แห่ตัดกรรม วัดปราโมทย์ สมุทรสงคราม !!

 

          แม้จะผ่านเทศกาลสงกรานต์มาแล้ว ประชาชนส่วนหนึ่งเดินทางกลับจากภูมิลำเนา และกลับจากท่องเที่ยว เพื่อทำงานกันแล้ว แต่บางส่วนยังเข้าวัดเสริมบุญให้กับตนเองและครอบครัว เช่นที่ วัดปราโมทย์ ตำบลบ้านปราโมทย์ อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม นักท่องเที่ยวจำนวนมากได้เข้าร่วมพิธีทำบุญสะเดาะเคราะห์ ขอขมาตัดกรรม ซึ่งเป็นพิธีที่มีมาแต่โบราณและหาดูได้ยากในปัจจุบัน โดยทุกวันช่วงเช้าจะมีนักท่องเที่ยวจองที่นั่งเข้าร่วมพิธี โดยพระครูปราโมทย์ปัญญาวัฒน์ หรือหลวงพ่อบุญเลิศ เจ้าอาวาสวัดปราโมทย์ เป็นเจ้าพิธี

 

 

 

          เริ่มจากบูชาชุดสะเดาะเคราะห์ขอขมาอโหสิกรรมต่อเจ้ากรรมนายเวรก่อนจะนำสวดเบิกอุปสรรคขอขมากรรม ถวายสังฆทาน อ่านโองการ เจริญพระพุทธมนต์ สวดธัมมจักกัปปวัตนสูตร สวดบทประจำวันเกิดและอื่นอีกกว่า 30 บท ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ จากนั้นหลวงพ่อเลิศ จะให้ผู้เข้าร่วมพิธีหักดอกบัวถือไว้ 1 ดอก พร้อมกับบอกให้จับเส้นผมของตนขึ้นมาเล็กน้อย แล้วท่านก็อธิษฐานจิตปล่อยทุกข์ปล่อยโศก จากนั้นเจ้าพิธีตัดผมนั้นให้ขาดออกจากตัวเป็นการตัดบาปเคราะห์ทั้งหลายให้หมดสิ้นไป จากนั้นผู้เข้าร่วมพิธีนำผมใส่ในดอกบัวแล้วให้นำไปลอยลงในคลองแควอ้อมหน้าวัดก่อนลอยก็ให้อธิษฐานจิตลอยสิ่งที่ไปดีไปกับพระแม่คงคา แล้วกลับมาประพรมน้ำพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนเดินทางกลับ

 

 

 

 

          พระครูปราโมทย์ปัญญาวัฒน์ กล่าวว่า มนุษย์เราส่วนมากจะล่วงเกินสิ่งที่ไม่ควรล่วงเกิน เช่น สิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะบิดามารดาที่มีบุญคุณใหญ่หลวงต่อลูกๆ แต่ลูกส่วนใหญ่จะเถียงพ่อแม่ จึงมีพิธีขอขมากรรมซึ่งเป็นพิธีที่ทำกันมาตั้งแต่อดีต อาตมาก็สืบทอดต่อมา เพื่อให้ญาติโยมที่สร้างกรรมโดยการล่วงเกินสิ่งที่ไม่ควร รวมถึงการเถียงพ่อแม่ให้มาขอขมากรรม ผ่านพิธีกรรมนี้โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ทุกวันจันทร์ อังคาร และวันพุธ มีรอบ 08.00 น.รอบเดียว ส่วนวันพฤหัสบดีถึงวันอาทิตย์ มี 2 รอบ คือเวลา 08.00 น. และ 11.00 น. จึงขอเชิญญาติโยมพุทธศาสนิกชนมาเยี่ยมชมวัดปราโมทย์ หรือร่วมพิธีขอขมาตัดกรรมได้ตามวันและเวลาดังกล่าว

 

 

 

 

 

          สำหรับวัดปราโมทย์ เป็นวัดเก่าแก่โบราณ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2421 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เดิมชื่อวัด “โรงหวี” ปัจจุบันนอกจากวัดปราโมทย์จะมีอุโบสถที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2495 ที่สวยงามแล้ว ยังมีพระประธาน คือ “หลวงพ่ออินทรประเสริฐ” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่เนื้อศิลาแดงปางสมาธิ อายุกว่า 100 ปี นอกจากนี้ยังมีวิหารยอดมณฑป ประดิษฐานพระศรีอริยเมตไตย ประชาชนเรียกท่านว่า “หลวงพ่อโต” เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางพระศรีอาริย์ อายุกว่า 180 ปี ขนาดหน้าตักกว้าง 4.12 เมตร สูงจากฐานถึงเศียร 4.32 เมตร มีพระเกศสวยงามพระพักต์ยิ้มตลอด มีความศักดิ์สิทธิ์เมื่อบนบานศาลกล่าวก็มักจะได้รับความสำเร็จ เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของประชาชนในท้องถิ่นแห่งนี้มาก อีกทั้งยังมีพลับพลาจัตุรมุข อนุสรณ์สถาน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 อีกด้วย