คุมทำแผน! ฆ่าทุบหัว-ทิ้งน้ำ 'หลานสะใภ้'

 

               บุรีรัมย์ - ตำรวจ สภ.แคนดง คุมตัวฆาตกรทุบหัวฆ่าโหดหลานสะใภ้วัย 36 ทิ้งน้ำอำพราง ทำแผน ท่ามกลางญาติและชาวบ้านนับร้อยมุงดู ต่างร้องไห้ด้วยความเสียใจ ตร.ค้านประกันตัวหวั่นยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ส่วนสาเหตุเหตุไม่แบ่งหญ้าไปเลี้ยงควาย

 

               เมื่อวันที่ 10 ส.ค.61 พ.ต.อ.โรมรัน จินดานุภาพ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแคนดง จ.บุรีรัมย์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ ได้ควบคุมตัว นายสุพรรณ นวลวรรณ์ อายุ 50 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุฆ่า น.ส.เต็ม ไชยโย อายุ 36 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานสะใภ้ โดยใช้ท่อนไม้ขนาดใหญ่ตีที่ท้ายทอย และใบหน้า ก่อนทิ้งศพในสระสาธารณะท้ายหมู่บ้าน เพื่ออำพรางคดีให้ดูเหมือนเป็นการจมน้ำเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา

 

               โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายสุพรรณ ทำแผนยังจุดเกิดเหตุ ตั้งแต่บริเวณที่ทั้งสองมีปากเสียงทะเลาะกันริมสระน้ำที่นำควายไปเลี้ยง ก่อนจะลงมือใช้ท่อนไม้ตีที่บริเวณบันไดทางขึ้น-ลงสระน้ำ แล้วปล่อยให้ น.ส.เต็ม จมน้ำเสียชีวิต

 

 

 

 

               เมื่อมั่นใจว่า น.ส.เต็ม เสียชีวิตแล้ว นายสุพรรณ นำท่อนไม้ที่ใช้ในการก่อเหตุไปทิ้งในป่าข้างสระน้ำ แล้วไล่ต้อนควายทั้งของตนเองและของผู้ตายกลับเข้าคอก ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

               โดยขณะทำแผนได้มีญาติและชาวบ้านมามุงดูเป็นจำนวนมาก หลายคนถึงกับร้องไห้เพราะทำใจไม่ได้ ที่ผู้ก่อเหตุเป็นน้าสามีของผู้ตายเอง และไม่คิดว่าสาเหตุเพียงเล็กน้อย แค่ทะเลาะกันเรื่องยืมเครื่องตัดหญ้าเพื่อนำไปตัดหญ้า แล้วไม่แบ่งหญ้าให้อีกฝ่ายไปเลี้ยงควาย จะเป็นชนวนที่ทำให้ถึงขั้นต้องลงมือฆ่ากันได้ลงคอ

 

 

 

 

               ขณะที่นายสุพรรณ ผู้ต้องหา ยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุฆ่าหลานสะใภ้จริง เนื่องจากไม่พอใจที่ถูกต่อว่าบ่อยครั้งเรื่องยืมเครื่องตัดหญ้ามาตัดหญ้าไปเลี้ยงควายแล้วไม่ยอมตัดให้กับผู้ตายด้วย แต่ผู้ตายก็ต่อว่าบ่อยไม่ยอมหยุด กระทั่งวันเกิดเหตุก็ยังตามไปต่อว่าอีกด้วยถ้อยคำรุนแรง จึงโกรธแล้วลงมือฆ่า ยอมรับโทษในสิ่งที่กระทำ พร้อมทั้งได้กล่าวขอโทษครอบครัวของผู้เสียชีวิต หากมีโอกาสก็จะทำบุญอุทิศส่วนกุศล ไปให้ผู้ตายด้วย

 

               ด้านนางจันทร์ทิพย์ ยอดกล้า พี่สาวผู้ตาย บอกว่า ไม่คาดคิดว่าผู้ที่ลงมือก่อเหตุฆ่าน้องสาวจะเป็นน้าของสามีน้องสาวเอง ซึ่งครอบครัวรับไม่ได้กับการกระทำที่โหดเหี้ยม และไม่คาดคิดว่าสาเหตุแค่ทะเลาะกันเรื่องเครื่องตัดหญ้าจะทำให้ถึงกับต้องลงมือฆ่ากันอย่างโหดเหี้ยมขนาดนี้ ทั้งยังพยายามปิดบังอำพรางให้เหมือนกับว่าน้องสาวตนเองจมน้ำเสียชีวิต ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจและทุกฝ่ายที่ช่วยเหลือจนสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้อย่างรวดเร็ว หากเป็นไปได้ก็อยากให้ลงโทษประหารชีวิตให้ตายตกตามกันไป เพราะชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต

 

 

 

 

               ด้าน พ.ต.อ.โรมรัน กล่าวว่า มั่นใจในพยานหลักฐานว่าจะสามารถเอาผิดกับผู้ต้องหาได้ โดยเบื้องต้นได้แจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” แต่หากมีหลักฐานเพิ่มเติมที่เชื่อได้ว่ามีการวางแผน หรือเตรียมการไว้ก่อน ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมอีก ทั้งนี้เบื้องต้นได้คัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญประชาชน และเกรงผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานด้วย

 

 

 

 

               สำหรับคดีดังกล่าว สืบเนื่องมาจากมีคนไปพบศพ น.ส.เต็ม จมน้ำเสียชีวิตที่สระสาธารณะท้ายหมู่บ้าน เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 6 ส.ค.61 ที่ผ่านมา แต่จากการตรวจสอบสภาพศพกลับพบร่องรอยบาดแผลฉกรรจ์ที่บริเวณเหนือคิ้วซ้ายคล้ายกับถูกของมีคมฟัน ท้ายทอยมีรอยคล้ายถูกของแข็งตี มีเลือดไหลออกไม่หยุด และบริเวณลำคอมีรอยเขียวช้ำคล้ายกับถูกบีบอย่างแรง ทำให้ญาติและชาวบ้านติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต เชื่อว่าน่าจะถูกฆาตกรรมแล้วนำศพมาโยนทิ้งน้ำเพื่ออำพราง จึงเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยส่งศพไปตรวจพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริง กระทั่งมีการส่งศพไปผ่าพิสูจน์และสืบสวนหาข้อมูลหลักฐาน จนนำไปสู่การจับกุมผู้ก่อเหตุได้ในที่สุด