สวัสดีครับแฟนๆ ชาวบ้านไม่บาน ก็เป็นที่ฮือฮาและเป็นที่สนอกสนใจกันไปทั่วประเทศกับโครงการตึกระฟ้า สูง 120 ชั้นที่ไม่บาน ที่ผมได้นำเสนอไปในสัปดาห์ที่แล้ว มาว่ากันต่อครับถึงที่มาที่ไปของโครงการเมกะโปรเจกท์ที่ไม่บานนี้
ถ้าหากแฟนๆ ชาวคนรักบ้านได้ติดตามบทความข้อเขียนของผม รวมทั้งได้เข้าฟังการบรรยายของผมในที่ต่างๆ จะพบว่าผมได้ทำการวิเคราะห์และฟันธงลงไปว่าในอนาคตอันใกล้นี้ เศรษฐกิจของไทยโดยรวมก็คงจะมีอาการทรงๆ แบบคนจับไข้ เรื้อรัง มีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว ร้อนๆ หนาวๆ กันไปแบบนี้อีกอย่างน้อย 2-3 ปี ไม่ดีขึ้นไปกว่านี้แน่ๆ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากสังคมไทยยังแบ่งพรรค แบ่งพวก แบ่งฝัก แบ่งฝ่าย ยังสนุกกับการ “เล่นกีฬาสี” กันอยู่อย่างนี้)
ดังนั้น ถ้าในภาพรวมของเศรษฐกิจที่ไม่ใคร่จะดีนักทั้งภาครัฐและเอกชน จึงจำเป็นต้องลงทุนก่อสร้างอะไรบางอย่าง เพื่อกระตุ้นให้เศรษฐกิจ เหมือนกับตอนช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้เกิดโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ตกต่ำโดยการนำของประธานาธิบดีรูสเวลท์ ซึ่งเรียกว่าโครงการ “นิวดีล” และทำให้ผมยังเชื่อว่าโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจในลักษณะนี้จะเกิดอีกครั้งครับ
โครงการตึกสูงระฟ้า สูง 120 ชั้นที่ไม่บาน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจนี้ หลังจากที่ได้ทำการศึกษา วิเคราะห์ทำให้เชื่อมั่นว่ามีความเป็นไปได้ในการลงทุนและการทำงานได้คืบหน้าไปกว่า 75% จากการที่คณะทำงานได้ทำงานอย่างต่อเนื่องและหนักหน่วงมาตลอดระยะเวลา 2 ปี จะเห็นว่ามีการศึกษารูปแบบตึกระฟ้าสูง 120 ชั้นที่ไม่บานในรูปแบบที่หลากหลาย แต่เหนือสิ่งอื่นใดหากท่านดูจากยอดของตึกสูงระฟ้าไม่บานนี้แล้ว จะเห็นว่าผมออกแบบให้ยอดตึกระฟ้านี้มีเลข 9 เพื่อประกาศให้โลกรู้ว่าคนไทยได้สร้างตึกสูงระฟ้าไม่บานนี้ขึ้นในรัชกาลที่ 9 และสำหรับผมเลข 9 ที่ถูกออกแบบไว้ที่ยอดอาคารเป็นสิ่งมงคลสูงสุดครับ
ในการลงมือปฏิบัติงานในโครงการตึกสูงระฟ้าไม่บานที่มีความซับซ้อนทั้งในด้านการลงทุน การออกแบบทั้งทางสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมเช่นนี้ ผมมักเล่านิทาน “ลุงโง่ย้ายภูเขา” ให้บรรดาคณะทำงานฟัง เพราะ “ลุงโง่” ได้คิดจะเคลื่อนย้ายภูเขาแห่ง “อวิชชา” คือความไม่รู้ ด้วยความคิดที่จะสร้างตึกระฟ้าไม่บานที่สูงกว่า 120 ชั้น ซึ่งอาจจะต้องใช้ระยะเวลายาวนานกว่าจะแล้วเสร็จ แต่หากทำสำเร็จ ก็ทำให้ทั้งสิงคโปร์ และ กัวลาลัมเปอร์ จะต้องหันมามอง ผมจึงมักกล่าวเสมอครับว่า “ความฝันและความหวังเป็นของฟรี” ครับ
แฟนๆ ชาวคนรักบ้านหลายท่านอาจคิดว่าผมกำลังทุมเทสรรพกำลังอยู่กับโครงการ บ้านมวลชนไม่บานต้านภัยพิบัติทางธรรมชาติในราคาสองแสนบาท++ แต่ที่จริงไม่ใช่หรอกครับ โครงการที่มีมูลค่าสองพันล้านบาท++ ผมก็กำลังดำเนินการอยู่เช่นกันครับ เพียงแต่โครงการที่มีมูลค่าสูงมากๆ ผมมักจะไม่ได้นำมาเล่าให้ท่านผู้อ่านได้รับรู้รับทราบกันครับ แต่ในแก่นแท้ของการทำงานแล้วโครงการที่มีมูลค่าเยอะๆ หรือมีมูลค่าน้อยๆ ก็ไม่แตกต่างกัน เพราะโดยแก่นสาระแล้วผมอยากดึงคนกลับสู่พื้นฐานแห่ง “ความพอเพียง” ในการดำเนินชีวิต
ผมอยากบอกกับชาวคนรักบ้านทุกท่านว่า ไม่ว่าจะเป็นบ้านไม่บานสองแสนกว่าบาท หรือตึกระฟ้าไม่บานมูลค่ากว่าสองพันล้านบาทก็ไม่มีอะไรแตกต่างกัน อีกทั้งยังต้องน้อมนำเอาแนวคิด “เศรษฐกิจพอเพียง” มาปรับประยุกต์ใช้ ไม่ว่าโครงการเล็กหรือใหญ่ก็จะสามารถอยู่รอดปลอดภัย หากมีการวางแผนในการลงทุนอย่างชาญฉลาดและไม่ประมาทหรือเล็งผลเลิศมากเกินไป ผมกล้าประกันว่าสามารถสร้างได้แน่นอนครับ เช่น ตึกสูงระฟ้า “ใบหยกทาวน์เวอร์” มีความสูง 90 กว่าชั้นในย่านประตูน้ำ ติดกับทางรถไฟ อยู่ในทำเลที่แออัด อีกทั้งถนนก็คับแคบ แต่ด้วยความเชื่อมั่นและความเพียรอันบริสุทธิ์ก็สามารถดำเนินการก่อสร้างจนแล้วเสร็จได้ครับ
เชื่อว่าถ้าโครงการนี้เกิดขึ้นต้องเป็นโครงการที่อึ้ง ทึ่งไปทั้งภูมิภาคอาเซียนครับ ก็อาจจะทำให้ตึกระฟ้า “ปิโตรนาส” ของประเทศมาเลเซีย อาจจะเป็นตำนานไปเลยครับ สมดังอมตะวาจากล่าวว่า “แชมป์มีไว้ล้ม” และอมตะวาจาอีกประโยคหนึ่งว่า “คลื่นลูกหลังแรงกว่าคลื่นลูกแรก” เสมอครับ
ฉบับนี้พื้นที่หมดครับ เอาไว้ติดตามสาระน่ารู้ของโครงการตึกระฟ้าสูง 120 ชั้นที่ไม่บานกันต่อในสัปดาห์หน้าครับ ก่อนจากกันไป สำหรับแฟนๆ ชาวคนรักบ้านทั่วประเทศที่สนใจสมัครเป็นศูนย์ข้อมูล “ตักสิลา” ในการเผยแพร่ความรู้ที่เกี่ยวกับบ้านไม่บานและอพาร์ตเมนต์ไม่บาน รวมถึงโรงแรม, รีสอร์ทไม่บาน ในรูปแบบต่างๆ กว่า 200 แบบ ของ อ.ดร.เชี่ยว ชอบช่วย สามารถแจ้งความจำนงมาได้ที่เบอร์ 0-2245-1399 และ 0-2 644-1478 โดยด่วนครับ
นอกจากนั้น แฟนๆ ชาวบ้านไม่บานทั่วประเทศที่สนใจ บ้านมวลชนไม่บานต้านภัยธรรมชาติ ที่ประโยชน์สูง ประหยัดสุด และสวยงามสุดๆ ในชุด “เรือนขวัญจิตต์” เพื่อ “แม่หมอขวัญจิตต์” ก็สามารถเขียนจดหมายส่งมาที่ ผศ.ดร.ภัทรพล เวทยสุภรณ์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ ถนนหน้าพระลาน กรุงเทพมหานคร 10200 เพื่อที่ผมจะได้ทำการจัดส่งรายละเอียดกลับไปให้ท่านได้นำไปต่อยอดทางความคิด หรือนำไปประยุกต์ใช้เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ อีกทั้งสามารถดูข้อมูลอันเป็นสารประโยชน์ย้อนหลังได้ที่ www.homeloverthai.com ครับ แล้วพบกับสาระน่ารู้ของคนรักบ้านในสัปดาห์หน้า สวัสดีครับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง