ข่าว

ตรังลุยเจ้าหนี้ดอกเบี้ยโหดช่วยลูกหนี้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คลิปข่าวโดย...คนิตา สีตอง

 

               (30ส.ค.61)เจ้าหน้าที่สนธิกำลังกันหลายฝ่าย ทั้งจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดตรัง ตำรวจกองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดตรัง ทหารค่ายพระยารัษฎานุประดิษฐ์,ตร.สภ.เมืองตรัง นำโดย พ.อ.สุริยา ช่วยบำรุง ตัวแทนจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดตรัง สนธิกำลังเข้าตรวจสอบพฤติกรรมของเจ้าหนี้เงินกู้รายใหญ่รายหนึ่ง ที่บ้านเลขที่105/1หมู่6ต.นาท่ามเหลือ อ.เมือง

 

 

 

               พบนายศรัณย์ จันดี อายุ60ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชน เลขที่78/2หมู่ที่7ต.บ่อหิน อ.สิเกา ซึ่งเป็นนายทุนปล่อยดอกเบี้ยเงินกู้รายใหญ่และเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จากนั้นได้นำตัวไปตรวจสอบที่บ้านอีกหลังตั้งอยู่เลขที่3หมู่ที่5ต.นาท่ามเหนือ อ.เมือง หลังจากได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านหลายรายว่า ถูกนายทุนดอกเบี้ยเงินกู้โหดรายดังกล่าว ปล่อยดอกเบี้ยเงินกู้แพงกว่าที่กฎหมายกำหนด ยังมีการบังคับขูดรีดเงินด้วยวิธีการต่างๆ นานาๆทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ยึดหลักฐานการปล่อยเงินกู้ทั้งหนังสือสัญญาจำนองที่ดิน หนังสือสัญญาจะซื้อขายหรือสัญญาวางมัดจำ หนังสือสัญญาขายฝากที่ดิน หนังสือสัญญามอบสิทธิการครอบครอง และโฉนดที่ดิน รวมทั้งหมด11แปลง รวมมูลค่าเงินกู้ประมาณ3 – 4ล้านบาท จากนั้นนำตัวมาที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดตรัง เพื่อสอบปากคำโดยมีพ.อ.พิชิต โชติแก้ว รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดตรังร่วมสอบปากคำด้วยทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้โทรศัพท์ให้ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนและร้องเรียนปัญหาความเดือดร้อนให้เดินทางมาพบ เพื่อร่วมพูดคุยหาทางไกล่เกลี่ยประนอมหนี้กัน เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ให้จ่ายตามความเป็นจริงและเป็นธรรม

               อย่างไรก็ตาม จากแนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่าพฤติกรรมของเจ้าหนี้เงินกู้โหดคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ในปัจจุบันนี้พบว่า มีการทำกันเป็นขบวนการ ระหว่างนายทุนเจ้าของเงินกู้ โดยวันแรกที่มีการทำสัญญาขายฝากนายทุนเงินกู้จะได้3%ส่วนนายหน้าจัดหาจะได้ค่านายหน้าประมาณ3%รวมเป็น6%ที่ผู้ขายฝากจะต้องเป็นคนจ่าย ขณะที่สัญญาที่ทำขึ้นมานั้น จะมีการระบุตัวเลขยอดเงินที่รวมแล้วทั้งต้นและดอก พร้อมระบุในสัญญาคิดดอกเบี้ย15%ต่อปี เพื่อตบตาว่าไม่ได้เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด แต่ทั้งนี้เป็นยอดเงินรวมทั้งต้นและดอกแล้ว เท่ากับนายทุนจะได้2ต่อ ขณะเดียวกันหากครบกำหนดสัญญา แต่ลูกหนี้ยังผ่อนจ่ายไม่หมด แล้วลูกหนี้จะขอขยายสัญญาจะต้องมีการจ่ายเงินก้อนโตให้อีก1ก้อน เพื่อแลกกับการขยายสัญญา เช่น กรณีลูกหนี้กู้เงินเงินมาประมาณ5แสนบาท แต่ครบสัญญายังจ่ายไม่หมดถ้าจะต่อสัญญานายทุนเงินกู้ขูดรีดเงินอีกจำนวน1แสนบาท เพื่อแลกกับการขยายสัญญา หากไม่ยอมจ่ายก็จะยึดทรัพย์ทันที หรือบังคับโอนหนี้ไปยังนายทุนเงินกู้รายต่อไป โดยที่ชาวบ้านต้องอยู่ในภาวะจำยอม ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก จึงร้องเรียนให้มีการตรวจสอบดังกล่าว

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ