เปิดโลงชันสูตรศพพรานป่าถูกซ้อมม้ามฉีก

               20 เม.ย. 61  นายศักดา คล้ายร่มไทร อัยการจังหวัดนางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ พร้อม พ.ต.อ.โสภณ เครือเช้า ผู้กำกับการ สภ.โนนดินแดง ร.ต.อ.ยุทธนา โพธิ์สีดี พนักงานสอบสวน แพทย์โรงพยาบาลโนนดินแดง และปลัดอำเภอโนนดินแดง ได้ลงพื้นที่ร่วมชันสูตรพลิกศพ นายจำนงค์ เคราะกิ่ง อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 61 ม.2 บ้านโคกเพชร ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ เนื่องจากญาติติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต ระหว่างการควบคุมตัวของเจ้าพนักงาน หลังถูกจับกุมฐานร่วมกับพวกอีก 1 คน ลักลอบเข้าไปใช้อาวุธปืนยิงกระทิงป่า น้ำหนักประมาณ 500 กิโลกรัม ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ ตาย จำนวน 1 ตัว เมื่อวันที่ 9 เม.ย. ที่ผ่านมา

               แต่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมกลับมีการแถลงข่าวว่าเสียชีวิตเพราะอาการกระเพาะรั่ว ทั้งที่ญาติได้ส่งศพไปตรวจพิสูจน์ทั้งที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ และโรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น แพทย์ก็ลงความเห็นตรงกันว่า เสียชีวิตเนื่องจาก “ม้ามฉีกขาด และเสียเลือดมาก” จึงสร้างความแคลงใจให้กับญาติ และต่างเชื่อว่านายจำนงค์ไม่ได้ตายเพราะอาการกระเพาะรั่ว น่าจะตายเพราะถูกทำร้ายร่างกาย จึงได้นำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้าน ตั้งแต่วันที่เสียชีวิตจนถึงขณะนี้เป็นเวลา 10 วันแล้ว ยังไม่ฌาปนกิจเพราะยังติดใจสาเหตุการตาย
               ดังนั้น การชันสูตรพลิกศพในวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องนำศพออกมาจากโลง เพื่อให้แพทย์ตรวจชันสูตร ท่ามกลางญาติพี่น้อง และชาวบ้านจำนวนมากที่มาร่วมงานศพ และรอดูการตรวจชันสูตรศพของเจ้าหน้าที่ เพราะต่างอยากทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง
               นางหนู ราวทอง อายุ 77 ปี ยายของนายจำนงค์ ผู้เสียชีวิต บอกว่า ตนยังติดใจในสาเหตุการเสียชีวิตของหลาน เพราะจากผลการตรวจชันสูตรของแพทย์ทั้ง 2 โรงพยาบาล ก็ลงความเห็นตรงกันว่าเสียชีวิตจาก “ม้ามฉีกขาด และเสียเลือดมาก” ขณะที่ถูกเจ้าหน้าที่ทำการจับกุมหลังก่อเหตุฆ่ากระทิงป่า จึงเชื่อว่าหลานน่าจะถูกทำร้ายเสียชีวิต จึงอยากให้มีการตรวจชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง และหากผลสรุปพบว่าหลานถูกทำร้ายเสียชีวิตขณะมีการจับกุมจริง ก็อยากให้คนที่ทำออกมาแสดงความรับผิดชอบและได้รับโทษตามกฎหมาย
               นายศักดา คล้ายร่มไทร อัยการจังหวัดนางรอง กล่าวว่า กรณีที่ทีมสหวิชาชีพมาร่วมตรวจชันสูตรพลิกศพนายจำนงค์ในวันนี้ ก็เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง เนื่องจากเป็นการเสียชีวิตระหว่างการถูกควบคุมของเจ้าพนักงาน ส่วนที่ทางญาติติดใจสาเหตุการตายและต้องการให้ทำการเอกซเรย์กะโหลกอีกครั้ง ก็จะได้ให้เจ้าหน้าที่นำศพไปตรวจเอกซเรย์ที่โรงพยาบาลอย่างละเอียดตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าว่ามีบริเวณไหนที่มีร่องรอยแตกหักหรือผิดปกติหรือไม่ เพื่อคลายความคลางแคลงใจของญาติ หลังจากนั้นก็เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะต้องทำสำนวน ส่งพนักงานอัยการตามขั้นตอน เพื่อที่อัยการจะได้ทำสำนวนการไต่สวนการชันสูตรพลิกศพ ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อพิจารณาวินิจฉัยการสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป