เร่งปูพรมหา "รู-ปล่อง-โพรง" เจาะเพื่อถึงตัวเด็ก

 

           6 ก.ค.61-พลตรีฉลองชัย ชัยยะคำ รองแม่ทัพภาคที่ 3 เปิดเผยถึง  สถานการณ์ปัจจัยแผนการปฏิบัติงานจะต้องมีการปรับแผนอยู่ตลอดทุกวันก็มีปัญหาให้ต้องแก้ไขอยู่เสมอ ขณะนี้นั้นได้มีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านจากทั้งในประเทศและต่างประเทศสาขาต่างๆให้ข้อมูลคำปรึกษาการวางแผนปฎิบัติการช่วยเหลือในมิติต่างๆ  ซึ่งจะเห็นได้ว่าจะมีอากาศยานขึ้นบินสำรวจรอบบริเวณภูเขาอย่างต่อเนื่องเพื่อหาช่อง ปล่องโพรง หรือสัญญาณต่างๆ รวมทั้งมีชุดปฏิบัติงานลาดตระเวนสำรวจนับไม่ถ้วน เพื่อหาช่องทางอื่นที่จะเข้าไปได้หลังจากช่องทางหลักได้มีความสูญเสียเจ้าหน้าที่ ปฏิบัติงานไป 1 ราย จริงยิ่งเน้นย้ำช่องทางอื่นที่เป็นไปได้มากยิ่งขึ้น           

        

          ส่วนการป้องกันการเพิ่มปริมาณของน้ำ ในถ้ำ จากที่มีการเบี่ยงทางน้ำธรรมชาติไปแล้วหนึ่งเส้นทาง ล่าสุด ขณะนี้ยังต้องเร่งสำรวจ หา หลุม รู โพรง ต่างๆ ที่น้ำจะไหลลงสู่ถ้ำได้ เพื่ออุดรูน้ำต่างๆ ตามข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยาว่าจะมีพายุฝนเข้ามาเสริมในพื้นที่ ดังนั้น  จึงจะต้องเร่งปิดกั้นทุกเส้นทางที่น้ำจะไหลลงเติมเพื่อรักษาระดับน้ำในถ้ำเอาไว้ ขณะเดียวกันเรื่องของการสูบน้ำออกจากถ้ำ  ขณะนี้น้ำเริ่มออกน้อยลงแล้วเป็นสัญญาณว่าน้ำในถ้ำเองก็มีปริมาณที่น้อยลง รวมทั้งจะมีปฏิบัติการหาตาน้ำเพิ่ม บริเวณสันเขาเพื่อเป็นการเปิดช่องอากาศให้น้ำลงสู่บาดาลได้เร็วมากขึ้น

          ส่วนปฏิบัติการการดูดน้ำจากถ้ำออกมานั้น ยังคงเป็นไปได้ด้วยดีมีประสิทธิภาพด้วยเครื่องมือจำนวนมากที่ปฏิบัติการพร้อมกัน ถึงอย่างนั้นในบริเวณสามแยกไปจนถึงพื้นที่ที่เด็กอยู่ ก็ยังคงมีมวลน้ำปริมาณมหาศาล เส้นทางมีความอันตรายมากทรหดเกินกว่าที่คนปกติจะเข้าออกได้

          “ถึงแม้มีข่าวความสูญเสียเกิดขึ้น แต่หน่วยซีลเองก็ยังคงไม่เสียกำลังใจยังเดินหน้าปฎิบัติภารกิจต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ซีล ทั้งในและนอกราชการขนาดนี้รวมกันเป็นจำนวนกว่า 100 คนยังคงปฏิบัติหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมงไม่สำเร็จไม่เลิกล้ม ถือว่าเรื่องอันตรายจนถึงแก่ชีวิตนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกภารกิจถึงแม้จะไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น” พลตรีฉลองชัย กล่าว

          ขณะนี้สิ่งสำคัญอีกเรื่องคือ อากาศหายใจในถ้ำที่เริ่มลดน้อยลง จึงต้องเร่งขนส่งจ่ายลำเลียงเชื่อมต่อไปให้ถึงตัวเด็ก ซึ่งท่ออากาศนั้นมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง3/ 8 นิ้ว มีความยาว 4 กิโลเมตรและมีสายโทรศัพท์สนามผูกติดไปด้วย และจะลำเลียงไปให้ถึงโดยเร็วที่สุด เพื่อให้มีอากาศสำรองหายใจ สามารถติดต่อสื่อสารกับภายนอกได้โดยเฉพาะครอบครัวที่รออยู่  โดยขณะนี้อากาศและสายโทรศัพท์อยู่ลำเลียงถึงที่บริเวณโถงที่ 3 แล้วและจะเชื่อมต่อกับถังอากาศที่โถง 3 โดยตรง เพื่อให้มีความมั่นใจว่าจะมีอากาศหายใจ หายห่วงในเรื่องของอากาศสำรอง

       

          ด้าน พลเรือตรี อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ ยืนยันว่าหน่วยซีลทุกคนมีขวัญและกำลังใจดีเยี่ยม และยังคงทำภารกิจช่วยเหลือเด็กทุกคนในถ้ำให้สำเร็จ ซึ่งขณะนี้มีช่องทางเดียวที่จะถึงตัวเด็กคือทางน้ำ โดยตั้งกองบัญชาการที่โถง 3 จากโถง 3 ไปถึงเนินนมสาว ระยะทาง 1,700 เมตร เป็นน้ำและมืด มีซอกมากมาย ยากลำบากต่อการเดินทาง ต้องดำน้ำเข้าไปใช้เวลาไป-กลับ 12 ชั่วโมง การปฏิบัติงานล่าสุด ได้วางแผนนำอากาศออกซิเจนเข้าไปทางท่อพร้อมสายโทรศัพท์ ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ขณะนี้มีอดีตซีลเป็นอาสาสมัครช่วยงานอีกหลายคน ซึ่งซีลมีหน้าที่เป็นหัวหมู่ทะลวงฟันในเหตุการณ์นี้ ถูกฝึกมาให้ทำงานในภาวะความเสี่ยงตลอดเวลา ดังนั้นความเจ็บป่วยและเสียชีวิตเป็นสิ่งที่ต้องเผชิญ ส่วนเด็กที่อยู่ด้านใน พันโทนายแพทย์ ภาค โรหารชุน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการดำน้ำอยู่กับเด็กๆ ไม่ต้องกังวล หากท่ออากาศถึงเด็กๆ ก็จะสามารถเติมอากาศจากด้านนอกได้ตลอด ส่วนปฏิบัติการสื่อสาร ล่าสุดได้ติดตั้งสัญญาณ wiifi ที่บริเวณโถง 3 แล้ว

-------------------

โดย ปฎิญญา ศรีสุภมาต