ด่านบุญ!! จับ-ปรับจริง เงินเข้ากองทุนลดอุบัติเหตุ

 

          ครั้งเเรกของประเทศไทย(ด่านบุญ)

         สภ.วารินชำราบ ตั้งด่านบุญค่าปรับทั้งหมดจะนำไปบริจาคทำบุญสมทบทุนเข้ากองทุนลดอุบัติเหตุทางถนน ด่านบุญ สภ.วารินชำราบ จับ-ปรับจริง นำเงินรายได้เข้ากองทุนลดอุบัติเหตุ

 

         งานป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรวารินชำราบ ตั้งด่านบุญ จับ - ปรับจริง นำเงินรายได้ไปทำบุญกองทุนลดอุบัติเหตุ เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนขับขี่อย่างปลอดภัยและช่วยเหลือสังคม

   

        ที่บริเวณถนนวาริน–ศรีสะเกษ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจงานป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรวารินชำราบ ตั้งด่านบุญ จับ - ปรับจริง ซึ่งจะนำเงินรายได้ทั้งหมดจากการเปรียบเทียบปรับไปทำบุญเข้ากองทุนลดอุบัติเหตุ เพื่อเป็นการรณรงค์ และกระตุ้นให้ประชาชนขับขี่อย่างปลอดภัย ลดอุบัติเหตุบนท้องถนน และเป็นการช่วยเหลือสังคมอีกทางหนึ่งด้วย

 

 

   

        พันตำรวจตรีณัฐฐ์ฐนนท์ สีฟ้า สารวัตรป้องกันปราบปรามสถานีตำรวจภูธรวารินชำราบ กล่าวว่า งานป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรวารินชำราบ ได้มีการจัดตั้งด่านบุญจับ - ปรับจริง นำเงินรายได้ไปทำบุญกองทุนลดอุบัติเหตุและช่วยเหลือสังคม ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประกอบกับพลตำรวจโท ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี และ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรวารินชำราบ ได้เน้นย้ำมาว่าปัจจุบันมีสาเหตุการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนค่อนข้างเยอะ

 

       

        โดยเฉพาะบริเวณด้านหน้าโรงงานต่าง ๆ ซึ่งที่โรงงานเวอร์เท็กซแอพพาเรล จำกัดเองก็มีพนักงานประมาณ 3,800 คน และมีพนักงานที่ใช้รถจักรยานยนต์ประมาณ 2,000 กว่าคัน มีการขับขี่รถจักรยานยนต์ย้อนศร และ ไม่สวมหมวกนิรภัย เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิต และจากสถิติย้อนหลังมีจำนวนค่อนข้างเยอะ 

 

       ในวันนี้จึงได้มีการจัดตั้งด่านบุญ โดย พ.ต.อ.อดิเทพ พิชาดุลย์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรวารินชำราบ ได้มีนโยบายให้นำเงินค่าปรับที่ได้จากด่านไปทำบุญ มอบให้มูลนิธิการกุศล มอบให้กับกองทุนโครงการลดอุบัติเหตุ และโครงการการกุศลต่างๆ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้มีการ ขับขี่รถอย่างปลอดภัย สวมหมวกนิรภัย 100 % ในอำเภอวารินชำราบ สำหรับยอดผู้กระทำความผิดทั้งว่ากล่าว และเปรียบเทียบปรับในวันนี้มีประมาณ 100 ราย

 

 

 

         ส่วนใหญ่จะมีการขับขี่มอเตอร์ไซค์ย้อนศร และไม่สวมหมวกนิรภัยจำนวนมาก ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการประชาสัมพันธ์มาประมาณ 2 เดือนแล้ว ก็ยังไม่มีผล ในวันนี้จึงต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เงินที่ได้ทั้งหมดเราจะนำคืนให้กับสังคม และเจ้าหน้าที่ที่มาปฏิบัติงานล้วนเป็นจิตอาสาทำด้วยใจ
 

 

 

         ทั้งนี้ผู้ที่ใช้นามว่า “ศุภชัย นามแก้ว” ได้โพสต์ข้อความดังกล่าว ผ่านเพจ“อุบลวันนี้”เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2561 

   

         ขณะเดียวกันมีแฟนเพจ"อุบลวันนี้" ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นอยากหลากหลาย มีทั้งติดติง และมีทั้งสนับสนุน

 

         อาทิ "ก็คิดดี..แต่ระวังก็แล้วกัน.ตอนนี้บุญเยอะ...ตามจับมหาเถระ..กันเละเทะครับ", "ค่าปรับตามกำลังในการทำบุญด้วยมั๊ยคับ","แล้วแต่ใครจะมองครับ คนเรามี 2 ประเภท "ทำดีแล้วโดน่า"กับ"ไม่ทำห่าแล้วด่าคน", "แล้วเงินค่าปรับไม่เข้าหลวงก่อนรึครับ ท่านถึงมาจัดการกันเองจำเอาไปทำอะไรก็ได้ ตามธรรมดาต้องเข้าคลังก่อนมั๊ย ค่อนจัดสรรส่วนต่างๆ หรือว่าค่าปรับจัดสรรกันเองในสน.ไม่เข้าคลัง"