"ช้าง ดิ ไอคอน ออฟ สยาม" พร้อมสู้ศึกมิสยูนิเวิร์ส 2018

     เมื่อเวลา 17.08 น.วันที่ 19 พฤศจิกายน ที่เมืองโบราณ จ.สมุทรปราการ กองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ จัดแถลงข่าวเปิดตัวชุดประจำชาติประจำปี 2018 “ช้าง ดิ ไอคอน ออฟ สยาม” ซึ่ง “นิ้ง” น.ส.โศภิดา กาญจนรินทร์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 จะสวมขึ้นเวทีเพื่อชิงชัยในการประกวดรอบชุดประจำชาติ วันที่ 10 ธันวาคมนี้ รวมทั้งเผยความพร้อมในการเป็นตัวแทนสาวไทย ชิงมงกุฏจักรวาล ในวันที่ 17 ธันวาคมนี้ ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี กรุงเทพฯ

    นางสุรางค์ เปรมปรีดิ์ ประธานอำนวยการกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ กล่าวว่า กองประกวดฯ ยังสานต่อโครงการเพื่อให้นักออกแบบรุ่นใหม่ได้ส่งผลงานร่วมประกวดในชุดประจำชาติสู่เวทีมิสยูนิเวิร์ส ปีนี้คณะกรรมการตัดสินให้ “ช้าง ดิ ไอคอน ออฟ สยาม” โดย นายธีร์ ผาสุก ได้รับรางวัลชนะเลิศ ด้วยความโดดเด่นในการนำเสนอความเป็นไทยและมีความร่วมสมัยด้วยการใช้เทคนิคพิเศษที่สามารถแปลงจากชุดราตรีเป็นชุด “ช้าง ดิ ไอคอน ออฟ สยาม” เชื่อว่าสร้างความประทับใจให้ผู้ชมทั่วโลกที่ติดตามชมการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018

สุรางค์ เปรมปรีดิ์

     สำหรับชุดประจำชาติ “ช้าง ดิ ไอคอน ออฟ สยาม” มีองค์ประกอบชุดเป็น 3 ส่วนด้วยกัน คือ ส่วนที่ 1 ชุดไทยประยุกต์ ออกแบบชุดขึ้นใหม่ โดยดัดแปลงจากชุดไทยพระราชนิยมโดยใช้ผ้าไหม เพิ่มความทันสมัยด้วยชายผ้า ฟอร์มไหล่ยกสูงมาจากชุดไทยพระราชนิยมมาประยุกต์โดยอิงโครงสร้างมาจากหน้าช้าง ส่วนลายผ้าดัดแปลงจากลายประจำยามและลายกระจัง ซึ่งเป็นลายไทยมาตรฐาน ปักและรีดลายด้วยคริสตัลจากสวารอฟสกี้

     ส่วนที่ 2 ชุดเครื่องประดับ มี 3 ชิ้นหลักคือ เครื่องหัว ดัดแปลงมาจากชฎา ออกแบบใส่ลายเส้นลดทอนลายไทยเพื่อให้ดูทันสมัยขึ้น ชิ้นที่ 2 กรองคอ รูปตัววีการออกแบบเน้นช่วงหัวไหล่และให้เข้ากับรูปทรงของฟอร์มชุด เพิ่มความอ่อนหวานด้วยโลหะชุบทองจัดช่อเป็นดอกไม้ไหว และใช้เทคนิคเดียวกันในการจัดทำเครื่องประดับ 3 ชิ้นคอ เข็มขัดประดับเอว โดยเครื่องประดับทุกชิ้นประดับด้วยคริสตัลจากสวารอฟสกี้

    ส่วนที่ 3 โครงสร้าง ซึ่งเป็นส่วนกลไกเพื่อแปลงชุดไทยประยุกต์เป็นชุดช้าง โดยกลไกและโครงสร้างช้างออกแบบและจัดทำโดย ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี โครงสร้างช้างผลิตจากวัสดุอะลูมิเนียมและเพลาแสตนเลส ที่มีน้ำหนักเบาและแข็งแรง สามารถรองรับน้ำหนักในส่วนงวงช้างและชายผ้า โดยใช้พลังงานแบตเตอรี่ในการขับเคลื่อน ผ้าที่คลุมโครงสร้างคือผ้าซีทรูกลิตเตอร์ ประดับสวารอฟสกี้ ปักกรุรีดลายประจำยามและลายกระจัง

ธีร์ ผาสุก

     สำหรับทีมงานออกแบบและสร้างสรรค์ชุดประกอบด้วย นายธีร์ ผาสุก (ผู้ออกแบบ) นายศิริวัฒน์ วรวงษ์ และนายฐิติกร หอมหวล (ผู้ช่วยผู้ออกแบบชุด) นายณัฐกิตติ์ แหยมเจริญ (ผู้ตัดเย็บ) นายพลัฏฐ์ จิรพุฒินันท์ และนายพอพันธ์ ทองเฟื่อง (ผู้ออกแบบและจัดทำเครื่องประดับ) คณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (ผู้จัดทำโครงสร้างและกลไกส่วนหัวช้าง)

      ภายหลังโชว์ชุดประจำชาติหน้าพระที่นั่งสรรเพชญปราสาท เป็นที่เรียบร้อยแล้ว “นิ้ง” โศภิดา เผยว่า เห็นชุดแล้วตื่นเต้น เคยคิดเหมือนกันว่าชุดประจำชาติจะเป็นอย่างไร พอเป็นช้างดีใจมาก เพราะช้างเป็นเอกลักษณ์บ้านเรา เป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมือง เคยรบกู้ชาติบ้านเมือง เคยออกไปรบแล้วไม่เคยแพ้ใคร ชุดนี้โชว์เอกลักษณ์ของไทย ผ่านผ้าไทยรวมทั้งระบบเทคโนโลยีไฮดรอลิก แสดงภูมิใจปัญญาไทยและความทันสมัย เหมาะกับยุค 4.0 การสวมก็ค่อนข้างสะดวก น้ำหนักไม่มาก เพราะออกกำลังเตรียมพร้อมมาแล้ว แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราต้องมีสติแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ได้ เชื่อว่าวันจริงที่สวมใส่จะผ่านได้สบายๆ โดยส่วนตัวเชื่อมั่นในชุดนี้มาก การพรีเซ็นต์พยายามทำให้ช้างมีชีวิต เหมือนเราช้างเป็นเพื่อนกัน ตัวเองให้ความรักและเอ็นดูเขา มีการพูดกับชุด “อยู่ด้วยกันรักกันนะจ๊ะลูก” ตัวเองชอบก้านกล้วยน้องคนนี้อาจเป็นชบาแก้วให้ตัวเอง

     สำหรับการเตรียมตัวขึ้นเวทีประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 ที่เมืองไทย "สาวนิ้ง" กล่าวว่า มีความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ ตัวเองจัดตารางเวลาทุกวัน ตื่นตีห้า ออกกำลังกายวันละ 2 ชั่วโมง ดูแลเรื่องอาหารเน้นอาหารคลีน โดยเฉพาะปลาแซลมอนกับผัก เหมาะกับเลือดกรุ๊ปบีของตัวเอง จากนั้นจะเตรียมตัวในเรื่องการพูด การเดิน และดูแลผิวพรรณ ทั้งยังอ่านข่าวหาข้อมูล ทำความรู้จักกับเพื่อนๆ นางงามทุกประเทศ จากประวัติส่วนตัว เพื่อจะได้มีเรื่องพูดคุยและสร้างสัมพันธไมตรี และถือคติ “รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง” ในการที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพรู้สึกอุ่นใจและโชคดีที่จะได้โปรโมทการท่องเที่ยว ในฐานะที่เป็นเจ้าภาพมีการการเตรียมตัวและได้คุยกับเพื่อนๆ บ้างส่วนมากจะเป็นเรื่องสภาพอากาศ และอาหาร

     จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ความสวย มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์คนล่าสุดกล่าวว่า ตัวเองเเป็นผู้หญิงพันหน้ามีหลายลุค บางคนไม่ชอบแต่เราสร้างความประหลาดใจให้เขาได้ ความสวยมีความหลากหลาย มีความในแบบฉบับของตัวเอง สีผิว น้ำหนัก ไม่สำคัญเท่าความมั่นใจ และความสวยจากภายใน ช่วงแรกที่ได้มงกุฎมีความหนักไม่ชินเหมือนเปลี่ยนโรงเรียนใหม่ แต่พอปรับตัวได้แล้วเป็นกิจวัตรประจำวัน ก็รู้สึกสนุก และถ้าพ้นตำแหน่งคงคิดถึงบรรยากาศเช่นนี้มากๆ

     ด้านโครงการ “อันล็อก อันแวรป” สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ที่หมดหวัง เช่น ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนบ้านปราณี ตอนแรกจะส่งพลังบวกให้น้องๆ กลายเป็นว่าได้พลังกลับมาโดยไม่รู้ตัว น้องๆ เขียนจดหมายมาหาบอกเป้าหมายของตัวเอง ฝันอยากเป็นอะไร ทำให้น้องๆ มีแรงบันดาลใจ และเมื่อมีแรงบันดาลใจก็จะมุ่งทำสิ่งนั้นให้สำเร็จ เช่น อยากเป็นหมอ ช่างแต่งหน้า นักการเงิน เป็นต้น นิ้งคนเดียวไม่สามารถเปลี่ยนโลก แต่อยากให้น้องๆ ค้นพบตัวเอง เพื่อจะเป็นแรงขับเคลื่อนสังคมต่อไป