ข่าว

2 สัปดาห์รู้ผลสอบเย็บแผลไม่ต่อเอ็น

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สสจ.อุดรธานี เตรียมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง รพ.เย็บแผลเด็ก 5 ขวบ ไม่ต่อเอ็น 4 เส้นขาด ตั้งประเด็นสื่อสารผิดพลาด - ผิดที่บุคคล คาด 2 สัปดาห์รู้ผล

               8 พ.ค. 61  ความคืบหน้ากรณี นายถนัด จินดา อายุ 48 ปี และนางลัดดาวัลย์ มะณีชม อายุ 47 ปี บ้านเลขที่ 297 ม.1 บ.หนองโน ต.กุดจับ อ.กุดจับ จ.อุดรธานี นำเด็กชายเอ (นามสมมติ) อายุ 5 ขวบ หลานชายที่ขี่จักรยานแล้วถูกสังกะสีบาดที่เหนือข้อเท้าขวาลึก หลังจากนำตัวส่งโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แต่ไม่มีแพทย์ของโรงพยาบาลมาประเมินอาการเพื่อทำการเย็บแผล ปล่อยให้พยาบาลทำหน้าที่ แต่น้องเออาการไม่ดีขึ้น จนต้องพาหลานไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลหนองบัวลำภู ตรวจพบว่า เอ็นขาของน้องเอขาด 4 เส้น ไม่มีการต่อเอ็นขาให้ รวมทั้งเส้นเลือดฝอยฉีกขาด ทำให้นายภนัดและนางลัดดาวัลย์ได้เข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม จ.อุดรธานี เพื่อขอให้โรงพยาบาลมีมาตรฐานในการรักษาสูงขึ้นกว่านี้ โดยไม่ได้ต้องการมาเรียกร้องค่าเยียวยาแต่อย่างใด

 

 

 

 

               ล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น. มีรายงานจาก จ.อุดรธานี ว่า ที่ สำนักงานสาธารณสุข (สสจ.) อุดรธานี นายถนัดและนางลัดดาวัลย์ พร้อมน้องเอ ได้เดินทางเข้าพบ ทันตแพทย์ สันติ ศรีนิล ผู้ช่วย นพ.สสจ.อุดรธานี เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนให้ทาง สนง.สสจ.อุดรธานี ตรวจสอบการดำเนินการรักษาพยาบาลของโรงพยาบาลที่ทำการรักษาน้องเอ ซึ่งไม่มีแพทย์ประเมินอาการผู้ป่วย มีเพียงพยาบาลห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลเป็นผู้ทำแผล ไม่มีการต่อเส้นเอ็นขาที่ขาดถึง 4 เส้น และเส้นเลือดฝอยขาด เพื่อให้การรักษาพยาบาลผู้ป่วยอื่น มีความมั่นใจในการเข้ารักษาที่โรงพยาบาลแห่งนี้ต่อไป
               หลังจากนั้นทาง ทันตแพทย์ สันติ ได้เชิญนายถนัดและนางลัดดาวัลย์ พร้อมน้องเอ ร่วมพูดคุยในห้องประชุมชั้น 3 โดยไม่อนุญาตผู้สื่อข่าวร่วมรับฟัง ใช้เวลาพูดคุยประมาณ 30 นาที จึงแล้วเสร็จ
               ทันตแพทย์ สันติ ศรีนิล ผู้ช่วย นพ.สสจ.อุดรธานี กล่าวว่า ได้ทำการพูดคุยทำความเข้าใจกับทางครอบครัวน้องเอแล้ว ซึ่งต้องขอโทษในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยขอรับผิดในส่วนนี้ และจะพยายามปรับปรุงแก้ไขไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้น ทาง สสจ.อุดรธานี จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง ถ้าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของบุคคล ก็จะดำเนินการลงโทษตามระเบียบราชการ ถ้าเป็นเรื่องของระบบ เรื่องการสื่อสารระหว่างผู้ป่วยกับบุคลากรทางการแพทย์ ก็จะต้องพิจารณาแก้ไขปรับปรุง น่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์ เมื่อผลการตรวจสอบออกมา เราจะแจ้งไปทางผู้ร้องเรียนที่ยื่นเรื่องไว้
               “ส่วนน้องเอที่มีสิทธิ์ตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ก็มีสิทธิ์ยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือ ตามมาตรา 41 โดยได้ดำเนินการยื่นไปแล้ว และจะดำเนินการให้เสร็จภายในเวลาประมาณ 1 เดือนครึ่ง รวมทั้งในส่วนค่ารักษาพยาบาลที่ได้จ่ายไปแล้ว ที่มีใบเสร็จรับเงิน ก็จะชดใช้ให้ ซึ่งวันนี้เราก็ได้พูดคุยกันด้วยดี ไม่มีสิ่งใดที่ติดใจอีก”
               นายถนัด จินดา คุณตาของน้องเอ เปิดเผยว่า หลังการพูดคุย ตนพอใจที่ทาง สสจ.อุดรธานี รับปากจะแก้ไขทางโรงพยาบาลต้นเรื่อง ซึ่งขอขอบคุณทุกส่วนที่เข้ามาช่วยเหลือ ส่วนวันพรุ่งนี้ ตนจะพาหลานไปถอดเฝือกที่ใส่มานานถึง 60 วัน เพื่อเปลี่ยนใส่เฝือกอ่อนที่โรงพยาบาลหนองบัวลำภู หลังถอดเฝือกหมอจะทำกายภาพบำบัดให้ ซึ่งหมอบอกว่า เอ็นที่ขาดถ้าต่อได้ หลานก็จะเดินได้ตามปกติ แต่เราก็ยังลุ้นอยู่ว่า หลานจะหายดีไหม ถ้าเอ็นต่อไม่ติด หมอก็บอกว่ายังมีอีกขั้นตอนที่จะดำเนินการต่อไป แต่ตอนนี้ทุกคนในครอบครัวก็ยังห่วงกลัวว่าหลานจะเดินไม่ได้
               ส่วนน้องเอ บอกสั้นๆ ว่า ไม่เจ็บแผล และจะไม่ขี่จักรยานอีกแล้ว

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ