได้ ขนไม้ชิงชันแปรรูปที่รับซื้อจากราษฎรบ้านฮากฮาน หมู่ 2 ต.ยาบหัวนา อ.เวียงสา จ.น่าน โดยมีบุคคลชื่อนายอู๋ (นามสมมติ) เป็นผู้ดำเนินการจัดซื้อจัดหาไม้ชิงชันแปรรูปจากราษฎรผู้ลักลอบทำไม้ในหมู่บ้าน วางแผนการลำเลียงขนย้ายและเคลียร์เส้นทางทั้งหมด เพื่อนำไปส่งให้กับกลุ่มนายทุนลักลอบทำไม้ค้าไม้ชิงชันข้ามชาติจาก จ.แพร่ แต่มาโดนจับเสียก่อน

 

 

จับกระบะขนไม้ชิงชันข้ามชาติ!

 

 

               จนท.ชุดจับกุมจึงได้ทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมด เนื่องจากการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำผิด ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ม.48 และประกาศของ คสช.ฉบับที่ 106/2557 ม.70 ฐานมีไม้ชิงชันแปรรูปไว้ในครอบครอง โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งการตรวจยึดตรวจนับวัดขนาดคำนวณปริมาตร จำนวน 21 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 1.79 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นค่าเสียหายของรัฐ 537,000 บาท ถ้าส่งถึงต่างประเทศมูลค่ากว่าล้านบาท และใช้อำนาจตาม ม.64 ทวิ ตรวจยึดรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ ตอนเดียวติดลูกรง หมายเลขทะเบียน บม 4191 แพร่ จำนวน 1 คัน ที่ใช้บรรทุกไม้ชิงชันแปรรูป พร้อมผู้ต้องหา และนำของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เวียงสา เพื่อดำเนินคดี เร่งติดตามขยายผลหาตัวกลุ่มนายทุนผู้ที่กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

 

จับกระบะขนไม้ชิงชันข้ามชาติ!

 

 

               นายภูษิต พรหมมานพ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 สาขาแพร่ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ของหน่วย สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 สาขาแพร่ ได้ทำการจับกุมผู้ลักลอบตัดไม้มีค่า ไม้ชิงชัน ไม้ประดู่ บริเวณรอยต่อจังหวัดแพร่ – น่าน อย่างต่อเนื่องตลอดมา เมื่อคืนสามารถจับผู้ลักลอบขนไม้ชิงชันเพื่อนำไปส่งให้กับกลุ่มนายทุนลักลอบทำไม้ค้าไม้ชิงชันข้ามชาติจาก จ.แพร่ 

 

               สำหรับมาตรการปราปรามขบวนการกลุ่มนายทุนลักลอบทำไม้ค้าไม้มีค่าข้ามชาติ โดย พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง กำชับให้เจ้าหน้าที่หมั่นตรวจสอบและดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด

 

 

จับกระบะขนไม้ชิงชันข้ามชาติ!

 

 

               โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีนโยบายที่จะมาตั้งชุดเฉพาะกิจส่วนหน้า ปราบปรามขบวนการกลุ่มนายทุนลักลอบทำไม้ค้าไม้มีค่าข้ามชาติซึ่งให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมประเทศไทย โดยจะมีชุดเฉพาะกิจส่วนหน้ามาดำเนินการปราบปรามขั้นเด็ดขาดต่อไป ในเรื่องนี้เจ้าหน้าที่มิได้นิ่งนอนใจ ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ดำเนินการปราบปรามผู้กระทำความผิดตลอดมา

 

               “ขอฝากพี่น้องชาวจังหวัดน่าน แพร่ หากทราบเบาะแสขบวนการกระทำความผิด ลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่หน่วยงานป่าไม้ในพื้นที่ที่ใกล้เคียง โดยทางเจ้าหน้าที่จะปกปิดชื่อของผู้แจ้งไว้เป็นความลับ เพื่อมาร่วมกันดูแลบ้านเมืองให้เกิดความเรียบร้อย จัดการผู้กระทำความผิดให้หมดสิ้นไป”นายภูษิต กล่าว

 

 

จับกระบะขนไม้ชิงชันข้ามชาติ!

 

 

               นายมนตรี พลภักดี หน.หน่วยป้องกันรักษาป่า น.น.13 (น้ำสา) หน.ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า แพร่-น่านที่ 1 กล่าวว่า จากการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมไม้ชิงชันของกลาง 21 ท่อนในครั้งนี้ เป็นการขยายผลจากการจับตรวจยึดไม้ชิงชันก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา มีการติดตามขยายผลอย่างต่อเนื่อง จนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาพร้อมไม้ของกลางในครั้งนี้ และจะดำเนินการขยายผลต่อไปให้ถึงตัวนายทุนผู้บงการต่อไป

 

โดย สันติไฌญ จารุพิพัฒน์บุตร

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ