(มีคลิป)จับได้แล้ว!!จระเข้ภูเก็ตหลังล่าตัวนาน12วัน

 

          ความหน้ากรณีจระเข้โผล่ทะเลจังหวัดภูเก็ตบริเวณหน้าหาดยะนุ้ย ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมา ก่อนที่ว่ายน้ำไปตามชายหาดต่างๆ ตั้งแต่หาดในหาน หาดกะตะน้อย หาดกะรน หาดไตรตรังก่อนที่จะสามารถจับตัวได้เมื่อเวลา 04.00 วันนี้ (29ก.ค.61) บริเวณหน้าปากคลองลายัน หาดลายันหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ สน.4 (หาดลายัน) ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต

          โดยเจ้าหน้าที่ชุดติดตามจระเข้จังหวัดภูเก็ต ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ประมงจังหวัดภูเก็ต นำโดยนายโกวิทย์ เก้าเอี้ยน ประมงจังหวัดภูเก็ต, ประมงอำเภอถลาง, ประมงอำเภอเมืองภูเก็ต, เจ้าหน้าที่ชุดไกรทองลุ่มน้ำตาปีจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำโดย นายนิคม สุขสวัสดิ์ หัวหน้าชุดฯ, เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเล เกาะสิมิลัน พังงา ศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลเขต 3 กระบี่, เจ้าหน้าที่ทหารทัพเรือภาคที่3,เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล, ฝ่ายปกครองอำเภอถลาง และเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติหาดลายัน

 

 

 

          ซึ่งก่อนที่จะจับจระเข้ดังกล่าวได้นั้น ได้มีปฎิบัติการมาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งเวลาประมาณสามทุ่มของวันที่28กรกฎาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฯ พบจระเข้ตัวดังกล่าว ขึ้นมานอนบนชายหาดก่อนที่กลับลงทะเลไปอีกครั้งจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันเดินเท้าส่องไฟสำรวจตลอดแนวชายหาดลายัน–เลพังก่อนพบดวงตาจระเข้หลบอยู่หลังโขดหิน ที่บริเวณปากคลองลายัน ด้านหลังเกาะกระทะ จึงวางแผนนำอวนจำนวน3ชั้นเข้าล้อม ก่อนใช้เชือกคล้องปากของจระเข้ โดยใช้เวลาเข้าล้อมจับตัวประมาณ1ชั่วโมง จึงสามารถจับตัวได้ ก่อนนำส่งศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่ง บ้านพารา ม.4ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง

 

 

 

          โดยมีนายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และนายกองโทอดุลย์ ชูทอง นายอำเภอถลาง เดินทางไปตรวจสอบ เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่าจระเข้ตัวดังกล่าว เป็นเพศเมีย มีความยาว2.5เมตร พบตามผิวหนังมีตะไคร่น้ำเกาะเต็มคาดว่าจะถูกเลี้ยงไว้ในบ่อปูนก่อนที่จะหลุดออกมาในทะเล ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นจะเข้น้ำเค็มหรือพันธุ์ผสม ต้องรอตรวจพิสูจน์เลือดอีกครั้ง

 

 

 

          นายนิคม สุขสวัสดิ์ หัวหน้าชุดจับจระเข้ศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงน้ำจืดภาคใต้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (ชุดไกรทองแห่งลุ่มน้ำตาปี) กล่าวถึงปฎิบัติการจับจระเข้ในครั้งนี้ซึ่งใช้เวลานับตั้งแต่เจอตัวเมื่อวันที่18กรกฎาคม2561ที่ หาดยะนุ้ย ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต จนถึงวันนี้ (29ก.ค.61) รวมเวลา12วัน ว่า เหตุที่จับตัวได้ช้า เนื่องจากสภาพอากาศซึ่งมีคลื่นลมแรงความสูงของคลื่น2-3เมตรทำให้การทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบากและต้องมีการปรับแผนอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากมีการติดตามกันมาตั้งแต่หาดยะนุ้ย หาดในหาน หาดกะตะน้อย หาดกะรน หาดไตรตรังก่อนจะมาจับได้ที่หาดลายัน โดยก่อนลงมือปฎิบัติงานมีการตรวจเช็คและคำนวนณระดับน้ำทุกครั้ง ก่อนเข้าปฎิบัติการเพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับผู้ปฎิบัติงานด้วยและการจะเข้าจับตัวนั้นก็ต้องมีความมั่นว่าจะสามารถจับได้แน่นอนจึงจะลงมือปฎิบัติการ เพราะไม่เช่นนั้นเขาก็จะหนีไปทำให้ยากในการติดตามตัว

 

 
          “การจับในครั้งนี้ยากกว่าการจับเลพังในครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพคลื่นลมในทะเลที่ค่อนข้างแรง ไม่สามารถที่จะเข้าประชิดตัวจระเข้ได้ ต้องรอช่วงจังหวะที่คลื่นลมสงบ และต้องปฎิบัติการอย่างรวดเร็ว เพราะไม่เช่นนั้นระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งในการทำงานครั้งนี้เป็นการวางแผนร่วมกันภายใต้การนำของประมงจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับทีมไกรทองลุ่มน้ำตาปีสุราษฎร์ธานี, เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเล เกาะสิมิลัน พังงา ศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลเขต 3 กระบี่และยังมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกหลายๆ หน่วยในพื้นที่”

 

 
          นายนิคม กล่าวถึงวิธีการที่ทำให้สามารถจับตัวจระเข้ได้สำเร็จ ว่า ได้มีการสำรวจหาตำแหน่งที่จระเข้ลอยตัวขึ้นมาเหนือน้ำ จากนั้นก็เปิดตำแหน่งที่ต้องการจะจับเขาให้ว่าง และไปกดดันอีกพื้นที่ดดยใช้ไฟส่อง เพื่อให้หลบแสงไฟไปอยู่ในตำแหน่งที่ได้กำหนดไว้ เมื่อเขาเข้ามาในตำแหน่งที่กำหนด เมื่อเห็นดวงตาของเขาแล้วจากนั้นก็ใช้อวนเข้าล้อมไว้หนึ่งชั้น จากนั้นใช้อวนขนาดใหญ่ที่มีความแข็งแรงเข้าล้อมอีก2ชั้น เพื่อให้มั่นใจ จึงประสบความสำเร็จ

 

 

          ด้านนาย นายโกวิทย์ เก้าเอี้ยน ประมงจังหวัดเปิดเผยสั้นๆว่าจะต้องตรวจสอบว่าจระเข้ตัวดังกล่าวมีการฝังไมโครชิปไว้หรือไม่ ก่อนจะดำเนินการตามระเบียบของกรมประมงต่อไป