ข่าว

อาสาผลักดันช้างป่าถูกยกร่างฟาดต้นไม้ดับสยอง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

อาสาฯ วัย 56 ปี ถูกช้างป่าทำร้ายใช้งวงยกร่างฟาดกับต้นไม้เสียชีวิตเป็นรายที่ 2 รอบ 3 เดือน เผย กลุ่มช้างป่า 3 ตัว ดุ ไม่กลัวคน - อุปกรณ์ไล่ จ้องไล่กวดทันทีที่พบ

              เมื่อเวลา 18.30 น. (15 ส.ค.)  นายเจริญ ใจชน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ได้รายงาน นายดำรัส โพธิ์ประสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ถึงสถานการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ว่า ได้เกิดเหตุช้างป่าทำร้ายราษฎรจนได้รับบาดเจ็บ สาหัส และเสียชีวิต ดังนี้

 

 

 

              ผู้เสียชีวิต นายมานะ สว่างเมฆ อายุ 56 ปี ราษฎรบ้านจันเดย์ ม.3 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี พื้นที่เกิดเหตุบริเวณสถานีวนวัฒนวิจัย บ้านเสาหงษ์ ม.2 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ในเขตอุทยานฯ ทองผาภูมิ

              สาเหตุการเสียชีวิตเนื่องจากถูกช้างป่าจับเหวี่ยงกระแทกกับต้นไม้ ทำให้ตับถูกกระแทกอย่างรุนแรง ซี่โครงหัก และมีเลือดคั่งในสมอง โดยผู้เสียชีวิตได้ร่วมกับ จนท.อุทยานฯ และราษฎรในพื้นที่ ออกปฏิบัติงานเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า ไม่ให้เข้ามาในเขตพื้นที่ชุมชนและพื้นที่ทำการเกษตรบ้านเสาหงษ์และบริเวณใกล้เคียง ทั้งนี้ ช้างป่ากลุ่มนี้มีจำนวน 3 ตัว (ชื่อเจ้าหูรู เจ้าหน้าบาก และเจ้างาเดียว) มีอายุประมาณ 10 - 15 ปี ลักษณะนิสัยดื้อ หงุดหงิดง่าย และคอยจ้องวิ่งไล่กวดผู้เฝ้าระวังผลักดัน ไม่เกรงกลัวอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลักดันแต่อย่างใด

              สำหรับ นายมานะ สว่างเมฆ เป็นทั้งเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรี และยังเป็นจิตอาสาชุดเฝ้าระวังช้างป่าด้วย โดยก่อนเกิดเหตุได้ร่วมกับชุดเฝ้าระวังช้างป่าบ้านท่าขนุน ชุดเฝ้าระวังกู้ภัยกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ รวมทั้งเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลท่าขนุน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวม 50 คน เฝ้าระวังและผลักดันช้างป่าทั้ง 3 ตัว ที่กำลังหากินพืชไร่ของประชาชนบริเวณป่าหลังสถานีวนวัฒนวิจัยทองผาภูมิ หมู่ 2 บ้านเสาหงษ์ ระหว่างทีมงานทั้งหมดกำลังเฝ้าระวังช้างป่าอยู่นั้น ปรากฏว่า นายมานะได้แยกตัวออกกลุ่มไปที่ไร่ข้าวโพดและมันสำปะหลังของตนเองเพื่อระวังช้างป่าไม่ให้เข้ามากินและทำลายพืชไร่ของตนเอง

 

 

 

              ด้วยความเป็นห่วงทีมงานจึงใช้วิทยุสื่อสารติดต่อไปยังนายมานะ แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ จึงกระจายกำลังกันออกค้นหา ไม่นานนักก็พบร่างของนายมานะนอนหงายเสียชีวิตอยู่กับพื้นใกล้กับต้นไม้ โดยขาขวาพาดอยู่กับง่ามของต้นไม้ และเปลือกของต้นไม้ยังมีร่อยรอยฉีกขาดอีกด้วย ทุกคนเชื่อว่าสาเหตุมาจากการถูกช้างป่าทำร้ายจนเสียชีวิตอย่างแน่นอน จึงรีบแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ มาตรวจสอบ ก่อนที่จะนำศพไปไว้ที่ รพ.ทองผาภูมิ เพื่อให้ญาตินำศพไปทำพิธีทางศาสนา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความเศร้าโศกเสียใจให้กับทุกคนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะครอบครัวของนายมานะ

              นายจิรชัย ถนอมวงษ์ นายกเทศมนตรีตำบลท่าขนุน กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้สร้างความเสียใจให้กับทุกคนเป็นอย่างมาก ตนในฐานะนายกเทศมนตรีตำบลท่าขนุน ต้องขอแสดงความอาลัยต่อการจากไปของนายมานะ และขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ด้วย

              “การเสียชีวิตของนายมานะต้องถือว่าเป็นอุทาหรณ์อีกครั้งหนึ่งและจะต้องนำมาเป็นบทเรียนให้กับทีมงานและเจ้าหน้าที่ทุกคนที่มีจิตอาสาเข้ามาอยู่ในทีมงานเฝ้าระวังและผลักดันช้างในครั้งต่อไป โดยทุกคนจะต้องระมัดระวังตัวเพิ่มขึ้น และอย่าปลีกตัวออกจากกลุ่มไปเพียงลำพังคนเดียวอย่างเด็ดขาด เพราะช้างป่าทั้ง 3 ตัว มีนิสัยที่ดุร้าย ไม่กลัวคน และไม่กลัวอุปกรณ์ที่นำไปขับไล่ ที่สำคัญช้างทั้ง 3 ตัว ยังคงหากินอยู่ในพื้นที่ด้วย ซึ่งทุกคนจำเป็นจะต้องเฝ้าระวังกันต่อไป” นายจิรชัย ถนอมวงษ์ นายกเทศมนตรีตำบลท่าขนุน กล่าว

 

 

 

 

 

 

              ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกัน นายอานนท์ ถนอมวงษ์ หรือ สจ.ตูน ได้นำคลิปวิดีโอความยาวกว่า 16 นาที มาโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมระบุว่า “ผมจะยังดูแลพี่น้องตลอดไป ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น” โดยเป็นคลิปช้างป่า 3 ตัว ที่ สจ.ตูน และทีมงาน ออกติดตามหาหลังจากที่ช้างป่าได้ทำร้ายนายมานะเสียชีวิต เชื่อว่าคือ เจ้าหูรู เจ้าหน้าบาก และเจ้างาเดียว ซึ่งช้างทั้ง 3 ตัว กำลังกินพืชไร่ของชาวบ้านที่อยู่ห่างจากบ้านเสาหงษ์ ประมาณ 100 - 200 เมตร เท่านั้น

              สำหรับตอนท้ายของคลิปพบว่า ช้าง 1 ใน 3 ตัว มีบาดแผลอยู่ที่ศีรษะบริเวณขมับด้านขวา จึงเชื่อได้ว่าช้างป่าตัวดังกล่าวเป็นช้างที่ทำร้ายนายมานะจนเสียชีวิต แต่เนื่องจากขณะถ่ายคลิปอยู่นั้น ระยะห่างอยู่ใกล้กับช้างมาก สจ.ตูน จึงรีบให้ทีมงานขับรถยนต์หนีออกไปก่อน แล้วค่อยกลับมาใหม่

              หลังจากที่ สจ.ตูน โพสต์ได้ไม่นานนัก มีสมาชิกเป็นจำนวนมาก เข้ามาแสดงความอาลัยต่อการจากไปของนายมานะ รวมทั้งแสดงความเสียใจต่อครอบครัว และกล่าวให้กำลังใจขอให้ สจ.ตูน พร้อมจิตอาสาทีมงานเฝ้าระวังช้างป่าทุกคนอดทุนและต่อสู้ต่อไป

              ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 16 พ.ค. นายปู่ สูงสง่าภูมิ อายุ 73 ปี ชาวบ้าน ถูกช้างป่าทำร้ายได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส เนื่องจากกระดูกซี่โครงหักทิ่มปอด จำนวน 4 ซี่ มีเลือดออกในช่องท้อง อีกทั้งกระดูกสันหลังข้อที่ 1 หักอีก 1 ข้อ แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลได้อย่างรวดเร็ว เหตุเกิดขณะที่นายปู่เข้าไปเก็บขมิ้นที่บริเวณป่าช่องยางน่อง บ้านผาอ้น พื้นที่หมู่ 3 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

 

 

 

 

 

 

              ห่างกันเพียง 11 วัน นายธรรมศิลป์ รัตนนุภาพพจน์ อายุ 54 ปี จิตอาสาทีมงานเฝ้าระวังช้างป่า ถูกช้างป่าทำร้ายด้วยการกระทืบเข้าที่หน้าอกได้รับบาดเจ็บ อาการสาหัส ทีมงานชุดเฝ้าระวังช้างป่าที่ไปด้วยกันได้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลทองผาภูมิเป็นการเร่งด่วน แต่นายธรรมศิลป์เสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 พ.ค. ที่บริเวณป่าบ้านผาอ้น หมู่ 3 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

              จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความสูญเสียให้กับคนในครอบครัวของผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะครอบครัวของนายธรรมศิลป์ รัตนนุภาพพจน์ และครอบครัวของนายมานะ สว่างเมฆ ชาวบ้านที่อาสาเข้ามาเฝ้าระวังช้างป่าไม่ให้เข้ามากินและทำลายพืชไร่ของประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก

              หากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ลงมาหาแนวทางแก้ปัญหาให้ได้อย่างยั่งยืน และยังคงให้ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ รวมตัวกันตั้งทีมงานเฝ้าระวังช้างป่าด้วยวิถีทางตามภูมิปัญญาด้วยการใช้เสียงตะโกนขับไล่ รวมทั้งใช้หนังสติ๊กและระเบิดลูกปิงปอง ยิงและขว้างใส่ช้างป่าอยู่เช่นนี้ เชื่อว่าอนาคตข้างหน้าจะมีการสูญเสียเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

 

 

 

อาสาผลักดันช้างป่าถูกยกร่างฟาดต้นไม้ดับสยอง

 

 

 

อาสาผลักดันช้างป่าถูกยกร่างฟาดต้นไม้ดับสยอง

 

 

 

อาสาผลักดันช้างป่าถูกยกร่างฟาดต้นไม้ดับสยอง

 

 

 

อาสาผลักดันช้างป่าถูกยกร่างฟาดต้นไม้ดับสยอง

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ