ข่าว

มติเอกฉันท์ไล่ออก ผอ.ชู้สาว ม.2

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา มีมติเป็นเอกฉันท์ลงโทษวินัยร้ายแรง "ไล่ออก" ผอ.โรงเรียน ชู้สาวเด็กนักเรียน ม.2 ชง ผู้ว่าฯ พิจารณาอีกครั้ง 12 ก.ค.นี้

               5 ก.ค. 61  มีรายงานความคืบหน้ากรณี นายณฐาภพ บุญทองโท อายุ 51 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านป่าตองท่าเนินสามัคคี อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ถูกร้องเรียนมีพฤติกรรมชู้สาวกับเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.2 อายุ 14 ปี โรงเรียนเดียวกัน โดยมีหลักฐานการแชทพูดคุยกันทางไลน์ของทั้งคู่ ซึ่งสนทนากันในเชิงชู้สาวข้อความหวานซึ้ง ต่างฝ่ายต่างเรียกกันและกันว่า ที่รัก ขณะที่ตัวของ ผอ.โรงเรียน ก็เรียกน้องนักเรียนหญิงว่า เมีย

 

 

 

               ซึ่งเรื่องเกิดขึ้นช่วงต้นเดือนมกราคม 2561 ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นครราชสีมา เขต 6 ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบพฤติกรรมของผู้อำนวยการโรงเรียนรายนี้แล้ว หลังได้ลงพื้นที่โรงเรียนเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวมีพฤติกรรมชู้สาวกับเด็กนักเรียนหญิงลักษณะแอบคบหากันฉันชู้สาว พร้อมสอบปากคำคณะกรรมการสถานศึกษาคณะครู ผู้ปกครอง และเพื่อนของเด็กนักเรียนหญิงที่เป็นข่าว โดยเรื่องที่เกิดขึ้นทางศึกษาธิการจังหวัดได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมกับสั่งย้ายและพักราชการ ผอ.คนดังกล่าว และตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา จำนวน 9 คน พิจารณาความผิดด้วยความเป็นธรรมและกลั่นกรองตัดสิน ผอ.คนดังกล่าว

               ล่าสุด เมื่อช่วงสายวันนี้ (5 ก.ค.) ที่ ห้องประชุมศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา คณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา โดยมี พลเอก ดร.มารุต ลิ้มเจริญ ประธานคณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา และคณะอนุกรรมการ รวม 9 คน อาทิ นายกฤตพล ชุติกุลกีรติ ศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา , นายทอง วิริยะจารุ อนุกรรมการฯ , นายสุรพันธ์ ดิสสะมาน อนุกรรมการฯ , นายอนันต์ เพียรเกาะ อนุกรรมการฯ และนายพิสิษฐ์ ชดกิ่ง อนุกรรมการฯ เป็นต้น ได้ร่วมประชุมเพื่อพิจารณากลั่นกรองเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา ที่มีนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธาน โดยการประชุมเป็นไปอย่างเคร่งเครียด มีการถกกันอย่างรอบคอบ ให้ความเป็นธรรมอย่างที่สุด

 

 

 

               โดยเบื้องต้นในชั้นของคณะอนุกรรมการฯ ชุดใหญ่ มีมติเป็นเอกฉันท์ เสนอว่าให้ลงโทษวินัยร้ายแรงคือ ไล่ออก ส่วนประเด็นอาญา หรือหากมีเรื่องอย่างอื่นก็ว่าไปตามกฎหมาย ในส่วนนี้คือการหาหนทางดูแลเด็ก เนื่องจากเด็กถือว่ายังเป็นผู้เยาว์อยู่และให้เด็กได้ศึกษาจนจบ ตรงนี้คือสิ่งที่ทุกคนเป็นห่วง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องนี้ยังไม่ถึงที่สิ้นสุด

               พลเอก ดร.มารุต ลิ้มเจริญ ประธานคณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า การประชุมวันนี้เรื่องการลงโทษวินัยร้ายแรง ผอ.คนดังกล่าว ให้ไล่ออก คณะอนุกรรมการฯ พิจารณาให้ความยุติธรรมด้วยความรอบด้านรอบคอบอย่างดีที่สุด ซึ่งดูจากเหตุจากผลของการสอบสวนที่ออกมา ก็ว่าไปตามนั้น และยังมีคณะกรรมการสอบสวนที่เขตพื้นที่การศึกษาฯ ตั้งขึ้น ได้นำมาพิจารณาประกอบการสอบสวนและคำให้การของแต่ละคนที่ศึกษาธิการจังหวัดตั้งลงไปสอบสวนแล้ว นำเข้ามาพิจารณาในชั้นของคณะอนุกรรมการชุดใหญ่วันนี้ ซึ่งที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ลงโทษวินัยร้ายแรงคือ ไล่ออก

               จากนี้ไปก็จะเสนอคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา หรือ กศจ. ที่มีนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะเป็นประธานกรรมการฯ โดยตำแหน่งอีกรอบในวันที่ 12 กรกฎาคม 2561 นี้ ในส่วนของคณะอนุกรรมการฯ ได้ข้อสรุปออกมาเป็นแบบนี้ ซึ่งถือว่าในชั้นของคณะอนุกรรมการฯ จบเพียงแค่นี้ ส่วน กศจ. จะตัดสินใจอย่างไร เป็นดุลยพินิจที่ประชุมใหญ่ต่อไป

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ