เปิดเส้นทาง 'เสี่ยอ้วน' หลบหนีก่อนถูกจับ!

 

               สระแก้ว - เปิดเส้นทาง “เสี่ยอ้วน” หนีคดีฆ่าฟอส-สปาย จากประเทศไทยไปกัมพูชา ชาวบ้านในพื้นที่ระบุ เป็นช่องทางที่ชาวกัมพูชา ลักลอบเข้าประเทศ หลังรู้ข่าวโล่งใจและดีใจที่สองหนุ่มสาวจะไม่ตายฟรี

 

               เมื่อวันที่ 16 ส.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่กัมพูชา สามารถจับกุมตัวและจะมีการเตรียมส่งมอบตัว “เสี่ยอ้วน” หรือ นายปัญญา ยิ่งดัง ผู้ต้องหารายสำคัญ คดีจ่อยิงและบงการฆ่าอย่างโหดเหี้ยม นายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือ “น้องฟอส” อายุ 21 ปี และ น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือ “น้องสปาย” อายุ 20 ปี ที่บริเวณด้านหน้าองค์พระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังหลบหนีคดีกว่า 15 วันในประเทศกัมพูชา

 

 

 

 

               ทั้งนี้ คาดว่า “เสี่ยอ้วน” น่าจะถูกนำตัวกลับประเทศไทยผ่านช่องทางจุดผ่านแดนถาวรปกติ ที่บ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ หรือ ที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว แต่หลายกระแสระบุอีกว่า อาจนำตัวขึ้นเครื่องบินตรงไปที่กรุงเทพฯ เพื่อให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. แถลงข่าว ก่อนนำตัวไปทำแผนที่ จ.ชลบุรี

 

               แต่หลังจาก “เสี่ยอ้วน” ถูกจับกุม มีคำถามที่หลายฝ่ายต้องการรู้ว่า เสี่ยอ้วน หนีออกนอกประเทศได้อย่างไร

 

               ซึ่งจากการแกะรอยตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค.61 และเจ้าหน้าที่่พบรถยนต์กระบะของเสี่ยอ้วน ตกข้างทางในพื้นที่ ต.ท่าเกษม อ.เมือง จ.สระแก้ว จนนำไปสู่การจับกุมคนขับรถที่ ต.เขาฉกรรจ์ และไขกุญแจไปสู่เส้นทางหลบหนี ก่อนเจ้าหน้าที่เข้าจู่โจมจับกุมเพียงไม่กี่ชั่วโมง

 

 

 

 

               แหล่งข่าวรายหนึ่ง เปิดเผยว่า เสี่ยอ้วน ได้ใช้เงินว่าจ้าง “โกวัน” ด้วยเงินจำนวน 300,000 บาท เพื่อจัดการนำพาตัวเองออกนอกประเทศ โดยถูกพาไปพบกับ “นายน้อย” ที่ ต.ทุ่งมหาเจริญ อ.วังน้ำเย็น และว่าจ้างนายน้อย 25,000 บาท ให้พาไปส่งยังช่องทางธรรมชาติสำหรับหนีออกนอกประเทศ ถึงจุดสุดท้ายก่อนออกนอกประเทศช่วงเวลาประมาณ 17.00 น.ของวันที่ 1 ส.ค.

 

               โดยเสี่ยอ้วน ถูกพามาที่บริเวณจุดคอกวัวและแยกต้นโพธิ์ ซึ่งเป็นช่องทางที่รู้กันของกลุ่มลักลอบนำชาวกัมพูชาเข้าประเทศ สำหรับเข้า-ออกช่องทางธรรมชาติ โดยมีชาวกัมพูชาเป็นผู้นำพาเดินข้ามไปยังฝั่งกัมพูชา และอำพรางตัวด้วยการรับจ้างไปเรื่อยๆ จนไปถึงชายแดนเวียดนาม ระยะทางเกือบ 600 กม. และถูกจับกุมในที่สุด

 

 

 

 

               สำหรับบรรยากาศที่บริเวณด่านผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ซึ่งถูกระบุว่า เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะนำผู้ต้องหารายสำคัญรายนี้กลับประเทศ มีการเดินทางเข้าออกของชาวไทยและกัมพูชาบางตา เจ้าหน้าที่ทหารพรานในพื้นที่ยังคงตรวจสอบการเข้า-ออกบริเวณด่านและเส้นทางสายความมั่นคงอย่างเข้มงวด ซึ่งล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวบุคคลทั้ง 3 ราย ที่เกี่ยวข้องกับการนำพาเสี่ยอ้วน ออกนอกประเทศได้แล้ว แบ่งเป็นคนไทย 2 รายและชาวกัมพูชา 1 ราย

 

 

 

 

               โดยชายสูงอายุในพื้นที่ เล่าว่า เส้นทางชายแดนไทย-เขมร มีเขตติดต่อกันไปถึง อ.อรัญประเทศ และเป็นเส้นทางหนึ่งที่ชาวกัมพูชาใช้หลบหนีเข้า-ออกประเทศไทย ซึ่งจุดแยกต้นโพธิ์ใกล้กับหมู่บ้านนี้ ถือว่า เป็นจุดหนึ่งที่มีการเข้า-ออกมากและเป็นที่รู้กันของคนในพื้นที่

 

 

 

 

               ขณะที่ หญิงสาวชาวบ้านในพื้นที่อีกราย ก็บอกเช่นกันว่า ชาวบ้านทราบกันดีว่า เส้นทางจุดคอกวัวและแยกต้นโพธิ์ เป็นเส้นทางเข้า-ออกของชาวกัมพูชาตามเส้นทางธรรมชาติ รถไม่สามารถวิ่งเข้าไปได้ แต่ต้องเดินไป และรู้ข่าวเมื่อ 2-3 วันว่า เสี่ยอ้วนก็ใช้เส้นทางนี้หนีออกนอกประเทศเช่นกัน ซึ่งหลังรู้ข่าวว่าเสี่ยอ้วน ถูกจับแล้ว ก็ดีใจ ที่โดนจับ 2 คนนั้นจะได้ไม่ตายฟรี