ประมงสงขลา วอนรัฐปรับลดราคาน้ำมัน

          26 พ.ค. 61 - นายสุรเดช นิลอุบล นายกสมาคมประมงสงขลา กล่าวว่า ในช่วงที่น้ำมันมีราคาแพงชาวประมงได้รับผลกระทบ 100 % เต็มๆ เนื่องจากน้ำมันดีเซลเป็นปัจจัยหลักและเป็นต้นทุนคงที่ของเรือประมง เพราะราคาขึ้นลงเป็นไปตามกลไกตลาดแล้ว เมื่อราคาแพงก็จะส่งผลกระทบกับต้นทุนที่สูงขึ้น แต่ตรงกันข้ามกับราคาขายสัตว์น้ำขณะนี้อยู่ในสัดส่วนที่ลดลง

          นายสุรเดช กล่าวว่า เป็นที่ทราบดีว่า เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านนำสัตว์น้ำเข้ามาตีตลาดในบ้านเราเกือบจะ 60 หรือ 70 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเข้ามาในราคาที่ถูกกว่าในบ้านเรา สินค้าสัตว์น้ำจากประเทศเพื่อนบ้าน ต้นทุนค่าแรงงานที่ถูกกว่า ต้นทุนค่าน้ำมัน อะไรต่างๆของเขาจะถูกกว่าของเรา 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งก็เป็นที่ทราบดีกันอยู่ เพราะฉะนั้น เมื่อเราถูกกระแสของราคาน้ำมันที่สูงขึ้น แต่ราคาขายสัตว์น้ำลดลงมันสวนทางกัน 

          นายสุรเดช กล่าวอีกว่า สภาวการณ์ในปัจจุบัน เป็นภาวะที่ทุกคนต้องประคองตัว ใครมีเรือก็ต้องออก ใครไม่สามารถพยุงก็ต้องจอด ใครที่ต้องออกเพราะขาดทุนก็ต้องรักษาสภาพการจ้างงานเอาไว้ เราต้องดูแลคนงานและต้องจ่ายให้เขาเป็นรายเดือน เพราะถ้าเรือไม่ได้ออกเงินที่ให้เขาเราก็ต้องจ่าย เราก็ต้องดูแลด้วยต้นทุนที่ต่ำที่สุดเพื่อให้คงอยู่  ขณะเดียวกัน เรือประมงมีแรงงานต่างด้าว ซึ่งเป็นต้นทุนคงที่ที่เราต้องจ้างอยู่ ถึงแม้ว่าเรือไม่ได้ออกเราก็ต้องจ่ายค่าแรงทั้งรายวันและรายเดือน เพราะเรามีสัญญาจ้าง 1 ปีค้ำอยู่ ดังนั้นรายจ่ายไม่ว่าเรือจะออกหรือเรือจะจอดถ้า ลูกจ้างยังอยู่กับเรา เราก็ต้องจ่ายทั้งเงินเดือนและค่ากินอยู่ นี่คือระบบของการประมงในบ้านเรา จะเอาค่าใช้จ่ายค่ากินอยู่ค่าที่พักมาหักเงินเดือนของเขาไม่ได้ เพราะเรามีกฎหมายบังคับอยู่

          "อยากจะเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยมาดูโครงสร้างของราคาหน่อยว่า อะไรที่ลดลงได้ไหม ทุกวันนี้ชาวประมงได้รับน้ำมันเขียวซึ่งอุดหนุนจากรัฐบาล น้ำมันเขียว เราไม่สามารถจะเติมที่ฝั่งได้ เราต้องไปเติมกลางทะเลและราคาน้ำมันเขียวก็เพิ่มขึ้นลดลงตามราคาน้ำมันของตลาดโลก เรือขนาดเล็กจะได้รับผลกระทบเต็มๆ เพราะไม่สามารถนำเรือออกไปเติมน้ำมันเขียวกลางทะเลได้ ต้องเติมน้ำมันที่ฝั่ง ตามราคาที่ประกาศที่ปั้ม จึงได้รับผลกระทบเต็มๆ" นายสุรเดช กล่าว