ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี ให้ออกแล้ว ผอ.โรงเรียนขนมจีนคลุกน้ำปลา จวกเละ! กลางที่ประชุมครูกว่าพันคน ถ้าไม่โกงจริง เงิน 20 บาทเด็กได้กินอิ่ม
ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เห็นชอบไล่ออกผู้อำนวยการโรงเรียนขนมจีนคลุกน้ำปลา ชี้ความผิดชัดเจน ฝากผู้บริหาร-ครู เห็นแก่อนาคตของชาติ จวกกลางที่ประชุมครู 1,540 คน ถ้าไม่โกงจริง เงิน 20 บาทเด็กได้กินอิ่ม
จากกรณีมีผู้เผยแพร่คลิป โรงเรียนบ้านท่าใหม่ ม.17 ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ให้เด็กนักเรียนอนุบาลกิน "ขนมจีนคลุกน้ำปลา" ในถาดหลุม พร้อมเรียกร้องให้มีการสอบสวนข้อเท็จจริง ต่อมาได้มีคำสั่งย้าย ผอ.โรงเรียนดังกล่าว ออกจากพื้นที่ ไปช่วยราชการประจำ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สุราษฎร์ธานี เขต 2 (สพป.สฎ เขต 2 ) ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.61 เป็นต้นมา
ต่อมาคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามคำร้องเรียนให้ตรวจสอบความผิดของ ผอ.โรงเรียนจำนวน 10 ข้อ ซึ่งผลสรุปชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรง จำนวน 5 ข้อ คือ 1.เรื่องโครงการอาหารกลางวันไม่ได้คุณภาพ "ขนมจีนคลุกน้ำปลา" 2.ทุจริตโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตภายในโรงเรียน 3.ขายน้ำอัดลมให้เด็ก 4.ขายปาล์มน้ำมันโรงเรียน นำเงินไปใช้ส่วนตัว 5.ทุจริตโครงการปักเสาไฟฟ้า
โดยมีโทษปลดออกหรือไล่ออกจากราชการ และ สพป.สุราษฎร์ธานี เขต 2 ลงนามให้ออกจากราชการ และส่งต่อศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงนามให้ออกจากราชการเช่นกัน
ขณะเดียวกันเมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 13 มิ.ย.61 ที่ห้องประชุมประกายเพชร โรงแรมไดมอนด์พลาซ่า อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สุราษฎร์ธานี เขต 1 ได้จัดประชุมชี้แจงการปฏิบัติราชการตามนโยบายของรัฐบาล กระทรวงศึกษาธิการ และ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามโครงการประชุมสัมมนาเพื่อพัฒนาศักยภาพและประสิทธิภาพสำหรับผู้บริหารการศึกษาและบุคลากรทางการศึกษา ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สุราษฎร์ธานี เขต 1
โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนา 1,540 คน มี นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานในพิธีเปิด และโอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้กล่าวยกตัวอย่างกรณีขนมจีนคลุกน้ำปลาที่โรงเรียนบ้านท่าใหม่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ว่า ปลาตัวเดียวทำให้เหม็นทั้งข้อง ทำให้จังหวัดสุราษฎร์ธานี เสียหายอย่างมาก
แต่ทั้งนี้ "ถ้าไม่โกงจริง เด็กคงได้กินอิ่ม" เงิน 20 บาทต่อหัว เด็กได้กินอิ่มทั้งโรงเรียน ซึ่งมีหลายฝ่ายมองอีกมุมหนึ่งว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นกรณีตัวอย่างในกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้มีการตรวจสอบโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม ภายหลังเป็นข่าว ทางโรงเรียนก็ได้มีการแก้ไขปรับปรุงดีขึ้น ขอย้ำฝากไปยังผู้บริหารโรงเรียนและครูทุกคน ขอให้เห็นแก่เด็ก เห็นแก่อนาคตของชาติ
ต่อมา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ล่าสุดศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ส่งเอกสารทั้งหมดมาที่จังหวัดแล้ว และตนเองเห็นชอบให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพราะมีความผิดชัดเจน แต่ทั้งนี้ กระบวนการต้องมีการตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง โดยในส่วนของจังหวัด ได้แต่งตั้งนิติกรจังหวัด เป็นกรรมการร่วมกับกรรมการศึกษาธิการจังหวัด
สำหรับในส่วนของคดีอาญานั้น ทางศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นผู้ดำเนินการ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง