ข่าวโดย บุญพิมพ์ ใบยา
ที่ใต้ถุนบ้านนางศุภจิรา วงษ์พรวน ชาวสวนหมู่ 9 ต.แม่พูล อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ เร่งมือคัดลองกองภูเขาลับแล หรือลางกองลับแล อย่างอารมณ์ดีและมีความสุข เพราะแค่เริ่มต้นฤดูกาลมีพ่อค้าแม่ค้าเปิดล้ง สั่งให้รวบรวมผลผลิต คัดช่อคุณภาพเพื่อส่งออกประเทศเวียดนาม วันละไม่ต่ำกว่า 50 ตัน หรือ 5 หมื่นกิโลกรัม ส่งผลให้ชาวสวนลับแลให้ความสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพลองกองเป็นผลไม้ส่งออก ต่อจากทุเรียนลับแล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แต่ที่ต้องตะลึง ทึ่ง! มากที่สุดคือ ลองกองภูเขาลับแล มีขนาดช่อที่ใหญ่ ผลแน่น สมบูรณ์ จำนวนมากถูกคัดและเตรียมส่งขาย มีความยาวช่อละไม่ต่ำกว่า 30 เซ็นติเมตร น้ำหนัก 1.5 กิโลกรัมต่อช่อ เมื่อนำขวดน้ำอัดลมแบบพลาสติกขนาด 2.5 ลิตรวางเทียบยังดูเล็กกว่าลองกอง 1 ช่อ ทั้งนี้เนื่องจากชาวสวนดูแลเอาใจใส่ ปลูกแบบปลอดสาร และสภาพอากาศปีนี้โดยเฉพาะปริมาณฝนพอดี ทำให้ผลผลิตลองกองของลับแล ให้ผลผลิตดีตามไปด้วย
นางศุภจิรา กล่าวว่า นอกจากทุเรียนแล้ว อำเภอลับแล ยังมีพื้นที่ปลูกลองกอง หรือลางกอง ซึ่งแหล่งปลูกตามภูเขาสูงของอำลับแล ไม่แตกต่างจากทุเรียน คือ ปลูกแบบธรรมชาติ ซึ่งลองกองภูเขาลับแลมีเอกลักษณ์ความพิเศษแตกต่างจากพื้นที่อื่น คือ ต้นดั่งเดิมเป็นต้นลางสาด ชาวสวนวิธีนำกิ่งพันธุ์ลองกอง มาเสียบยอดหรือต่อยอด จึงเรียกว่า “ลางกอง” มีรสเข้มข้น อมเปรี้ยวอมหวาน เนื้อมาก แห้ง และเปลือกบาง ใครได้รับประทานจะติดใจ
อย่างไรก็ตาม ชาวสวนจึงเน้นการพัฒนาคุณภาพของลองกองภูเขาลับแลเพื่อการส่งออก กว่าจะได้ลองกองช่อใหญ่ ยักษ์สีสวยรสชาติดี ต้องเอาใจใส่ มีการแต่งกิ่ง ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ แล้วก็คัดเลือกช่อดอกที่มีความสมบูรณ์ที่สุด ให้เหลือต้นละไม่เกิน 50 ช่อ ทำให้ไม่ต้องแย่งอาหาร ดูแลง่าย ปีนี้ปลูกลองกอง 30 ไร่ คาดผลผลิต 20 ตัน หากราคาดีตั้งแต่ต้นฤดูกาลคือเริ่มอยู่ที่ 40 บาท ซึ่งมีตลาดมารับซื้อทั้งในประเทศและต่างประเทศ ถือว่าเป็นเรื่องดี
“โดยเฉพาะมีพ่อค้าแม่ค้าเปิดล้งรับซื้อ เพื่อส่งออกเวียดนาม โดยได้รวบรวมผลผลิตลองกองคุณภาพ เฉพาะในส่วนของตัวเอง มีออร์เดอร์สั่งวันละ 1 หมื่นกิโลกรัม หรือ 10 ตัน แต่ถ้าทั้งอำเภอลับแล แต่ละวันจะมีผลผลิตลองกองคัดช่อส่งออก มากกว่าวันละ 50 ตัน มากสุดถึง 100 ตัน ในราคากิโลกรัมละ 30-40 บาท ซึ่งจังหวัดอุตรดิตถ์ มีพื้นที่ปลูกลองกองกว่า 27,000 ไร่ ซึ่งผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาดแล้ว ปีนี้ไวกว่าทุกปี” นางศุภจิรา กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง