รวบแล้ว 3 ล่าอีก 2 สุดเหิมฉุดสาวหน้าจวนผู้ว่าฯ

 

               11 ก.ค. 61  เมื่อเวลา 18.00 น.  นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ นายชาญชัย ศรศรีวิชัย นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.อ.รัชพล เสริมศรัณย์ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ธีรพัฒน์ ธารีไทย ผกก.สส.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.ท.ปิติทัต กงทอง สว.สส.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.ท.ปรัชญา ต้นกันยา สว.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์

 

 

 

               คุมตัว นายมานะศักดิ์ อุดมพันธ์ หรือ เปรี้ยว อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 100 ม.13 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายสุรศักดิ์ จันทร์เพ็ง หรือ แป๋ม อายุ 20 ปี บ้านเลขที่ 7 ม.1 ต.อุ่มเม่า อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ และนายธนารัตน์ ภูโชคชัย หรือ โชค อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 18 ม.8 ต.อุ่มเม่า อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ พร้อมของกลางยาบ้าจำนวนหนึ่ง ซึ่งทั้งหมดเป็น 3 ใน 5 คนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุขับรถปาดหน้า น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 26 ปี ก่อนที่จะลงไปฉุดกระชากผมทำร้ายแล้วนำตัวไปกักขังไว้เพื่อเรียกค่าไถ่จำนวน 350,000 บาท

               พร้อมนำเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ เข้าตรวจสอบรถยนต์เก๋ง เชฟโรเลต สีเทา หมายเลขทะเบียน ชร 5187 กรุงเทพมหานคร และรถกระบะ อีซูซุ สีแดง สี่ประตู ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งเป็นรถที่ใช้ในการก่อเหตุ และรถยนต์เก๋ง โตโยต้า อัลติส สีเทา หมายเลขทะเบียน กฉ 8994 กาฬสินธุ์ ของ น.ส.เอ โดยเหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา บริเวณถนนข้างโรงแรมสุภัค หน้าจวนผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นการก่อเหตุที่อุกอาจกลางเมือง ไม่เกรงกลัวกฎหมาย กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพขณะก่อเหตุไว้ได้อย่างชัดเจน รวมทั้งมีพลเมืองดีสามารถถ่ายภาพขณะกลุ่มคนร้ายลงมือได้อีกด้วย

 

 

 

               พ.ต.อ.ธีรพัฒน์ ธารีไทย ผกก.สส.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม เวลา 22.00 น. และหลังเกิดเหตุมีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพขณะคนร้ายก่อเหตุได้อย่างชัดเจน และยังมีพลดีเมืองสามารถถ่ายคลิปขณะคนร้ายลงมือได้อีกด้วย โดยในคลิปมีรถเก๋ง เชฟโรเลต ขับมาปาดหน้ารถเก๋งของ น.ส.เอ ซึ่งมากับเพื่อนชายอีก 2 คน และนั่งอยู่เบาะข้างคนขับ ก่อนที่จะมีชาย 2 คน สวมเสื้อสีแดง คนหนึ่งถือมีดยาวประมาณ 1 ฟุต พยายามทำร้ายเหยื่อ และกระโดดถีบกระจกรถ จากนั้นได้มีรถกระบะขับตามมาสมทบ ก่อนที่จะมีชาย 1 คน ลงมากระชากผม น.ส.เอ แล้วนำไปขึ้นรถกระบะขับหลบหนีไป และนำตัว น.ส.เอ ไปกักขังไว้ที่โกดังร้างข้างถนนทางเข้า อ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์ และโทรศัพท์ไปหาพ่อแม่และญาติของ น.ส.เอ เพื่อให้นำเงิน 350,000 บาท มาไถ่ตัว

               พ.ต.อ.ธีรพัฒน์ กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเร่งแกะรอยติดตามคนร้าย กระทั่งสามารถติดตามตัว น.ส.เอ กลับคืนมาได้อย่างปลอดภัย และจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ขับรถเก๋ง เชฟโรเลต 3 คน ขยายผลตรวจยึดยาบ้าได้จำนวนหนึ่งที่โรงแรมใน จ.มหาสารคาม ซึ่งผู้ต้องหาไปเปิดไว้เป็นจุดพักยา อย่างไรก็ตาม จากการสอบถาม น.ส.เอ เบื้องต้น ขณะนั้นตนและเพื่อนพยายามขับรถหนีกลุ่มคนร้ายเพื่อจะเข้าไปขอความช่วยเหลือในจวนผู้ว่าฯ จ.กาฬสินธุ์ แต่ถูกกลุ่มคนร้ายขัดรถปาดหน้าเสียก่อน

 

 

 

               ทั้งนี้ จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 คน รับสารภาพว่า เป็นคนก่อเหตุในภาพกล้องวงจรปิดจริง โดยร่วมกับเพื่อนอีก 2 คน ที่กำลังหลบหนี ส่วนสาเหตุที่ฉุด น.ส.เอ ไปเรียกค่าไถ่นั้น เพราะต้องการทวงเงินจำนวน 350,000 บาท ที่ น.ส.เอ ติดค้างค่ายาบ้า ซึ่งที่ผ่านมาพยายามทวงหลายครั้ง แต่ก็บ่ายเบี่ยงตลอด จึงต้องใช้ใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด โดยการฉุดตัวขึ้นรถดังกล่าว เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และกักขังหน่วงเหนี่ยว พร้อมทั้งเร่งขยายผลและติดตามตัวคนร้ายที่ขับรถกระบะ อีซูซุ ร่วมก่อเหตุอีก 2 คนต่อไป

               นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวถือว่าเป็นการก่อเหตุที่อุกอาจ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย แต่ถึงแม้แก๊งค้ายาเสพติดที่เหิมแค่ไหน เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ก็จะไม่ปล่อยแก๊งเหล่านี้ไป ซึ่งจะต้องตามกวาดล้างเครือข่ายค้ายาเสพติดเหล่านี้ให้หมด ส่วนยุทธการฟ้าแดดสงยางกวาดล้างยาเสพติดก็จะยังคงปฏิบัติกันอย่างต่อเนื่อง