แม่ล้มเสียชีวิตโทษตัวเองดูแลไม่ดีผูกคอฆ่าตัว

               ที่ จ.สุพรรณบุรี เมื่อเวลา 05.40 น. วันที่ 10 ก.ย. 61  ร.ต.ท.หญิง ปิยาอร คำหวาน รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี รับแจ้งคนผูกคอเสียชีวิต ที่ บ้านเลขที่ 351/3 ถนนพระพันวษา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวร รพ.ศูนย์เจ้าพระยายมราช และมูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี

               ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น เปิดเป็นร้านขายอาหารตามสั่ง ที่ด้านหลังร้านพบศพ นายนิพล แซเฮ้ง อายุ 66 ปี สภาพแต่งกายนุ่งกางเกงขายาวสีน้ำเงิน สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นลายขาวน้ำเงิน ใช้เชือกไนลอนผูกคอติดกับโครงหลังคาเหล็กดัดเสียชีวิตอยู่หลังห้องนอนของตัวเอง

               จากการสอบถาม นางพวงเพ็ญ นาคบุตร อายุ 57 ปี น้องสาวผู้ตาย ซึ่งเป็นคนพบศพ เล่าว่า ขณะที่ตนตื่นมาเตรียมของไว้ขายและเดินมาที่ด้านหลังร้าน สังเกตเห็นเงาดำห้อยโตงเตงอยู่บริเวณมุมกำแพงด้านหลังร้าน จึงเดินไปดูก็แทบช็อก เมื่อสิ่งที่เห็นคือร่างของพี่ชายผูกคอตาย จึงรีบวิ่งไปหาหมอที่ รพ.ศูนย์เจ้าพระยายมราช ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เพื่อจะให้มาช่วย แต่ไม่ทัน เนื่องจากพี่ชายเสียชีวิตแล้ว จากการตรวจสอบภายในห้องนอนของผู้ตายพบว่ามีโต๊ะบูชาซึ่งมีภาพถ่ายของบิดามารดาของผู้ตายตั้งอยู่ ส่วนของใช้ต่างๆ ของผู้ตายถูกพับเก็บไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่มีร่องรอยรื้อค้นแต่อย่างใด

               นางพวงเพ็ญ เล่าต่ออีกว่า ก่อนหน้านี้พี่ชายซึ่งอาศัยอยู่บ้านเดียวกับตนจะทำหน้าที่ดูแลมารดา ซึ่งเสียชีวิตแล้วประมาณ 2 ปี และก่อนที่มารดาซึ่งผู้ตายดูแลจะเสียชีวิต ได้ล้มกระแทกพื้นศีรษะแตกและเสียชีวิตที่ รพ. หลังจากมารดาเสียชีวิต ผู้ตายก็ไม่ได้ทำอะไร ตนและครอบครัวจึงทำหน้าที่ดูแลโดยมีน้องซึ่งแยกไปมีครอบครัวช่วยกันส่งเสีย โดยปกติพี่ชายจะมีสุขภาพแข็งแรง ไม่เคยไปหาหมอ ก่อนเกิดเหตุช่วงสารทจีน ที่บ้านได้มีพิธีไหว้เจ้าพ่อหลักเมือง บรรพบุรุษ และบิดามารดาที่เสียชีวิตไปแล้ว ขณะที่ทำพิธีไหว้บิดามารดา พี่ชายได้บ่นว่ารู้สึกเสียใจที่ดูแลมารดาไม่ดี ทำให้มารดาล้มจนเสียชีวิต หลังจากนั้นพี่ชายก็มีอาการเครียดและเก็บตัวเงียบอยู่แต่ในห้องนอน

               กระทั่งช่วงตี 4 กว่าวันนี้ หลังจากตนตื่นมาเตรียมของขายพบพี่ชายผูกคอเสียชีวิตแล้ว ส่วนสาเหตุสันนิษฐานว่าผู้ตายคงสำนึกผิดที่ดูแลมารดาไม่ดีทำให้มารดาหกล้มเสียชีวิต จึงเกิดความเครียด ตัดสินใจผูกคอตาย อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ญาติจะไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต แต่ แพทย์ยังไม่สามารถลงความเห็นได้ จึงส่งศพไปตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดที่สถาบันนิติเวชฯ เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป