Lifestyle

พระองค์ภาฯ ทรงเปิดโครงการเพื่อผู้ต้องขัง "ธรรมด้วยพัชรธรรมฯ"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ทรงเห็นว่าธรรมะจะช่วยพัฒนาจิตใจผู้ที่กระทำผิดในจังหวัดจันทบุรีได้อย่างตรงจุด

       พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จไปทรงเปิดโครงการกำลังใจฯ “ธรรมด้วยพัชรธรรม & เชื่อมเรือนจำกับสังคม” ณ เรือนจำจังหวัดจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี ซึ่งเป็นแห่งที่ 19 ของการเปิดโครงการกำลังใจในพระดำริฯ โดยมีผู้บริหารของกระทรวงยุติธรรม หัวหน้าหน่วยราชการในจังหวัดจันทบุรี เฝ้าฯ รับรับเสด็จ เมื่อวันก่อน

พระองค์ภาฯ ทรงเปิดโครงการเพื่อผู้ต้องขัง "ธรรมด้วยพัชรธรรมฯ"

พระองค์ภาฯ ทรงเปิดโครงการเพื่อผู้ต้องขัง "ธรรมด้วยพัชรธรรมฯ"

      พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ประทานความช่วยเหลือผู้ต้องขัง ผู้ด้อยโอกาสทางสังคมมาโดยตลอด และในปีนี้โครงการกำลังใจฯ ดำเนินการเข้าสู่ปีที่ 13 โดยยังคงมีวัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือผู้ต้องขังชายและหญิง ในเรือนจำ/ทัณฑสถานต่างๆ รวมทั้งเด็กติดผู้ต้องขัง ซึ่งปัจจุบันโครงการกำลังใจฯ ได้ดำเนินการเปิดโครงการกำลังใจไปในเรือนจำและทัณฑสถานหญิงไปแล้ว 18 แห่งทั่วประเทศ วันนี้ได้เปิดดำเนินโครงการกำลังใจฯ ณ เรือนจำจังหวัดจันทบุรี เป็นแห่งที่ 19

พระองค์ภาฯ ทรงเปิดโครงการเพื่อผู้ต้องขัง "ธรรมด้วยพัชรธรรมฯ"

      สำหรับเรือนจำจังหวัดจันทบุรี ปัจจุบันมีผู้ต้องขังทั้งสิ้น 2,519 คน แยกเป็นผู้ต้องขังหญิง 307 คน ผู้ต้องขังชายจำนวน 2,212 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 20 มีนาคม 2562) โดยพื้นฐานของสภาพเศรษฐกิจของจังหวัดจันทบุรีค่อนข้างดี ประชาชนในภาพรวมค่อนข้างมีฐานะจากการมีสวนผลไม้ บ่อพลอย และอื่นๆ จึงส่งผลให้การกระทำผิดของคนในจังหวัดเป็นการกระทำผิดที่มีลักษณะของอาชญากรรมที่เกี่ยวกับทรัพย์ ความผิดเกี่ยวกับเพศ และคดียาเสพติดที่เป็นคดีส่วนใหญ่ของเรือนจำ โดยปรากฏว่ายาเสพติดที่ผู้กระทำผิดใช้ส่วนใหญ่เป็นประเภทยาไอซ์ เนื่องด้วย มีฐานะทางเศรษฐกิจค่อนข้างดี ดังนั้นการกระทำผิดของผู้คนในจังหวัดจันทบุรี จึงมาจากการกระทำผิดที่มิใช่มาจากปัญหาทางเศรษฐกิจเหมือนจังหวัดอื่นๆ

      พระองค์ภาฯ ทรงเปิดโครงการเพื่อผู้ต้องขัง "ธรรมด้วยพัชรธรรมฯ"

     และเมื่อพระเจ้าหลานเธอฯ ทรงทราบถึงปัญหาของผู้ต้องขังที่มาจากเรื่องความอ่อนไหวของจิตใจ และความพึงพอใจส่วนตัว จึงได้ประทานให้มีการดำเนินกิจกรรมที่จะสร้างความเข้มแข็งภายในจิตใจ จึงได้มีการนมัสการให้พระครูภาวนาวิริยวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย จังหวัดลำพูน มาดำเนินโครงการพัชรธรรม โดยทรงเห็นว่า ธรรมะจะช่วยพัฒนาจิตใจผู้ที่กระทำผิดในจังหวัดจันทบุรีได้อย่างตรงจุด ซึ่งจากการติดตามผลการดำเนินงานตามโครงการพัชรธรรมพบว่าหลักธรรมจากพระครูภาวนาวิริยวัฒน์ ได้ช่วยสร้างความเข้มแข็งและความมีสติ รู้จักผิด รู้จักชอบมากขึ้น และได้แพร่กระจายความเข้มแข็งและการยั้งคิดไปยังผู้ต้องขังในเรือนจำเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งมีผู้ต้องขังที่พ้นโทษจากเรือนจำจังหวัดจันทบุรีไปบรรพชา รวมทั้งปฏิบัติธรรม ที่วัดรวม 3 ราย

พระองค์ภาฯ ทรงเปิดโครงการเพื่อผู้ต้องขัง "ธรรมด้วยพัชรธรรมฯ"

      นอกจากกิจกรรมในโครงการพัชรธรรมแล้ว โครงการกำลังใจฯ ยังได้ดำเนินการฝึกวิชาชีพ ที่สอดคล้องกับตลาดในสมัยปัจจุบัน เช่น การปักผ้าด้วยริบบิ้น การสอนศาสตร์พยากรณ์ การทำสบู่ฝังลาย การแต่งหน้าเค้กขั้นสูง เป็นต้น โดยอาชีพเหล่านี้จะเน้นการออกไปประกอบอาชีพอิสระภายหลังพ้นโทษและนอกจากนี้ยังมีหมอแสง หรือนายแสงชัย แหเลิศตระกูล ได้มาให้กำลังใจกับผู้ต้องขังด้วยการแจกจ่ายสมุนไพรเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรงอีกด้วย เป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งทั้งภายในจิตใจและร่างกายภายนอกอย่างแท้จริง

พระองค์ภาฯ ทรงเปิดโครงการเพื่อผู้ต้องขัง "ธรรมด้วยพัชรธรรมฯ"

    อีกประการที่สำคัญที่เรือนจำแห่งนี้ได้ดำเนินการที่สอดคล้องกับการดำเนินงานตามข้อกำหนดกรุงเทพและเป็นการส่งต่อผู้พลั้งพลาดในการกลับคืนสู่สังคม คือ โครงการเรือนจันแลนด์ ตามแนวคิด “เรือนจัน เรือนจำใจเพื่อคนจัน สร้างสังคมปลอดภัย” ที่ประกอบด้วย 7 สถานี คือ เรือนจันครัวไทย, Inspire coffee at เรือนจัน, Green outlet, พิพิธภัณฑ์เสื่อกกจันทบูร, คุกขี้ไก่จำลอง, เรือนจันสบาย และเรือนจันคาร์แคร์ โดยปัจจุบันได้เปิดดำเนินการแล้ว ได้แก่ เรือนจันครัวไทย ซึ่งร้านอาหารขายข้าวแกง ให้บริการแก่ประชาชนทั่วไปในราคาถูก ผู้มาใช้บริการเรือนจันครัวไทยได้บอกว่า “อาหารราคาไม่แพง ผู้ต้องขังที่มาให้บริการก็ไม่น่ากลัว และมีบุคลิกภาพที่ดีต่อการบริการ”

พระองค์ภาฯ ทรงเปิดโครงการเพื่อผู้ต้องขัง "ธรรมด้วยพัชรธรรมฯ"

     และในส่วนของ Inspire coffee at เรือนจัน ได้เปิดบริการในวันนี้ โดยพระเจ้าหลานเธอฯ เสด็จเป็นประธานเปิดร้านกาแฟ “Inspire by Princess” โดยในร้านกาแฟนอกจากจะมีบริการกาแฟ เบเกอรี่แล้วยังมีบริการดูดวงโดยไพ่ยิบซีจากผู้ต้องขังที่ถือเป็นเรือนจำแห่งแรกที่เปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังได้ออกมาให้บริการภายนอก และอีกส่วนที่เป็นไฮไลท์ของเรือนจันแลนด์ คือ คุกขี้ไก่จำลอง ทางเรือนจำได้สร้างคุกขี้ไก่แบบเดียวกันกับที่ตั้งของคุกขี้ไก่ซึ่งตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 1 ตำบลปากแหลมสิงห์ อำเภอแหลมสิงห์ มาตั้งอยู่ ณ เรือนจันแลนด์ ซึ่งจะเป็นจุดเช็คอินแห่งใหม่ของจังหวัดจันทบุรี ส่วนพื้นที่ที่เหลืออีก 4 สถานี ได้แก่ Green outlet, พิพิธภัณฑ์,เรือนจันสบาย และเรือนจันคาร์แคร์ ที่จะดำเนินการต่อไปในอนาคต

พระองค์ภาฯ ทรงเปิดโครงการเพื่อผู้ต้องขัง "ธรรมด้วยพัชรธรรมฯ"

     อีกประการที่สำคัญคือผู้ประกอบการในจังหวัดจันทบุรีได้ให้โอกาสผู้ต้องขังมาเป็นเวลา 2 ปี กล่าวคือโรงกระเบื้องเด่นจันทร์ ที่ ดร. พัชริศร์ หัตถวิจิตรกุล เจ้าของโรงงานกระเบื้องดินเผาเด่นจันทร์ได้ให้ผู้ต้องขังออกจากเรือนจำมาทำงานแบบเช้าไป-เย็นกลับที่โรงกระเบื้องและได้ค่าแรงตามค่าจ้างขั้นต่ำวันละประมาณ 20 คน รวมทั้งรับเข้าทำงานหากพ้นโทษแล้ว

    และนอกจากนี้ โครงการกำลังใจฯ ได้รับการช่วยเหลือและสนับสนุนจากภาคเอกชนระดับประเทศ ได้แก่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และบริษัทในเครือ ได้เข้ามาช่วยเหลือและสนับสนุนโครงการกำลังใจฯ ได้จัดทำโครงการ “จันท์ช่วยจันท์” ซึ่งเป็นโครงการสร้างโอกาสในชีวิตให้แก่ผู้ก้าวพลาด ณ เรือนจำจังหวัดจันทบุรี ผ่านเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่งของบริษัทกรุงศรีออโต้ในกิจกรรมต่างๆ เช่นมีดีลเลอร์ในจังหวัดจันทบุรีเข้าร่วมโครงการ 7 ราย, ได้สนับสนุนงบประมาณในการพัฒนาเรือนจัน 3 แสนบาท, จัดแคมเปญได้รถได้บุญ, สอนพื้นฐานความรู้ด้านการเงินและธุรกิจ เป็นต้น ซึ่งการช่วยเหลือของภาคเอกชน เช่น โรงกระเบื้องเด่นจันทร์และธนาคารกรุงศรีอยุธยาฯ จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับภาคเอกชนเข้ามาให้โอกาสผู้ที่พลั้งพลาด

พระองค์ภาฯ ทรงเปิดโครงการเพื่อผู้ต้องขัง "ธรรมด้วยพัชรธรรมฯ"

     เรือนจำในความรับรู้และเข้าใจของคนโดยทั่วไปคือที่คุมขังผู้ต้องโทษ แต่เรือนจำจังหวัดจันทบุรีแห่งนี้กำลังเปิดพื้นที่ให้ผู้ต้องขังได้แสดงความสามารถแสดงที่จะเริ่มชีวิตใหม่เป็นคนดีของสังคม รวมทั้งกำลังเปิดพื้นที่ให้ภาคเอกชน และชุมชนได้เข้ามาให้โอกาสผู้พลั้งพลาดอย่างเป็นรูปธรรม ที่น่าจะต้องติดตามกันต่อไป

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ