กระทรวงการต่างประเทศส่งผู้อพยพกลุ่มที่ 2 จำนวน 19 คนกลับเมียนมาด้วยความสมัครใจ หลังหนีภัยสงครามการสู้รับในรัฐคะยาเข้ามาอยู่ศูนย์พักพิงฯบ้านใหม่ในสอยนานถึง 27 ปี
นายณัฐภานุ นพคุณ ผู้อำนวยการกองการสังคม กรมองค์การระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ พร้อมคณะและตัวแทนจากสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย ( UNHCR ) , พล.ต.มนัส แถบทอง ผู้อำนวยการสำนักกิจการชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน , นายจารึก เหล่าประเสริฐ ปลัดจังหวัดแม่ฮ่องสอน , พ.อ.ณรงค์ฤทธิ ปาณิกบุตร ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 17 และว่าที่ร้อยตรี ณรงค์ชัย จินดาพันธ์ นายอำเภอขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน นำผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบชาวกะเหรี่ยงคะยา สัญชาติเมียนมา กลุ่มที่ 2 จำนวน 5 ครอบครัว 19 คน ส่งกลับประเทศเมียนมาด้วยความสมัครใจ ที่บริเวณจุดผ่อนปรนชายแดนไทย-เมียนมา ช่องทางบ้านห้วยต้นนุ่น ต.แม่เงา อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน
โดยมี พ.อ.มิ้น เหว่ย รัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและกิจการชายแดนรัฐคะยา สหภาพเมียนมา พร้อมคณะ เป็นผู้แทนรัฐบาลเมียนมาเดินทางมารับผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบดังกล่าวกลับประเทศด้วยความปลอดภัย โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยรอยยิ้มและเป็นกันเองของทั้งสองฝ่าย
สำหรับผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบดังกล่าว ได้หลบหนีภัยสงครามจากการสู้รบระหว่างรัฐบาลทหารเมียนมากับชนกลุ่มน้อยในรัฐคะยา เข้ามาอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวบ้านใหม่ในสอย ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ตั้งแต่ปี 2534 ถึงปัจจุบันเป็นเวลา 27 ปีเต็ม ขณะนี้สถานการณ์สู้รบในประเทศเมียนมาได้สงบลง ฝ่ายรัฐบาลเมียนมาและชนกลุ่มน้อยจากรัฐต่าง ๆ หลายกลุ่ม ได้จับมือวางอาวุธยุติการสู้รบที่ยืดเยื้อมานานหลายปี ทำให้สถานการณ์ภายในประเทศเมียนมาสงบลง ผู้อพยพหรือผู้หลบหนีภัยสงครามที่อยู่ภายในศูนย์พักพิงในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน หลายครอบครัวได้สมัครใจที่จะกลับมาตุภูมิตนเอง ซึ่งชุดนี้เป็นชุดที่ 2 ที่ได้มีการส่งกลับประเทศ โดยทั้ง 5 ครอบครัว 19 คน ก็จะกระจายไปอยู่ภูมิลำเนาตนเองในพื้นที่ อ.แม่แจ๊ะ , ดีมอร์โซว์ และ ลอยก่อว์ ซึ่งที่ผ่านมาผู้อพยพหลบหนีภัยสงครามจากการสู้รบภายในศูนย์พักพิงบ้านใหม่ในสอยมีมากกว่า 2 หมื่นคน และได้ขอไปอยู่ประเทศที่ 3 แล้วจำนวนหนึ่ง และขอกลับประเทศตนเองอีกจำนวนหนึ่ง ปัจจุบันยังคงเหลือผู้อพยพภายในศูนย์พักพิงบ้านใหม่ในสอยเพียง 8,000 คนเท่านั้น
แหล่งข่าวเผยว่าชาวกะเหรี่ยงคะยา ในศูนย์อพยพบ้านใหม่ในสอย ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ระบุว่า เดิมได้มีผู้อพยพพร้อมที่จะเดินทางกลับไปประเทศเมียนมา จำนวน 29 ราย และได้แจ้งยอดต่อเจ้าหน้าที่ในศูนย์อพยพไปแล้ว แต่มาภายหลังได้เกิดเปลี่ยนใจ สาเหตุหนึ่งมาจากความไม่มั่นใจในสถานการณ์ในเมียนมา หลังพบว่ามีการเสริมกำลังทหารจาก กองพลทหารราบเบาที่ 55 ( พล.ร.เบา 55 ) เข้ามาในพื้นที่รัฐคะยาอีกครั้งเมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ พม่ากองพลฯ ดังกล่าว ถือเป็นกองพลคอมมานโด ที่เคยถูกส่งเข้ามากวาดล้างชนกลุ่มน้อยกะเหรี่ยงคะยาติดอาวุธ ( Karenni National Progressive Army ; KNPA ) ในห้วงปี 2548 ซึ่งมีการสู้รบกันอย่างหนักบริเวณฐานที่มั่นยามู ฐานที่มั่นของทหารกะเหรี่ยงคะยาที่ตั้งติดชายแดนไทย ด้านบ้านแม่ส่วยอู ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน และห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนไปทางทิศตะวันตกราว 12 ไมล์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง