Lifestyle

สำราญ"คาว-หวาน"ในงานอุ่นไอรักฯ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

อิ่มอร่อยกับอาหารไทยโบราณ อาหารไทยพื้นบ้าน

        ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานพระราชานุญาตให้จัดงาน "อุ่นไอรักคลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” นอกจากประชาชนที่ไปร่วมงานจะได้รับความรู้ ได้ชื่นชมความงดงามของความเป็นไทย ในแขนงต่างๆ รวมถึงได้ร่วมทำบุญและสานต่อบุญไปยังผู้ประสบภัยแล้วนั้น ยังจะได้อิ่มอร่อยกับ อาหารไทยโบราณ อาหารไทยพื้นบ้าน จากหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ที่นำมาจำหน่ายภายในบริเวณสนามเสือป่า ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ส่วนได้แก่ ตลาดบกสี่ภาค, ตลาดน้ำในฝัน และ ตลาดเดินชิมริมทาง อีกด้วย

สำราญ"คาว-หวาน"ในงานอุ่นไอรักฯ  

สำราญ"คาว-หวาน"ในงานอุ่นไอรักฯ

อาจารย์พิมพรรณ ประณีตทอง สาธิตการทำไข่หวานอย่างชาววัง

        และก่อนที่จะเข้าไปลิ้มรสความอร่อยภายในตลาดต่างๆ ที่บริเวณด้านหน้าสนามเสือป่า “โรงเรียนช่างฝีมือในวังหญิง” นำโดย อาจารย์พิมพรรณ ประณีตทอง ได้นำอาหารคาว-หวาน อาทิ ข้าวน้ำพริกลงเรือ, ยำใหญ่, ขนมเบื้องญวน, จ่ามงกุฎ, เกสรลำเจียก, บัวลอยสามสี, โสมนัส, ทองเอก, ส้มฉุน, มัศกอด และ กลีบลำดวน เปิดร้านจำหน่ายให้เหล่านักชิมได้ลิ้มรสความอร่อยตามแบบฉบับสาวชาววัง โดยเฉพาะ “ข้าวน้ำพริกลงเรือ” เพียงชุดละ 40 บาท แต่ความอร่อยล้นทะลักไปด้วยวัตถุดิบคุณภาพรวมถึงฝีมือการปรุงชั้นครูที่ยึดตามตำราเป๊ะๆ ส่วนเครื่องเคียงก็มีความสำคัญไม่แพ้กันอย่าง “หมูหวานชาววัง” ใช้หมูส่วนสามชั้นและสะโพกรวมกันหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆ จากนั้นค่อยๆ เคี่ยวกับน้ำตาลปี๊บซึ่งทำจากมะพร้าวจนกว่าจะได้เป็นสีน้ำตาลแดง ด้วยไฟรุมๆ อีกหนึ่งเครื่องเคียงที่ต้องใช้ความพิถีพิถันไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน “ปลาดุกฟู” กว่าจะได้ชิมต้องผ่านขั้นตอนมากมาย อันดับแรก นำชิ้นปลาไปย่างแล้วจึงยีให้ฟูก่อนจะคลุกเคล้าเบาๆ กับน้ำมันถั่วเหลือง แล้วค่อยนำไปทอดด้วยน้ำมันปาล์ม โดยน้ำมันจะต้องอยู่ในอุณหภูมิที่ไม่ร้อนจนเกินไป สังเกตง่ายๆ ลองหย่อนเนื้อปลาลงไปถ้าดังฉ่าเป็นอันว่าใช้ได้ สำหรับผักจิ้มนั้นสามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมของฤดูกาล แต่ที่ขาดไม่ได้คือ ขมิ้นขาว...เคล็ดลับความอร่อยของจานนี้ อ.พิมพรรณ กระซิบว่าถ้าใครชอบรสจัดสามารถจัดลูกโดดเพิ่มได้ตามอัธยาศัย

สำราญ"คาว-หวาน"ในงานอุ่นไอรักฯ

สำราญ"คาว-หวาน"ในงานอุ่นไอรักฯ

ข้าวพันผัก ของดีเมืองลับแล

       จากรั้วสนามเสือป่าด้านนอก เราขยับความอร่อยเข้ามาด้านใน ฝั่งซ้ายมือเป็นโซนอาหารพื้นบ้านจากทั่วไทย “ตลาดบกสี่ภาค” และ “ตลาดเดินชิมริมทาง” ขอแนะนำให้ลองแวะที่ร้านอาหารโอท็อปของจังหวัด “อุตรดิตถ์(บางโพธิ์ท่าอิฐ)” ชิมอาหารกินเล่นเบาๆ เพื่อสุขภาพขึ้นชื่ออย่าง “ข้าวพันผัก” เจ้าของตำรับความอร่อยพื้นบ้าน มาลัย สุขเกษม บอกว่าหากใครนึกไม่ออกให้จินตนาการไปถึงขั้นตอนการทำข้าวเกรียบปากหม้อ เริ่มด้วยละเลงแป้งข้าวเจ้าบนผ้าขาวบางที่ขึงตรึงบนหม้อต้มน้ำร้อนใช้ฝาครอบรอให้แป้งสุกทาทับด้วยไข่ไก่ แล้วค่อยวางไส้ ซึ่งประกอบด้วยผักต่างๆ ได้แก่ ฟักทอง แครอท กระหล่ำม่วง กระหล่ำปลีขาว ผักบุ้งจีน และวุ้นเส้น ปิดฝาหม้ออีกครั้งรอจนกว่าผักสุกได้ที่จึงม้วนแป้งห่อแล้วตักใส่โดยเครื่องเคียงด้วย เต้าหู้, ไส้กรอกไก่, เกี๊ยวทอดหรือแคปหมู, กระเทียมเจียว, ผักชีใบเลื่อยซอยละเอียด ราดด้วยน้ำจิ้มสุกี้ หรือถ้าอยากเพิ่มรสชาติให้จัดจ้านยิ่งขึ้นก็มี พริกป่น, น้ำปลา และน้ำตาล ไว้เป็นทางเลือก...40 บาทอร่อยแบบเบาท้อง นักชิมสายสุขภาพควรลอง

สำราญ"คาว-หวาน"ในงานอุ่นไอรักฯ

ข้าวน้ำพริกลงเรือฉบับชาววัง

สำราญ"คาว-หวาน"ในงานอุ่นไอรักฯ

ขนมบัวลอยสามสี

สำราญ"คาว-หวาน"ในงานอุ่นไอรักฯ

ขนมไทยในร้านศิลปาชีพ 904

สำราญ"คาว-หวาน"ในงานอุ่นไอรักฯ

ข้าวยำปักษ์ใต้อร่อยเพื่อสุขภาพ

         ลัดเลาะมาฝั่ง “ตลาดน้ำในฝัน” กันบ้างที่ร้าน “ศิลปาชีพ 904” นอกจากขนมไทยต่างๆ อาทิ ขนมชั้น, ขนมมันสำปะหลัง, ขนมกล้วย, ข้าวเหนียวถั่วดำ, เต้าส่วน ยังมี “ข้าวยำปักษ์ใต้” เป็นไฮไลท์มาจำหน่ายในงานนี้โดยเฉพาะ ความพิเศษคือน้ำยำที่ส่งตรงมาจาก ศูนย์การศึกษาพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.นราธิวาส รสชาติเปรี้ยว หวาน เค็ม เมื่อนำมาคลุกเคล้ากับข้าวสังข์หยดผสมกับเมล็ดคิวนัว และผักอีก 7 ชนิด ได้แก่ ตะไคร้, ถั่วงอก, แตงกวา, เมล็ดกระถิน, แครอท, ถั่งฝักยาว, ใบมะกรูด และผลไม้อย่าง ส้มโอกับมะม่วงดิบซอย...จานนี้มีราคาชุดละ 65 บาท แต่คุณประโยชน์ทะลุร้อย มีวางจำหน่ายเพียงวันละ 300 ชุดต่อวันเท่านั้นนะจ๊ะ !!

สำราญ"คาว-หวาน"ในงานอุ่นไอรักฯ

สำราญ"คาว-หวาน"ในงานอุ่นไอรักฯ

ข้าวหน้าไก่ความอรอ่ยยาวนานกว่า 80 ปี

สำราญ"คาว-หวาน"ในงานอุ่นไอรักฯ

ไอศกรีมมะพร้าวหวานหอมชื่นใจ

         มาต่อกันที่ “ร้านอภิรมย์” ของ บริษัทบุญรอดบริวเวอรี่ ปีนี้มี “ข้าวหน้าไก่” เจ้าตำนานกว่า 80 ปีย่านพลับพลาไชย มาให้แฟนคลับที่มาเที่ยวในงานได้ลิ้มรสความอร่อย ซึ่งเลือกใช้ไก่ส่วนสะโพกเพราะมีความนุ่มกำลังดีนำมาผัดกับซีอิ๊ว, น้ำตาลและแป้งสูตรลับของทางร้าน จึงได้รสชาติกลมกล่อมราดบนข้าวสวยร้อนๆ รับประทานคู่กับพริกชี้ฟ้าและผักชี เป็นการช่วยชูรสรวมถึงแก้เลี่ยนในคราวเดียวกัน... 40 บาทเท่านั้นได้อิ่มกับความอร่อยในตำนาน ที่ร้านเดียวกันยังมี “ไอศกรีมมะพร้าว” การันตีความหอมหวานละมุนลิ้นจากร้านครัวอัปษร...คลายความร้อนให้ชื่นใจในราคา 25 บาท ส่วนมิตรรักแฟน “ไก่ย่างบุญรอด” ซึ่งคิดค้นสูตรด้วย ประจวบ-ศรีจันทร์ ภิรมย์ภักดี ขณะที่ไปร่ำเรียนบริวมาสเตอร์ หรือ นายช่างปรุงเบียร์ ที่ประเทศเยอรมนีเมื่อ 60 ปีที่แล้ว อดใจรอสักหน่อยเห็นว่าราวกลางเดือนจะเคลื่อนเตามาปิ้งย่างให้บริการอย่างเต็มสรรพกำลัง

สำราญ"คาว-หวาน"ในงานอุ่นไอรักฯ

ขนมหวานคู่เมืองไทย

สำราญ"คาว-หวาน"ในงานอุ่นไอรักฯ

          กินคาวต้องกินหวานที่ร้าน “ขนมหวานคู่เมืองไทย” ของเมืองไทยประกันภัย นำขนมไทยมาจำหน่ายหารับประทานได้ยาก อาทิ ปลากริมไข่เต่า, ทับทิมกรอบ, บัวลอยเผือก, ข้าวเหนียวเปียกลำไย ข้าวต้มมัด และ ขนมใส่ไส้ โดดเด่นด้วยรสชาติที่กลมกล่อมหอมหวานกำลังดี ซึ่งเป็นรสชาติที่ถูกปากคนไทยอย่างแท้จริง ที่โดดเด่นเห็นจะเป็น “ปลากริมไข่เต่า” เรียกอีกอย่างว่า ขนมแฉ่งม้า ในรัชกาลที่ 4 ปลากริมซึ่งมีรสชาติหวาน จะรับประทานแยกกับไข่เต่าซึ่งมีรสชาติเค็ม ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 เริ่มมีการนำมารับประทานคู่กันซึ่งได้รสชาติที่ลงตัวกลมกล่อมเข้ากันดี ส่วน “ทับทิมกรอบ” มีการปรับปรุงจนได้สูตรทับทิมกรอบชาววังที่ร่ำลือถึงความอร่อยเลิศรสถูกปากน่ารับประทานเป็นยิ่งนัก ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน...สนนราคาความอร่อยเริ่มต้นที่ 15-20 บาท
        งาน “อุ่นไอรักคลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” เปิดให้ประชาชนแวะไปเที่ยวชมและชิมอาหารอร่อย ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 19 มกราคม 2562...ที่เล่ามานี้แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นเอง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ