ข่าว

13 หมูป่ากลับบ้านเล่าระทึกติดถ้ำ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"13 หมูป่า" เปิดใจก่อนกลับบ้าน เล่าระทึก กำลังออกจากถ้ำ แต่น้ำทะลักปิดทาง หนีตายขึ้นเนินนมสาว เสียใจ "จ่าแซม" สละชีวิต

          หลังผู้ช่วยโค้ชและนักฟุตบอลเยาวชนทีมหมูป่า อะคาเดมี่ รวม 13 คน เข้าไปเที่ยวในถ้ำหลวง-ขุนนางน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน แล้วไม่สามารถออกมาได้ ต่อมาเจ้าหน้าที่จากทุกภาคส่วนทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้าช่วยเหลือพาทั้งหมดออกมาได้อย่างปลอดภัยและเข้ารับการดูแลที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ล่าสุดมีการจัดแถลงข่าวเปิดใจก่อนทั้งหมดถูกส่งกลับบ้านที่ จ.เชียงราย

13 หมูป่ากลับบ้านเล่าระทึกติดถ้ำ แฟ้มภาพ
 

          เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนักฟุตบอลทีมหมูป่า อะคาเดมี่เตรียมออกจากโรงพยาบาลและจะให้สัมภาษณ์อย่างเป็นทางการผ่านรายการเดินหน้าประเทศไทยว่า เด็กๆ คงได้รับคำเตือนอยู่แล้ว ขอฝากสื่อที่จะไปถามคำถามก็ขอให้ระมัดระวัง ทุกอย่างก็เรียบร้อยและไปด้วยดีแล้ว อะไรที่ไม่สำคัญ ไม่จำเป็นก็อย่าไปซักไซ้ให้มาก วันนี้ทุกอย่างดีอยู่แล้ว รวมถึงการรับรู้ทั้งในและในต่างประเทศก็ดีทั้งหมด ไม่มีอะไรดีไปกว่านี้อีกแล้ว และเราก็ต้องไม่ทำอะไรให้เสียไปกว่าเดิม

          “ขอให้ทุกอย่างจบไปด้วยดีแล้วกัน อย่าให้เสียหาย ยิ่งทำอะไรที่มันมากเกินไป ทั้งเจตนาหรือไม่ บางทีก็จะทำให้เกิดความเสียหาย เพราะเด็กๆ บางครั้งคำถามเขาก็ไม่รู้ ก็ตอบไปด้วยความเป็นเด็ก สื่อต้องระมัดระวังกันหน่อย” นายกฯ กล่าว

“ร.10” พระราชทานอาหาร-การแสดง

          พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการจัดงานเลี้ยงขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ร่วมปฏิบัติการถ้ำหลวง ว่าจะเชิญทุกคนมาร่วมงานเลี้ยง มีการจัดอาหาร การแสดง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานมา ส่วนชาวต่างชาตินั้นก็เชิญไปแล้ว หากมาได้เขาก็จะมา อย่างไรก็ตาม รายละเอียดการจัดงานที่ชัดเจนต้องประชุมหารือกันอีกที ส่วนสถานที่นั้นนอกจากจะจัดที่กรุงเทพฯ แล้ว อาจต้องมีอีกแผนสำรองสำหรับผู้ที่ไม่สามารถเดินทางมากรุงเทพฯ ได้ เพราะมีคนจำนวนมาก แต่ก็เป็นพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระราชทานกำลังใจให้พวกเราทุกคน โดยเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะดูแลในเรื่องนี้

พระบรมราชานุญาตให้ใช้พระลานฯ

          นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้พระลานพระราชวังดุสิต เป็นสถานที่เพื่อจัดเลี้ยงผู้ที่มีส่วนช่วยทีม 13 หมูป่า อะคาเดมี่ ออกจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย อย่างปลอดภัย แต่ยังไม่ระบุวันและเวลา เพราะต้องดูอะไรหลายอย่าง ทั้งลม ฟ้า อากาศ และต้องดูว่าในช่วงเวลาไหนที่จะมีการใช้พระลานพระราชวังดุสิตทำกิจกรรมอีกเนื่องจากใกล้วันเฉลิมพระชนมพรรษา รวมถึงต้องดูแขกที่จะมาด้วย

13 หมูป่ากลับบ้านเล่าระทึกติดถ้ำ แฟ้มภาพ
 

          ทั้งนี้เราไม่ได้หวังเลี้ยงว่าใครจะมาหรือไม่มาก็ได้ เราคาดหมายให้เขามา โดยนายกฯ มอบหมายให้นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไปเจรจากับผู้เกี่ยวข้องในนามรัฐบาล อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่เดินทางกลับประเทศไปแล้ว เขาคงไม่กลับมา แต่เราจะเชิญทางสถานทูตมาร่วม ซึ่งในงานดังกล่าวนี้นายกรัฐมนตรี จะมาร่วมด้วยเพราะรัฐบาลเป็นเจ้าภาพ ทั้งนี้รายละเอียดทั้งหมดรอสอบถามนายสุวพันธุ์

20 ก.ค.ประชุมหารือจัดเลี้ยง

          พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.) กล่าวถึงการจัดงานเลี้ยงเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนช่วยเหลือทีมฟุตบอลหมูป่า อะคาเดมี่ ทั้ง 13 ชีวิตว่า ในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ จะมีการประชุมหารือในรายละเอียดเพิ่มเติมว่าการดำเนินการจัดงานจะทำอย่างไร จะเชิญใครบ้าง จะจัดเพียงสถานที่เดียว หรือสถานที่อื่นๆ ด้วยก็จะมีความชัดเจนขึ้นในการหารือวันดังกล่าว แต่แนวโน้มที่แน่ๆ คือรัฐบาลทำเรื่องขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ขอใช้สถานที่พระลานพระราชวังดุสิต เป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงในส่วนกลาง

13 หมูป่ากลับบ้านเล่าระทึกติดถ้ำ แฟ้มภาพ
 

          พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการเชิญผู้นำจากต่างประเทศมาร่วมงานด้วยหรือไม่นั้น ขอให้รอความชัดเจนจากการประชุมในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ก่อน เพราะส่วนที่เกี่ยวข้องต้องไปดำเนินการ ถ้าจะมีการเชิญใครไม่ว่าจะเป็นผู้นำจากต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศก็ต้องดำเนินการ


 

13 หมูป่าเปิดใจก่อนกลับบ้าน

          ที่อาคารคชสาร องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย จัดแถลงข่าวส่ง 13 สมาชิกหมูป่ากลับบ้าน หลังจากเข้ารับการดูแลรักษา ตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม จนถึงวันนี้ (18 ก.ค.) ซึ่งถ่ายทอดสดผ่านรายการเดินหน้าประเทศไทย เวลา 18.00 น. โดยมี นายสุทธิชัย หยุ่น ทำหน้าที่พิธีกรในการแถลงข่าวครั้งนี้ ในฐานะตัวแทนสื่อมวลชน พร้อมยืนยันคำถามนั้นได้ถูกคัดเลือกจากนักจิตวิทยา


13 หมูป่ากลับบ้านเล่าระทึกติดถ้ำ
 

          สำหรับสถานที่แถลงข่าวนั้น มีการจัดสถานที่บนเวทีคล้ายอัฒจันทร์ชมการแข่งขันฟุตบอลสูง 2 ชั้น และจัดให้มีหญ้าเทียมพร้อมลูกฟุตบอลจำนวนมากวางอยู่ ขณะที่ด้านล่างเวทีจัดหญ้าเทียมและสนามฟุตบอลขนาดย่อมเอาไว้ด้วยเช่นกัน โดยมีสื่อทั้งในประเทศและต่างประเทศจำนวนมากมารอทำข่าว ขณะที่หลายสำนักข่าวพร้อมใจกันถ่ายทอดสดจนจบ

13 หมูป่ากลับบ้านเล่าระทึกติดถ้ำ
 

          ก่อนการแถลงข่าวเริ่มขึ้น เจ้าหน้าที่ได้พา 13 ชีวิตทีมหมูป่า มาจากโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โดยสวมเสื้อผ้าในชุดทีมฟุตบอลหมูป่า ทอล์คอะคาเดมี หลังจากลงจากรถแล้ว เด็กๆ ได้เตะบอล เดาะบอลโชว์ ซึ่งทุกคนต่างโชว์ความสามารถได้อย่างคล่องแคล่ว หลังจากนั้นพิธีกรได้เชิญเด็กๆ ขึ้นเวทีแถลงข่าว และให้ทุกคนแนะนำตัว

13 หมูป่ากลับบ้านเล่าระทึกติดถ้ำ

เด็กๆ อำลาแพทย์-พยาบาล


13 หมูป่ากลับบ้านเล่าระทึกติดถ้ำ

          นพ.ไชยเวช ธนไพศาล ผอ.โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา(17 ก.ค.) เด็กๆ ได้มีกิจกรรมอำลาคณะแพทย์และพยาบาลที่ดูแล ซึ่งทุกคนอยู่ในสภาพสมบูรณ์แข็งแรง สุขภาพจิตดี ควบคุมอารมณ์ได้ เชื่อว่า ทุกคนจะสามารถออกไปดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข สู้ปัญหาได้ ทุกคนอยากกลับบ้าน

“หมอภาคย์” นัดพบที่โคราช

          พ.ท.นพ.ภาคย์ โลหารชุน หรือ หมอภาคย์ ผู้บังคับการกองพันเสนารักษ์ที่ 3 เปิดเผยว่า น้องๆ น่าจะพร้อมตั้งแต่ในถ้ำแล้วด้วยซ้ำ หลังจากได้อาหารไปภายในถ้ำหลวงแล้ว ทำให้น้องๆ คุยกันมากขึ้น พูดคุยเรื่องกินกันมากขึ้น มีเมนูแนะนำ ไส้อั่วงู ทั้งนี้ หมอภาคย์ บอกว่า มีนัดกับน้องๆ ที่จะไปเที่ยวที่ค่ายกองพันเสนารักษ์ จ.นครราชสีมา ในช่วงปิดเทอม

13 หมูป่ากลับบ้านเล่าระทึกติดถ้ำ
 

          สำหรับวิธีที่จะพาเด็กออกจากถ้ำ เป็นการตัดสินใจของทีมอยู่ข้างนอก ขณะนั้นตนเองคิดว่า หากเจาะหาโพรงออกได้จะเป็นการดีกว่าดำน้ำออกมา ทุกนาทีเป็นห่วงเด็กๆ อย่างมาก เด็กๆ เสมือนเป็นลูก เพราะตนเองก็มีลูกชายวัยใกล้เคียงกัน

          ด้านทีมแพทย์ประเมินด้านสุขภาพจิต เปิดเผยว่า เด็กๆ ผ่านกิจกรรมต่างๆ ซึ่งก็ยืนยันว่า เด็กๆ ทุกคนมีความเข้มแข็งดี จิตใจดี พร้อมสามารถรับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้

นาทีพบนักดำน้ำชาวอังกฤษ

          ด.ช.อดุลย์ สามออน อายุ 14 ปี กล่าวว่า ระหว่างที่กำลังขุดดิน ขุดหลุม ได้ยินเสียงคนคุยกัน จึงหยุด เรียกกันให้หันมาดูทางต้นเสียง แล้วก็เรียกให้น้องมิกลงไป เป็นจังหวะที่ได้ยินเสียงก็ลงไปทักทายไปก่อนว่า ฮัลโหล เขาก็ตอบกลับเป็นภาษาอังกฤษ แล้วถามว่า มีทั้งหมดกี่คน ก็โต้ตอบกันด้วยภาษาอังกฤษ

 

13 หมูป่ากลับบ้านเล่าระทึกติดถ้ำ
 

          ทั้งนี้ เด็กๆ บอกด้วยว่า ตลอดเวลาที่อยู่ในถ้ำได้กินแต่น้ำ ไม่มีอาหาร วันแรกยังไม่เท่าไหร่ แต่พอผ่านไป 2-3 วัน รู้สึกหิวจนแสบท้อง อ่อนแรง หน้ามืด ต้องพยายามไม่นึกถึงกับข้าว เพื่อจะได้ไม่หิว หลังจากผ่านไป 10 วัน นักดำน้ำชาวอังกฤษก็มาพบและช่วยเหลือ

          นายเอกพล จันทะวงษ์ หรือ โค้ชเอก อายุ 25 ปี ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน กล่าวว่า เป็นเจ้าของคำว่า แปลหน่อยดิๆ เนื่องจากตนเองไม่รู้ภาษาอังกฤษ ทุกคนดีใจมาก ที่ได้เจอนักดำน้ำชาวอังกฤษ ในตอนนั้น เป็นความหวังแรกในรอบ 10 วัน หลังจากนั้นน้องๆ บอกว่า ต่อมาก็บอก eat eat eat อย่างเดียว เพราะหิว ขณะที่อยู่ที่โรงพยาบาล ในวันแข่งขันบอลโลกรอบชิงชนะเลิศ ก็ได้ดู คุณหมออนุญาต และแบ่งกันเชียร์ โดยส่วนใหญ่เชียร์ทีมฝรั่งเศส มี 2 คน เชียร์โครเอเชีย

          สำหรับการออกจากถ้ำนั้น ไม่ได้มีการแบ่งกันว่า ใครอ่อนแอกว่า หรือ ใครสมบูรณ์กว่าจะได้ออกก่อน เป็นไปตามความสมัครใจ โดยตนเองเลือกที่จะออกหลังสุด

 

เผยปมชักชวนกันเข้าถ้ำหลวง

          โค้ชเอก กล่าวต่อว่า น้องๆ อยากไปเที่ยวถ้ำหลวง วางแผนไว้ล่วงหน้า โดยไปเล่นฟุตบอลอุ่นเครื่องกัน หลังจากอุ่นเครื่องเสร็จก็ไปเที่ยวถ้ำกัน เพราะทุกคนอยากไป น้องๆ บางคนยังไม่เคยไปเลยอยากเห็น ตนเองและน้องๆ บางคน เคยไปถึงจุดเนินนมสาว ซึ่งครั้งแรกไปเจอตรงจุดสามแยกมีน้ำนิดๆ ครั้งนี้ก็เช่นกัน ซึ่งได้บอกกับเด็กๆ ว่า ให้เวลา 1 ชั่วโมง ในการเข้าไป แผนคือเข้าไปแล้วกลับออกมา ซึ่งน้องไนท์บอกว่า พ่อกับแม่ จัดงานวันเกิดรออยู่ที่บ้าน และยังชวนพี่ๆ คนอื่นด้วย ซึ่งเมื่อเข้าไปถึงจุดที่เรียกว่า เมืองลับแล เจอน้ำท่วมอยู่ ก็ตกลงกันว่าจะไปกันต่อโดยว่ายน้ำไป ซึ่งมีน้องบางคนว่ายน้ำไม่เป็น แต่ส่วนใหญ่ว่ายน้ำกัน ระหว่างน้องตี๋ว่ายไป ก็เช็กระดับน้ำอยู่ ซึ่งก็ไม่ลึก ทั้งหมดเลยไปต่อ ซึ่งไปถึงจุดเป็นเนิน และจุดที่ไปต่อมีน้ำ ก็เลยตกลงกันว่า จะถอยทัพก่อนเพราะหมดเวลาแล้ว ซึ่งก็ว่ายน้ำกลับมาตามปกติ ซึ่งตรงจุดสามแยกน้ำท่วมแล้ว

13 หมูป่ากลับบ้านเล่าระทึกติดถ้ำ

กระตุกเชือก 2 ครั้งเป็นสัญญาณ

          โค้ชเอก เล่าต่อว่า จึงบอกเด็กๆ ว่า จะไปสำรวจ โดยถือเชือกไปด้วย ตกลงกับน้องๆ ว่า ถ้ากระตุกเชือก 2 ครั้งแสดงว่าไปไม่ได้แล้ว ซึ่งไปแล้วก็พบว่าไปไม่ได้ จึงกระตุกเชือกให้น้องๆ ดึงกลับ แล้วกลับมาบอกน้องๆ ว่าออกไม่ได้ ต้องหาทางออกใหม่ น้องๆ บางคนก็ห่วง กลัวแม่ว่า ก็คิดว่าเดี๋ยวคงออกได้ เดี๋ยวก็หาทางออกได้ บอกทุกคนสู้ต่อ ทุกคนมีกำลังใจดีมาก ต้องใช้การกระตุกเชือกกันเพราะว่า ส่งเสียงแล้วไม่ได้ยิน

สัญญาจะเป็นเด็กดี-ใช้ชีวิตให้คุ้มค่า

          ในตอนท้ายรายการ เด็กๆ กล่าวว่า "พวกเราทุกคนมีความรู้สึกผูกพันกับเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปดูแลเสมือนญาติ เสมือนเราเป็นลูก พี่ๆ ทุกคนเสมือนพ่อ และประทับใจจ่าแซมที่เสียสละชีวิตเข้ามาช่วย ครั้งแรกที่รู้ว่า จ่าแซมเสียชีวิต เสียใจมากที่เป็นต้นเหตุ ต่อมาได้เขียนข้อความในใจลงบนรูปของจ่าแซม ขอสัญญาว่าจะเป็นเด็กดี จากการที่เข้าไปติดถ้ำ ทำให้รู้ว่า ใช้ชีวิตอย่างประมาท ไม่คิดก่อนทำ นับต่อจากนี้เป็นต้นไป จะใช้ชีวิตให้คุ้มค่าที่สุด และต้องขอโทษทุกๆ คน โดยเฉพาะพ่อ แม่ ผู้ปกครอง ที่ไม่ได้บอกว่าจะไปเข้าถ้ำ บอกแต่เพียงว่า จะไปเตะฟุตบอลกันเท่านั้น

13 หมูป่ากลับบ้านเล่าระทึกติดถ้ำ

          สมาชิกหมูป่าบอกด้วยว่า ในอนาคตนอกจากอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพอย่างที่ตั้งใจไว้แต่แรกแล้ว ขณะนี้มีความคิดว่า อยากเป็นทหารหน่วยซีล เพื่อที่จะได้ใช้วิชาความรู้ช่วยเหลือผู้อื่น เหมือนกับที่พวกตนได้รับ

          ขณะที่ นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า หลังจากนี้ทางทีมแพทย์จะมีการติดตามดูแลทั้ง 13 คน จนกว่าสถานการณ์จะกลับคืนสู่สภาวะปกติ

ส่งจิตแพทย์ติดตาม 13 หมูป่า

          นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 1 กล่าวว่า กระบวนการดูแลเด็กทั้ง 13 คนจากนี้จะมีการส่งทีมจิตแพทย์ไปติดตามอาการ หลังจากกลับบ้านไปพักฟื้น 1 สัปดาห์ โดยมีการประสานร่วมกับทางโรงเรียนให้ช่วยดูแล เพื่อสังเกตพฤติกรรมของเด็ก การใช้ชีวิตปกติกับเพื่อน หรือคนใกล้ชิด จากนั้นจะติดตามเดือนละ 1 ครั้ง ตั้งแต่เดือนสิงหาคม-ตุลาคม จากนั้นจะแบ่งการติดตามเป็น 6 เดือนครั้ง ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 2 ปี ตามที่ราชวิทยาลัยจิตแพทย์ฯ ให้คำแนะนำ และก่อนที่จะให้น้องๆ กลับบ้าน ทางโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ได้ให้คำแนะนำและฝึกอบรมเด็กให้เป็นคนคิดบวก มองโลกในแง่ดี ร่วมกับการฝึกอบรมพ่อแม่ผู้ปกครอง และคนใกล้ชิดที่เป็นญาติสายตรงของเด็กทั้ง 13 คน รวม 52 คน

13 หมูป่ากลับบ้านเล่าระทึกติดถ้ำ
         

          ทั้งนี้ จากการพูดคุยกับน้องๆ ทั้ง 13 คน ร่วมกับการประเมินร่างกายและจิตใจ พบว่า ดูเป็นปกติดี น้องๆ มีสภาพจิตใจที่แข็งแกร่ง ตลอดเวลาที่อยู่ภายในถ้ำมีความหวัง เห็นได้จากความพยายามในการขุดถ้ำ ซึ่งตรงกับหลักสุขภาพจิตของคนที่จะผ่านพ้นวิกฤติไปได้ ต้องอึด ฮึด สู้ แต่การปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้ ปัจจุบันต้องอาศัยคนรอบข้าง และทัศนคติพื้นฐานของจิตใจที่ได้รับการปลูกฝังจากครอบครัว

นอภ.แม่สายวอนสื่ออย่าตามเด็ก

          นายสมศักดิ์ คณาคำ นายอำเภอแม่สาย จ.เชียงราย เปิดเผยว่า จากที่ได้พูดคุยกับผู้อำนวยการโรงเรียนต่างๆ ที่สมาชิกทีมหมูป่ากำลังศึกษาอยู่นั้น ทราบว่าโรงเรียนไม่ต้องการให้องค์กรการกุศลต่างๆ รวมทั้งสื่อมวลชนเข้าไปพบเด็กที่โรงเรียน เพราะต้องการให้เด็กศึกษาเล่าเรียนอย่างจริงจังหลังขาดเรียนมาเป็นเวลานาน

 

13 หมูป่ากลับบ้านเล่าระทึกติดถ้ำ

          การติดตามไปทำข่าวหรือรายงานชีวิตและเด็กแบบติดตามไม่ต้องการให้เกิดขึ้น นอกจากนี้ทางโรงเรียนได้พูดคุยกับผู้ปกครองแล้วว่าหน้าที่ของเด็กๆ คือเรียนหนังสือ อย่างไรก็ตามทางโรงเรียนฝากขอบคุณหน่วยงานต่างๆ ที่ติดต่อเข้ามาด้วย

มีคนแปลกหน้าติดตามครอบครัว

          นายอำเภอแม่สาย กล่าวว่า ได้รับทราบจากผู้ปกครองเด็กทีมหมูป่าหลายคนว่าขณะนี้มีรถยนต์หลายคันขับไปตามเส้นทาง หรือลักษณะขับจี้รถของครอบครัวเด็กไปติดๆ ทั้งแบบมีชื่อหน่วยงานและไม่มีชื่อ และบางคันไปจอดซุ่มอยู่หน้าบ้าน หรือเมื่อรถของครอบครัวขับไปไหนก็มีรถขับติดตาม ซึ่งผู้ปกครองหวั่นวิตกว่า ไม่รู้ว่าใครเป็นใครทำให้เกิดความระแวง อยากขอความร่วมมือจากทุกคนขอให้เลิกการกระทำเช่นนี้

แนะแจ้งตำรวจหากถูกคุกคาม

          ขณะเดียวกันทราบว่ามีความพยายามจากหลายสื่อที่ตามประกบไปถึงบ้านเด็กเพื่อพูดคุยกับผู้ปกครองในการนำตัวเด็กมาออกรายการต่างๆ เป็นแบบเฉพาะ ซึ่งได้คุยกับผู้ปกครองแล้วว่าขอให้พิจารณาหน้าที่หลักของเด็ก คือเรียนหนังสือ อย่าลืมว่าเด็กขาดเรียนมาแล้วร่วมเดือน การเรียนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในช่วงนี้ การที่ใครจะพาเด็กหรือครอบครัวไปออกทีวี หรือไปเข้าพบหน่วยงานใด พบใคร ไม่ใช่เรื่องที่ควรให้เกิดหลังจากนี้ เนื่องจากเด็กต้องกลับไปใช้ชีวิตปกติ และได้รับการปฏิบัติเหมือนเด็กนักเรียนคนอื่นๆ ถ้าหากผู้ปกครองเด็กรู้สึกถูกคุกคาม มีสิทธิ์แจ้งความได้

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ