ศาลให้โอกาส 'หมอเปรม' ปัดเจรจาแก้ผ้านักข่าว

               สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2559 ผู้สื่อข่าวจาก 5 สำนักข่าวในจังหวัดขอนแก่น ได้ติดตามทำข่าว กรณีที่มีการเผยแพร่ภาพทางโซเชียลมีเดีย เป็นภาพ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ หรือ หมอเปรม อดีตนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น นั่งคู่กับหญิงสาวชั้น ม.5 โดยที่ด้านหน้ามีพานใส่ธนบัตรจำนวนหนึ่ง และมีสำเนาทะเบียนรถยนต์เล่มสีน้ำเงินวางอยู่ 1 เล่ม พร้อมพระพุทธรูป โดยมีคนเฒ่าคนแก่กำลังผูกแขน คล้ายมีพิธีหมั้นหรือพิธีมงคลสมรสของภาคอีสาน

               โดยผู้สื่อข่าวทั้งหมดได้ขอพบและสัมภาษณ์หมอเปรม ภายในที่ทำการสำนักงานเทศบาลเมืองบ้านไผ่ ซึ่งได้สร้างความไม่พอใจให้กับหมอเปรมเป็นอย่างมาก หมอเปรมจึงได้วางแผนหลอกให้ผู้สื่อข่าวทั้ง 5 สำนักเข้าไปภายในห้องทำงานของนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ เมื่อผู้สื่อข่าวทั้งหมดเข้าไปภายในห้องดังกล่าว กลับถูกหมอเปรมสั่งเจ้าหน้าที่เทศบาลซึ่งเป็นลูกน้อง เก็บโทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายภาพของผู้สื่อข่าวทั้งหมด พร้อมกับให้ผู้สื่อข่าว นสพ.เดลินิวส์ ประจำ จ.ขอนแก่น ออกมาตรงหน้าโต๊ะทำงานหมอเปรมให้ลูกน้องจับแก้ผ้าประจาน
               ต่อมาผู้สื่อข่าวทั้ง 5 สำนัก เดินทางเข้าแจ้งความเอาผิดกับหมอเปรม พร้อมพวก รวม 7 คน ที่ สภ.บ้านไผ่ ในข้อหา “ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ทำการกักขังหน่วงเหนี่ยว บังคับข่มขืนจิตใจ ให้กระทำการใด หรือไม่กระทำการ และกระทำการอนาจารต่อหน้าธารกำนัล” ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านไผ่ ได้สรุปสำนวนคำสอบสวนฟ้องส่งให้กับอัยการจังหวัดพลไปตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน 2559
               กระทั่งเมื่อวันที่ 25 ส.ค. 60 นายบุญช่วง สุขโพธิ์ พนักงานอัยการจังหวัดพล ซึ่งเป็นเจ้าของสำนวนในคดีนี้ ได้ทำการตรวจสำนวนคดีดังกล่าว และมีความเห็นสั่งฟ้องเฉพาะ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ กับ ร.ต.บัวทอง โลขันธ์ เลขาฯ หมอเปรม เพียง 2 คน เท่านั้น ส่วนฝ่ายโจทก์ อัยการให้เหลือเพียง นายก่อสิทธิ์ กองโฉม ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ ที่โดนถอดกางเกงเพียงคนเดียวเท่านั้นเป็นโจทก์
               ความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (17 เม.ย.) นายปกาญจน์ นพศรี ทนายโจทก์ร่วมคดีหมายเลขดำ ที่ 1519 / 2560 ศาลจังหวัดพล เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 2560 ความอาญา ระหว่าง พนักงานอัยการจังหวัดพล โจทก์ นายเปรมศักดิ์ เพียยุระ กับพวก รวม 2 คน จำเลย ได้มาที่ศาลจังหวัดพล พร้อมกับ นายก่อสิทธิ์ กองโฉม ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ นายปราโมทย์ ศรีบุระ ผู้สื่อข่าวทีวีช่อง 3 นายสุพล บุญชื่นชม ผู้สื่อข่าวมติชน น.ส.จิติมา จันพรม ผู้สื่อข่าวเนชั่นทีวี และนายปรัชญา เทพสกุล ผู้สื่อข่าว kkc เคเบิ้ลทีวี เนื่องจากเป็นการพิจารณาคดีต่อเนื่องและครบองค์คณะ ซึ่งจะต้องเรียงลำดับเก่าใหม่ต่อเนื่องกันไปให้เสร็จทีละคดี ไม่นัดคดีไว้เผื่อเลื่อนเช่นดังเดิม

               นายปกาจน์ นพศรี ทนายโจทก์ร่วมในคดีดังกล่าว เปิดเผยว่า การมาที่ศาลจังหวัดพลครั้งนี้ เพราะอัยการจังหวัดพลเป็นโจทก์ ฟ้อง นพ.เปรมศักดิ์ กับพวก รวม 2 คน เป็นจำเลย เรื่อง อนาจาร ความผิดต่อเสรีภาพ ก่อนหน้าที่จะมีการไต่สวนสืบพยาน ศาลได้มีการสอบถามว่าจะมีการพูดคุยหรือจะหาโอกาสเจรจากันได้ไหม ซึ่ง นพ.เปรมศักดิ์ ยืนยันว่า จะไม่ขอไกล่เกลี่ย เพราะถ้าไกล่เกลี่ยไปแล้วอาจจะมีผลต่อจำเลยเกี่ยวกับในด้านต่างๆ ของจำเลย
               “วันนี้จึงต้องสืบพยานโจทก์ครั้งแรก ตอนเช้าเป็นการสืบพยานโจทก์ นายก่อสิทธิ์ กองโฉม ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ ประจำ จ.ขอนแก่น เป็นคนแรก ในประเด็นกักขังหน่วงเหนี่ยว อนาจาร ความผิดต่อเสรีภาพ โดยเฉพาะกระทำให้เกิดความกลัวและเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ในการสอบพยานโจทก์ นายก่อสิทธิ์ได้ยืนยันว่าหมอเปรมกับพวกได้กระทำดังกล่าวจริง เพราะถูกจับแก้ผ้าในห้องทำงานของหมอเปรม โดยยืนยันหนักแน่นว่าการกระทำดังกล่าวทำให้ผู้เสียหายได้รับความเสียหาย ในช่วงบ่ายโมงจะต้องมีการสอบพยานโจทก์อีก 3 - 4 ปาก ซึ่งเป็นประจักษ์พยานอยู่ในจุดเกิดเหตุ ได้เห็นเหตุการณ์ที่หมอเปรมกับพวกจับนายก่อสิทธิ์แก้ผ้า” นายปกาญจน์ นพศรี ทนายโจทก์ร่วม กล่าว