ผู้ประสบภัยดินสไลด์ขอย้ายพื้นที่สร้างร้านใหม่

 

               นายอุทัย ทองทั่ว นายก อบต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย เปิดเผยว่า กรณีเหตุการณ์ดินสไลด์ที่บริเวณบ้านร่มฟ้าไทย หมู่ที่ 24 ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เกิดเหตุค่อนข้างรุนแรง เบื้องต้น ได้ให้ความข่วยเหลือ ถุงยังขีพ หลังจากฟื้นฟูพื้นที่เรียบร้อยแล้วจะชดเชยค่าเสียหายให้หลังละ 33,000 บาท ตามกฎหมาย ในส่วนของจังหวัดจะเป็นอีกขั้นตอนหนึ่ง ซึ่งได้รายงานความเสียหายเข้าไปแล้ว โดยทางจังหวัดจะพิจารณาให้ความช่วยเหลือต่อไป

 

 

 

               ที่ผ่านมา ได้มีการแจ้งข่าวสารให้ประชาชนทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ระวังจุดเสี่ยงดินสไลด์หากเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ต้องระวัง และต้องย้ายออกจากพื้นที่ เนื่องจากอยู่ในพื้นที่เสี่ยงอันตรายจากดินทรุด ดินสไลด์ สำหรับพื้นที่ที่เกิดเหตุในอดีตเมื่อ 20 ปีก่อน เป็นร่องน้ำเก่า มีน้ำไหล ต่อมาหน่วยงานภาครัฐได้เข้ามาทำถนน ถมที่เบี่ยงทางน้ำ ทำให้พื้นที่บริเวณนี้กลายเป็นที่อยู่อาศัยและร้านค้า และเมื่อ 2 ปี ที่ผ่านมา ในพื้นที่เริ่มมีฝนตกลงมาค่อนข้างหนัก ทำให้น้ำเกิดการกัดเซาะใต้ดินกลายเป็นโพรง จนทำให้เกิดดินทรุดตัวสไลด์ลงไปในหุบเขา

               ขณะนี้ได้รับการแต่งตั้งจากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ให้เป็นผู้อำนวยการดูแลความเสียหายในพื้นที่ จึงได้พยายามแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนในพื้นที่ โดนเฉพาะในกลุ่มที่ได้รับความเสียหาย ที่ได้รับความเดือดร้อน เบื้องต้น ได้ให้ผู้ใหญ่บ้านหาพื้นที่ทำกินทดแทนให้กับผู้เสียหาย เพื่อใช้ทำการค้าขายได้ หลังจากปรับพื้นที่เรียบร้อยแล้วจะทำการประเมินอีกครั้งว่าจะให้กลับมาดำเนินการที่จุดเดิมได้หรือไม่

               สำหรับพื้นที่บริเวณนี้เป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพื่อชมความสวยงามตามธรรมชาติของภูชี้ฟ้า มีรีสอร์ทและร้านค้าไว้รองรับนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในพื้นที่ปีละไม่ต่ำกว่า 1 แสนคน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลขึ้นปีใหม่ จะมีนักท่องเที่ยวหนาแน่นมาก

 

 

 

               นายลักษณ์ ภาระจำ ชาวบ้าน ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย เปิดเผยว่า ได้เปิดร้านอาหารตามสั่งมาประมาณ 10 ปี ในบริเวณกรณีดินถล่มบนถนนหมายเลข 1093 หมู่บ้านร่มฟ้าไทย หมู่ 24 ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย ซึ่งร้านของตนเองเป็น 1 ใน 4 อาคาร ที่ทรุดตัวลงไปในหุบเหวลึก สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเริ่มเห็นดินแยกตัวก่อนวันเกิดเหตุประมาณ 3 นิ้ว และตัวอาคารเริ่มทรุดตัวลงเล็กน้อย แต่คิดว่าไม่น่าจะเป็นอะไร

               หลังจากนั้นในวันที่ 31 ก.ค. เวลา 06.20 น. ได้มาเปิดร้านตามปกติ เริ่มมีดินทรุดตัวลงไปมากกว่าวันก่อน อาคารเริ่มเอียงมากขึ้น จึงยังไม่เปิดร้าน และได้ปรึกษากับช่างว่าจะดีดตัวอาคารที่ทรุดลงขึ้นมาเพื่อทำการแก้ไขเบื้องต้น แต่ยังไม่ทันดำเนินการ ดินก็เริ่มแตกมากขึ้น แล้วเริ่มทรุดตัวลงไปอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ร้านค้าใกล้เคียงสังกะสีเริ่มหลุด และดินเกิดการแยกตัว จึงเริ่มที่จะขนของออกมาบางส่วน ขณะเดียวกันดินเริ่มทรุดตัวลงมากขึ้น จึงเริ่มให้ทุกคนออกมาจากอาคาร หลังจากนั้นไม่นาน ร้านก็ทรุดตัวลงไปในเหวลึก และไม่นานร้านข้างๆ ก็เริ่มทรุดตัวตามลงไป รวม 4 ร้านค้า ค่าเสียหายรวมประมาณ 1.2 ล้านบาท

               ปกติตนเองจะอาศัยนอนที่ร้าน แต่ในวันเกิดเหตุเห็นว่าดินทรุดตัวแล้วร้านเริ่มเอียง จึงตัดสินใจไปพักที่บ้านที่อยู่บริเวณใกล้กัน คิดว่าโชคดีที่ไม่ได้พักอยู่ที่ร้าน หลังจากนี้ยังไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรต่อไป หากกลับมาทำที่เดิมได้ก็จะกลับมา ซึ่งขณะนี้ทางภาครัฐแจ้งว่าจะหาที่ใหม่ให้ ส่วนตัวขอแค่ค้าขายได้ก็พอแล้ว

 

 

 

               ส่วนพื้นที่ใหม่ที่อยากเสนอขอใช้เป็นที่ก่อสร้างร้านใหม่ อยู่ไม่ไกลจากจุดเดิมมากนัก เป็นพื้นที่มั่นคงปลอดภัย พื้นที่เพียงพอกับร้านทั้งหมดที่ได้รับความเสียหาย เนื่องจากจุดเดิมมีความเสี่ยงที่อาจจะเกิดดินสไลด์ได้อีก

               นายวีรวัฒน์ เมฆสกุลดี เจ้าของร้านขายของชำ ที่ได้รับความเสียหาย กล่าวว่า ในวันที่เกิดเหตุไม่ได้อยู่ในพื้นที่ แต่ได้รับโทรศัพท์จากครอบครัวว่าเกิดดินสไลด์ทำให้ร้านทรุดตัวลงไปในเหว ได้รับความเสียหายทั้งหมด หลังจากนี้ยังไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร แต่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่าจะจัดสรรที่ใหม่ให้ เนื่องจากบริเวณนี้คงไม่สามารถกลับมาทำได้แล้ว

               อย่างไรก็ตาม ความเสียหายที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ค่อนข้างรวดเร็วภายในระยะเวลา 10 - 20 นาที อาคารทั้งหลังก็ไหลไปอยู่ในเหวแตกแล้วจมลงไปในดิน ซึ่งอาคารของตนเองนี้เป็นคอนกรีต 2 ชั้น ก่อสร้างมาประมาณ 2 ปี ใช้งบประมาณก่อสร้างประมาณ 800,000 บาท โดยเปลี่ยนจากบ้านไม้เดิมที่เริ่มชำรุด เพราะเปิดมาเกือบ 20 ปี ซึ่งทั้งอาคารทรุดตัวลงไปโดยที่ไม่สามารถขนของออกมาได้เลย เมื่อรวมค่าเสียหายทั้งหมด ประมาณ 1 ล้านบาท

               ที่ผ่านมา ไม่เคยเจอภัยพิบัติรุนแรงขนาดนี้มาก่อน แม้กระทั่งเมื่อครั้งแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เชียงราย ตัวอาคารไม่ได้รับความเสียหายเลย เบื้องต้น ได้รับความช่วยเหลือจาก อบต. 33,000 บาท จากกาชาด 3,000 บาท ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะมีหน่วยงานไหนเข้ามาให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ในส่วนของผู้ประสบภัยเอง หากได้รับการจัดสรรพื้นที่ให้แล้ว อยากจะให้ช่วยสนับสนุนวัสดุก่อสร้าง สำหรับสาเหตุที่เกิดขึ้น คาดว่ามาจากฝนที่ตกต่อเนื่องหลายวัน ทำให้ดินชุ่มน้ำมากจนเกิดสไลด์ตัวลง

               น.ส.ซัว แซ่ว่าง เจ้าของร้านอาหารที่ได้รับความเสียหาย กล่าวว่า ร้านของตนเองเป็นอาคารคอนกรีต 2 ชั้น ขายอาหารตามสั่ง เปิดขายมานานแล้ว ค่าเสียหายคาดว่าประมาณ 1 ล้านบาท ขณะนี้อยากให้เจ้าหน้าที่เข้ามาดำเนินการให้พื้นที่ปลอดภัย ที่ผ่านมา ไม่เคยเจอเหตุการณ์ที่สร้างความเสียหายรุนแรงอย่างนี้มาก่อน