เรือล่มพ่นพิษ ย้าย "เจ้าท่าฯภูเก็ต"

              พล.ต.ต. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวถึงความคืบหน้าของการดำเนินคดีกับเจ้าของบริษัท ทีซี บลูดรีม จำกัด เจ้าของเรือฟินิกซ์  ว่า หลังจากศาลจังหวัดภูเก็ตได้อนุมัติหมายจับนางสาววรลักษณ์ ฤกษ์ชัยกาล หรือยุ้ย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีซี บลู ดรีม จำกัด (เจ้าของเรือฟินิกซ์) และได้สั่งการให้ชุดสืบสวนออกติดตามกดดันอย่างหนัก จนกระทั่งวันนี้  (14 ก.ค.61) นางสาววรลักษณ์ฯ ก็ได้เดินทางเข้ามามอบตัวกับพนักงานสอบสวนแล้ว โดยแจ้งข้อหาว่า ประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
         “ในช่วงวันแรกที่เกิดเหตุทางเจ้าของบริษัทฯ ได้รับปากว่า จะดูแลอย่างเต็มที่ และจากการพูดคุยกับผู้ญาติของผู้เสียชีวิต ตลอดจนผู้ว่าการและผู้แทนมณฑลที่มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด รวมถึงบริษัทที่มีพนักงานทำงานอยู่กับบริษัทเจ้าของเรือที่เกิดเหตุ ต้องการทราบว่าทางบริษัททีซี บลูดรีมฯ ได้ให้การช่วยเหลืออะไรบ้าง เพราะขณะนี้ยังไม่มีอะไรที่ชัดเจน มีเพียงแต่บอกว่าให้ความช่วยเหลือ”
     

    พล.ต.ต.สุรเชษฐ์  กล่าวว่า ในส่วนของการดำเนินคดีทั้งหมด เจ้าของบริษัทตัวจริงหรือไม่คาดว่าจะรู้ความจริงๆ ในเร็ว ๆ นี้  ซึ่งวันนี้ได้เตือนแล้ว กรณีเอาบุคคลภายนอกที่ไม่มีความรู้ อายุประมาณ 23-28 ปี มาเป็นเจ้าของบริษัทที่มีมูลค่าการลงทุนร้อยล้านพันล้านบาท เหล่านี้คือนอมินี  ซึ่งขณะนี้ไม่ได้ตำหนิว่าใครเป็นนอมินี แต่เมื่อเกิดเหตุขึ้นไม่สามารถแก้ปัญหาได้รับผิดชอบไม่ไหว สอบถามกับทางเจ้าของบริษัทฯ ซึ่งก็ยังตอบไม่ได้ว่าจะช่วยเหลืออะไรอย่างไร สิ่งที่คนจีนรออยู่ขณะนี้ คือ การเยียวยา 
          “จากการพูดคุยกัน สิ่งที่เขาต้องการทราบรายละเอียด คือ เร่งรัดเงินประกันและเงินที่รัฐบาลจ่ายให้ญาติของผู้สูญเสีย รวมถึงการจัดเตรียมเอกสารต่างๆ  ที่จะนำมาประกอบการขอรับเงิน ซึ่งได้มีการนำเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบมาชี้แจงทำความเข้าใจแล้ว  โดยเงินเยียวในส่วนของรัฐบาลจะต้องใช้เวลาประมาณ 20 วัน แต่กรณีของประกันภัยเอกชนนั้นมีการจ่ายให้เลย ซึ่งการชี้แจงดังกล่าวทำให้เขามีความเข้าใจและมีความมั่นใจมากขึ้น กับในส่วนของรายสุดท้ายซึ่งร่างยังติดอยู่ท้องเรือเขาต้องรับศพกลับไปประเทศให้เร็วที่สุด โดยเขาได้นำเอารอยฟันของญาติมาด้วย โดยตนได้มีการประสานงานกับผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระในการดำเนินการแล้ว เพื่อรับศพกลับให้ได้โดยเร็ว”
          พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทราบว่าอธิบดีกรมเจ้าท่า ได้สั่งย้ายเจ้าท่าจังหวัดภูเก็ต ออกนอกพื้นที่แล้ว พร้อมทั้งได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ซึ่งในส่วนของการดำเนินคดีนั้นแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ การสอบสวนเจ้าหน้าที่รัฐละเว้นปฎัติหน้าที่ทั้งหมด โดยจะต้องมีการสอบสวนว่า เรือออกได้อย่างไร และเรือสร้างได้อย่างไร มีพิมพ์เขียวกี่ฉบับ เพราะปกติการสร้างต้องมีพิมพ์เขียวอย่างน้อย  60-70 ฉบับ และจากการตรวจสอบเรือคู่แฝดกับเรือฟินิกซ์ พบมีพิมพ์เขียวเพียง 4 ฉบับ นับตั้งแต่วันนี้ (14ก.ค.61)ในเรื่องความปลอดภัยเราจะเริ่มต้นตรวจเรือและบังคับใช้กฎหมายทุกลำ  หากลำไหนไม่สมบูรณ์ก็ต้องทำให้สมบูรณ์  โดยเจ้าท่าต้องตรวจและเซ็นต์รับรองทุกลำ หากออกทะเลไปแล้วเกิดปัญหาเจ้าท่าจะต้องรับผิดชอบ  รวมถึงกรณีที่มีการปล่อยให้มีการบุกรุกที่ดินของรัฐก็จะต้องมีการตรวจสอบเพื่อหาผู้ปล่อยปละละเลย