ข่าว

ส่งหมูป่ากลับบ้าน !!!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

13 หมูป่าเปิดใจครั้งแรกโชว์เล่นฟุตบอลพร้อมโค้ชเอก ทีมแพทย์ยืนยันกำลังใจเข้มแข็ง น้ำหนักขึ้น เดินตามฝันนักฟุตบอลอาชีพ

 

18 กรกฏาคม  2561 ที่อาคารคชสาร องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เจ้าหน้าที่ได้นำทีมหมูป่าอะคาเดมี่ พร้อมโค้ชทั้ง 13 คนเดินทางจาก โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์เพื่อมาแถลงข่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากที่ทั้ง 13 คนติดอยู่ภายในถ้ำหลวง วนอุทยาน - ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยมี นายสุทธิชัย หยุ่น เป็นผู้ดำเนินรายการ

 

การแถลงข่าวเริ่มต้นโดยการนำทีมหมู่ป่าทั้ง 13 คนเข้ามาภายในพื้นที่แถลงข่าวที่จัดเตรียมไว้โดยมีด้านหน้าเวทีจำลองเป็นสนามฟุตบอล เมื่อทีมหมูป่าเดินทางเข้ามาได้นำลูกฟุตบอลมาเตะและเล่นกัน ก่อนจะให้เพื่อนในทีมหมูป่าคนอื่น ๆ เพื่อนร่วมชั้น ให้เข้ามาพบกัน โดยบรรยากาศเป็นอย่างประทับใจ ก่อนจะเดินขึ้นไปบนเวที ซึ่งจัดทำเป็นที่นั่งลักษณะคล้ายอัฒจันทร์ ริมสนามฟุตบอล โดยมี พ.ท.นพ.ภาคย์ โลหารชุน ผบ.พันเสนารักษ์ที่ 3 หน่วยซีล ทั้ง 3 คนที่เข้าไปอยู่ภายในถ้ำ โดยนายประจญ ปรัชสกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย และนักจิตวิทยาร่วมแถลงข่าวด้วย

 

โดยโค้ชเอกได้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ก่อนเกิดเหตุดังกล่าวได้วางแผนกันมานานแล้วว่าจะเข้าไปยังถ้ำหลวง เพราะน้อง ๆ ในทีมที่ปั่นจักรยานด้วยกันบางคนยังไม่เคยไปจึงได้นัดกันเพื่อจัดทริปเข้าไปเที่ยวถ้ำพหลวงกัน โดยได้นัดกันหลังจากที่ซ้อมฟุตบอลเสร็จ โดยการซ้อมในวันนั้นเป็นการซ้อมแบ่งทีมระหว่าง ทีมสายเหนือ กับสายใต้ เมื่อเสร็จแล้วก็ได้พากันทานอาหารของว่าง แล้วได้พากันไปที่ถ้ำหลวง และมีกำหนดว่าจะกลับออกมาภายใน 17.00 น. โดยไม่ได้มีอาหารติดตัวเข้าอย่างที่มีข่าวก่อนหน้านี้

 

โดยขณะที่เข้าไปภายในถ้ำเหตุการณ์ปกติ เข้าไปสำรวจเลยจุดเนินนมสาวไปจนถึงจุดที่เรียกว่าเมืองลับแล แต่ขณะที่กำลังจะกลับออกมาก็พบว่าน้ำได้ท่วมบริเวณ 3 แยก ทำให้ออกไปไม่ได้ จึงได้หนีน้ำมาอยู่ที่บริเวณเนินนมสาว และดื่มน้ำประทังชีวิต นอกจากนี้ก็ได้พยายามขุดผนังถ้ำเพื่อจะหาทางออก และประหยัดไฟฉายใช้เฉพาะที่จำเป็น โดยขุดไปได้ประมาณ 3-4 เมตร แต่ก็ไม่ทะลุ ซึ่งทุกคนก็สลับกันไปขุดผนังถ้ำเพื่อหาทางออก จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่มาพบ

 

ด้าน พ.ท.นพ.ภาคย์ โลหารชุน กล่าวว่า ขณะอยู่ภายในถ้ำ ได้ประเมินร่างกายของน้อง ๆ ตลอด หลังจากที่พบ โดยพบว่าหลังจากที่น้อง ๆ ได้ทางอาหารเข้าไปประมาณ 3 - 4 มื้อ เริ่มมีสุขภาพที่ดีขึ้น ร่างกายเริ่มแข็งแรง และประเมินสุขภาพให้ทางทีมด้านนอกทราบเพื่อจะได้วางแผนในการนำตัวออกจากถ้ำ ซึ่งได้รับแจ้งภายหลังว่ามี 2 แผนก็คือการหาปล่องด้านบนแล้วเจาะให้ตรงกับจุดที่อยู่ แล้วโรยตัวออกไป กับการดำน้ำผ่นทางหน้าถ้ำ ซึ่งอาจจะต้องรอให้ระดับน้ำลดลงซึ่งก็จะต้องใช้เวลานาน

 

จนทางทีมด้านนอกตัดสินใจว่าจะนำน้องออกมาจากทางด้านหน้าถ้ำ จึงได้มีฝึกสอนในการดำน้ำ เบื้องต้นให้เกับเด็กๆ และนำออกมาในที่สุด ส่วนการเลือกว่าใครจะออกก่อนออกหลังนั้น ให้โค้ชเอกเป็นคนตัดสินใจ เพราะในขณะนั้นทุกคนแข็งแรงเหมือนกันหมด จะนำใครออกมาก่อนก็ได้ โดยโค้ชเอกก็ได้เลือกคนที่บ้านอยู่ไกลที่สุดออกมาก่อน จนที่สุดก็สามารถนำทุกคนออกมาได้อย่างปลอดภัย

 

 

โดยโค้ชเอก กล่าวว่ารู้สึกเสียใจต่อการจากไปของนาวาตรีสมาน กุนัน หรือจ่าแซม ที่เข้าไปช่วยเหลือซึ่งช่วงแรกที่ทุกคนทราบข่าวก็รู้สึกช็อคและไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นจริง จากนั้นก็รู้สึกเสียใจและคิดเหมือนกันว่าตัวเองเป็นต้นเหตุให้ครอบครัวของท่านต้องเสียใจ จึงขอให้พี่จ่าแซมไปสู่สุขติและพวกตนทุกคนจะบวชพร้อมกันโดยจะกำหนดให้บวชกี่วันก็ได้เพื่อจะได้อุทิศให้พี่่จ่าแซมพร้อมกันในอนาคตต่อไป

 

ในช่วงท้ายโค้ชเอกและเด็กๆ ทุกคนได้กล่าวขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และรับปากว่าจะเป็นคนดี ไม่ประมาท จะพิจารณาว่าสิ่งใดควรไม่ควร รวมทั้งขอโทษต่อครอบครัวของจ่าแซมโดยบนเวทีมีการนำภาพวาดจ่าแซมและระบุข้อความต่าง ๆ ของเด็ก ๆ มาแสดง ส่วนช่วงท้ายทุกคนต่างตั้งความหวังในอนาคตคล้ายกันว่าอยากจะเรียนหนังสือให้สูง ๆ และเป็นนักฟุตบอลอาชีพ

 

ขณะที่ทางจิตแพทย์และนักจิตวิทยาได้ขอให้สังคมเข้าใจทั้ง 13 คนและให้ได้ใช้ชีวิตตามปกติโดยไม่มีสิ่งใดพิเศษเพื่อให้มีพัฒนาการที่ดีหลังจากที่ผ่านมาถือว่าเป็นเด็กเรียนดีและเป็นนักกีฬาที่มีพัฒนาการที่ดีอยู่แล้วด้วย รวมทั้งให้เลี่ยงการถามความรู้สึกเกี่ยวกับเหตุการณ์หรือเปิดให้ปฏิเสธที่จะตอบคำถามใด ๆ ที่สำคัญคือให้ได้ใช้ชีวิตกับครอบครัว การเรียนและกีฬาไปตามปกติต่อไป

 

นายประจญ กล่าวว่าหลังจากเด็ก ๆ กลับบ้านแล้วทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะเป็นหน่วยงานที่ดูแลเด็ก ๆ อย่างใกล้ชิด และตามกฎหมายพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กปี 2546 จะมีทางอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ตำรวจ สาธารณสุข ฯลฯ เข้าไปดูแลว่ามีสิ่งใดเกิดกับเด็ก ๆ หรือมีผู้ใดเข้าไปหาเด็ก ๆ หรือไม่โดยจะรายงานให้ตนทราบทุกระยะรวมทั้งมีการประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ จนกว่าจะกลับสู่ภาวะปกติต่อไป ส่วนประเด็นที่ว่ามีเด็ก ๆ ในทีม 4 คนที่ยังไม่ได้สัญชาติไทยนั้นพบว่าทั้งหมดได้ยื่นขอสัญชาติไปที่ว่าการ อ.แม่สาย แล้วปัจจุบันกระบวนการอยู่ที่ฝ่ายทะเบียนอำเภอซึ่งจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

 

จากนั้นผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ได้มอบของที่ระลึกให้กับทั้ง 13 คนและให้ครอบครัวพาทั้งหมดเดินทางกลับบ้านได้โดยก่อนออกจากห้องประชุมทุกคนได้ยืนเรียงแถวและขอบคุณสังคมด้วยเสียงอันดัง ก่อนที่พ่อแม่ผู้ปกครองจะพาไปขึ้นรถตู้จำนวน 5 คัน ที่จอดรอยู่ที่ด้านหน้าอาคารคชสารเพื่อพาเดินทางกลับภูมิลำเนาอย่างเรียบง่าย

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ