ร้องต่างด้าวรุมฮุบที่ดินมรดกพ่อ

 

          วันที่ 21 ก.ย. 2561 นายธนโชติก์ รุ่งเหมันต์ อายุ 33 ปี และ นางอนงค์ รุ่งเหมันต์ ภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 42/15 หมู่ 8 ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ได้เข้าร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวว่าที่ดินของบิดา ซึ่งมีหลักฐานการครอบครองสิทธิ์ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 พ.ค.2542 ลำดับที่ 1550 จำนวน 3 แปลง 4 ไร่ ณ หมู่บ้านห้วยโป่งแข่ หมู่บ้านบริวารบ้านไม้แงะ หมู่ 8 ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ได้ถูกต่างด้าวชาวเมียนมา เข้ามายึดครองที่ดินของบิดาตนเอง

 

          โดยตนและภรรยา ได้เดินทางไปเรียกร้องความเป็นธรรมต่อหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องหลายหน่วย ตั้งแต่หน่วยจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 แม่ฮ่องสอน , ที่ว่าการอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน , หน่วยงานอุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุริน , ตำรวจ สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน และ สุดท้ายที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน แต่ปัญหากลับไม่ได้รับการแก้ไขแต่อย่างใด และดูเหมือนว่าหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องส่วนใหญ่จะเข้าข้างกลุ่มต่างด้าวชาวเมียนมา ที่บุกรุกที่ดินของบิดาตนเอง และพยายามดึงเรื่องรวมไปถึงปกปิดข้อมูลเอกสารของบิดาที่เคยทำไว้ในหน่วยงานนั้นๆ

 

 

          นายธนโชติก์ กล่าวอีกว่า สุดท้ายตนจึงต้องร้องเรียนต่อสื่อมวลชน เพื่อขอให้เป็นสื่อกลางให้หน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องระดับประเทศ ลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ไขปัญหาให้กับตนและภรรยา ที่กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ไม่สามารถเข้าไปอาศัยอยู่ในบ้านของบิดาได้ เนื่องจากถูกกลุ่มต่างด้าวชาวเมียนมากดดัน ข่มขู่ ปิดถนน เส้นทาง เข้า-ออกบ้าน และยื่นข้อเสนอให้ตนจ่ายค่าผ่านทางเข้า-ออก เป็นเงิน 150,000 บาท จนตนและภรรยา ไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ เพราะเกรงจะไม่ได้รับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนได้เข้าไปเก็บย้ายสิ่งของ ก็พบว่าเครื่องใช้ ของมีค่าต่างๆ และชามสังคโลก ของบิดาที่สะสมไว้ ได้สูญหายไป

 

 

          นายธนโชติก์ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ตนได้นำเอกสารสิทธิ์ของบิดาไปขอความช่วยเหลือ ที่หน่วยงาน สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบ แต่พบว่าไม่มีการเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่แต่อย่างใด ต่อมา ทาง ผอ.สำนักงานป่าไม้ฯ จ.แม่ฮ่องสอน ได้แจ้งมาว่า ที่ดินของบิดาตนอยู่ในพื้นที่เขตป่าสงวน และให้ตนไปติดต่อ ที่สำนักงานป่าสงวนน้ำตกแม่สุรินทร์ จ.แม่ฮ่องสอน พร้อมแนะนำให้หาหลักฐานมาให้มากที่สุด หลังจากนั้นตนจึงกลับมาที่สำนักงานป่าไม้ 1 อีกครั้งเพื่อขอคัดกรองเอกสาร แต่เจ้าหน้าที่อ้างว่า เอกสารสูญหายจึงให้เอกสารแต่เพียง ทะเบียนราษฎร ที่แจ้งเรื่องการครอบครองที่ดินในพื้นที่ป่า ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 พ.ค.2542 ท้องที่อำเภอเมือง จ.แม่ฮ่องสอน เท่านั้น.

 

 

 

 

ภาพ / ข่าว - ทศพล บุญพัฒน์