ข่าว

"วีระศักดิ์"เตรียมเดินทางไปพบ รมว.ท่องเที่ยวจีนที่ปักกิ่ง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รมว.ท่องเที่ยวเผยเตรียมเดินทางไปพบ รมว.ท่องเที่ยวจีนที่ปักกิ่ง แจงความคืบหน้ากรณีเรือฟินิกซ์ล่ม

รมว.ท่องเที่ยวลงพื้นภูเก็ต  เผยเตรียมเดินทางไปพบ รมว.ท่องเที่ยวจีนที่ปักกิ่ง แจงความคืบหน้ากรณีเรือฟินิกซ์ล่ม หวังลดกระแสดราม่าหลายเรื่อง เรียกความมั่นคืนมา ฝากระมัดระวังการนำเสนอข้อมูลผ่านทางสื่อ

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่19 สิงหาคม 2561ที่ห้องประชุมชั้น 2  ศูนย์ควบคุมเรือยอร์ชจังหวัดภูเก็ต (PYCC : Phuket Yacht Control Center) ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา  พร้อมด้วยนายอภิชาติ จีระพันธุ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรี ว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา  และคณะ ได้ร่วมประชุมร่วมกับผู้บริหารจังหวัดภูเก็ต  นำโดยนายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, พลเรือโทสมนึก เปรมปราโมทย์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 และนายประกอบ วงศ์มณีรุ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นอกจากนี้ยังมีหัวหน้าส่วนราชการและภาคเอกชน ที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินมาตรการความปลอดภัยทางทะเลของจังหวัดภูเก็ต และรับฟังข้อมูลแผนงานโครงการด้านความปลอดภัยทางทะเลของจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณีเหตุเรือฟินิกซ์ล่มกลางทะเลภูเก็ต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2561ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ได้มีการซักถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงความคืบหน้าในเรื่องของสาเหตุการเกิดเรือฟินิกซ์ล่ม การติดตั้งสัญญาณธงบริเวณหน้าท่าเรือ อำนาจในการสั่งเรือไม่ให้ออกจากฝั่ง การกู้เรือ การอนุมัติให้ก่อสร้างเรือและแบบของเรือ ใบอนุญาตนายท้ายเรือ ความคืบหน้าในส่วนของคดีฯ การจ่ายเงินเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต และผลของการออกประกาศ กอ.รมน.จังหวัดภูเก็ต  เป็นต้น

ขณะที่นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการจัดระเบียบท่าเรือของจังหวัดภูเก็ตหลังเกิดเหตุ ว่า ได้กำหนดให้มีท่าเรือในการขึ้นลงจำนวน   24 แห่ง และมีการแต่งตั้งผู้จัดการท่าเทียบเรือแต่ละแห่งครบทั้ง 24 แห่ง เพื่อทำหน้าที่ควบคุมมาตรการความปลอดภัยในการปล่อยเรือและผู้โดยสารที่เดินทางท่องเที่ยวทางทะเล นอกจากนี้ยังจัดตั้งชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วเพื่อออกไปสุ่มตรวจเรือและนักท่องเที่ยวในทะเล พร้อมทั้งให้ท่าเทียบเรือทั้ง 24 แห่ง ปรับปรุงพัฒนาให้ได้มาตรฐานตามที่กำหนด อาทิ การติดตั้งกล้อง CCTV, การติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนทำความเข้าใจกับประชาชนและนักท่องเที่ยว, ติดตั้งระบบฮาร์ดแวร์ทำการเชื่อมโยงเพื่อส่งข้อมูลข่าวสารของเรือ นักท่องเที่ยว และเส้นทางการเดินเรือ ส่วนของท่าเทียบเรือฉลอง ถือว่ามีปัญหาค่อนข้างมาก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการแก้ไข  ส่วนของท่าเรือเล็กๆ ที่บริหารโดยท้องถิ่นจะมีปัญหาค่อนข้างมาก ซึ่งอยู่ระหว่างแก้ไข

ขณะที่นายสรายุทธ มัลลัม ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในฐานะตัวแทนผู้ประกอบการ อยากจะบอกว่า การที่ทางจังหวัดภูเก็ตออกประกาศห้ามเรือออกจากฝั่งแบบครอบคลุมทั้งหมดนั้น ทำให้ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบ ไม่สามารถออกเรือนำนักท่องเที่ยวไปยังเกาะที่อยู่ใกล้ๆได้ โดยเฉพาะเกาะเฮ ซึ่งอยู่ใกล้กับฝั่งมากและคลื่นสูงไม่เกินสองเมตร และที่ผ่านมาไม่เคยเกิดอุบัติเหตุเรือล่มเพราะถูกคลื่นซัด และเป็นเกาะที่ปลอดภัยที่สุดในการทำกิจกรรมทางน้ำในช่วงกรีนซีซัน จึงอยากให้ในการออกประกาศห้ามเรือออกจากฝั่งจะต้องคำนึงถึงผู้ประกอบการด้วย โดยประกาศเตือนเป็นเส้นทาง โดยเฉพาะเส้นทางเดินเรือที่มีความเสี่ยง เพื่อให้เกิดความเหมาะสม ปลอดภัย และผู้ประกอบการอยู่ได้ด้วย มาตรการต่างๆ ที่ออกมานั้นผู้ประกอบการพร้อมปฏิบัติตามเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของนักท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตามนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวตอนท้ายว่า การเดินทางลงพื้นที่นั้น เพื่อติดตามความคืบหน้าการกู้เรือฟินิกซ์  ซึ่งเป็นวัตถุพยานที่สำคัญของคดี แต่เนื่องจากขณะนี้คลื่นลมใต้น้ำยังแรงอยู่จึงยังไม่สามารถกู้เรือฟินิกซ์ขึ้นมาได้ พร้อมกันนี้ก็ถือโอกาสประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 และหน่วยต่างๆที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อรับทราบการดำเนินการช่วยเหลือประสบเหตุ ทั้งในเรื่องการค้นหาและการช่วยเหลือต่างๆ ซึ่งได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วเหลือเพียงการเยียวยาที่ยังมีปัญหาเลขบัญชีธนาคารในการโอนเงินให้กับญาติผู้เสียชีวิต 1 ราย หากได้รับหมายเลขบัญชีแล้วทุกอย่างก็จะเสร็จสิ้นเรียบร้อยในเร็ววัน และเรื่องนี้ได้มีการสื่อสารทำความเข้าใจกับกงสุลใหญ่ของจีนอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ทางจังหวัดภูเก็ตยังเตรียมประกอบพิธีบำเพ็ญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่ผู้เสียชีวิตครบรอบ 49 วัน ระหว่างวันที่ 22-23 สิงหาคมนี้ที่บริเวณสวนสาธารณะสะพานหิน

ส่วนเรื่องของคดี ได้รับรายงานว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เพิ่มพนักงานสอบสวนให้เข้ามาดูแลรวม 102 คน และได้แต่งตั้งให้พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน ชุดคลี่คลายคดี ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก แต่ยังคงเหลือในส่วนของตัวเรือฟินิกซ์ซึ่งถือเป็นประจักษ์พยานที่สำคัญ รวมทั้งยังได้มีการซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติการของผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในการใช้อำนาจ กอ.รมน. ซึ่งเป็นกฎหมายความมั่นคง  และกฎหมายทางด้านป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน มากำกับดูแลควบคุมสั่งการจัดระเบียบท่าเทียบเรือในจังหวัดภูเก็ตซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม 2561 ภาพรวมที่ได้รับคำตอบจากทั้งภาครัฐและเอกชนมองว่าเดินทางในทิศทางที่ถูกต้องแล้ว

อีกประเด็น คือ การหารือเพิ่มเติม จะต้องทำอย่างไรในส่วนของขากลับจากเกาะ ซึ่งเกาะหรือที่หมายเหล่านั้น ไม่ได้มีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่มาก่อน จะได้มีการสื่อสารเพิ่มเข้าไปอีก อย่างน้อยที่สุดให้ทุกฝ่ายที่ทำหน้าที่อยู่นั้นได้รับรู้ว่าขณะนี้การควบคุมและการลงทุน เพื่อที่จะดูแลเรือขาออกจากฝั่งไปนั้น มีความชัดเจนแล้ว และคาดว่าภายในไม่เกินเดือนพฤศจิกายนนี้  ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง ก็จะมีความครบถ้วน เพียงพอในการที่จะประกาศความมั่นใจได้เต็มที่  

อย่างไรก็ตามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวอีกว่า สิ่งที่เราจะต้องระมัดระวังคือ การนำเสนอข่าวที่เกี่ยวกับความคืบหน้าของสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุเรือฟินิกซ์ล่ม ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีการสรุปที่ชัดเจน เพราะหากมีข้อมูลที่ไม่ถูกต้องอาจจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศได้ และในช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้ตนก็จะต้องเดินทางไปปักกิ่งเพื่อพบกับรัฐมนตรีท่องเที่ยวของจีน เชื่อแน่ว่าจะต้องมีการซักถามในเรื่องนี้ ซึ่งพร้อมชี้แจงต่อผู้เกี่ยวข้องของจีน โดยเฉพาะประเด็นดราม่าต่างๆ ในช่วง 50 วันที่ผ่านมา และขณะนี้หลายเรื่องปรากฏความจริงแล้ว แต่มีหลายเรื่องที่ยังรอเวลา ดังนั้นจึงต้องมีความระมัดระวังในการนำเสนอข้อมูลเป็นอย่างมาก และขณะนี้ประเด็นที่ทางการจีนร้องขอให้ดำเนินการนั้น ก็ดำเนินเกือบ 100% แล้ว ทั้งการค้นหาและการเยียวยาซึ่งสำเร็จลุล่วงด้วยดี คงเหลือสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุที่ต้องรอการกู้เรือขึ้นมา รวมถึงผู้รับผิดชอบกับเหตุที่เกิดขึ้นด้วย

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ