เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีลองความแรง บนแทร็กกระดับโลก

         

          เมอร์เซเดส-เบนซ์ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาขับเคลื่อนตลาดด้วยสินค้าใหม่ๆ ที่หลากหลาย และล่าสุดก็ยึดสนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต เปิดตัวรถใหม่ทีเดียว 3 รุ่น คือ Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupe รุ่นประกอบในประเทศโฉมใหม่ Mercedes-AMG E 63 S 4MATIC+ และ Mercedes-Benz C 200 Coupe AMG Dynamic

 

 

          กิจกรรมครั้งนี้เราจึงมีคนงานที่กำลังไล่รื้ออัฒจันทร์ชั่วคราวที่สร้างเพิ่มเพื่อรองรับโมโตจีพีเป็นผู้ชมอีกไม่น้อยทีเดียว
  

 

 

 

          กิจกรรมนี้จัดหลายวันสำหรับลูกค้า 600 คน และเป็นกิจกรรมที่มีค่าใช้จ่าย แต่ไม่ได้เปิดเผยว่าเท่าใด แต่ก็อาจจะมีบางส่วนที่ตัวแทนจำหน่ายอาจจะรับผิดชอบแทนลูกค้า

          แต่จะว่าไปแล้วกิจกรรมอย่างนี้การได้ขับเอเอ็มจีที่มีคนจัดหามาให้ในสนามมาตรฐานโลกและยังมีการเรียนรู้การขับขี่ที่จัดทีมงานมืออาชีพจากออสเตรเลีย ซึ่งล้วนแต่มีดีกรีแชมป์การแข่งขันรถยนต์รายการต่างๆ ต่อให้เสียเงินเอง ระดับลูกค้าเมอร์เซเดส-เบนซ์ ก็ไม่น่าจะพลาดครับ

          สำหรับรูปแบบขับขี่ที่จัดเป็นสถานีต่างๆ ก็เพื่อให้ฝึกมือ และเรียนรู้กับรถ ก่อนที่จะได้ขับกันยาวๆ เต็มรอบสนาม โดยแบ่งเป็น 4 สถานี

 

 

 

 

          สถานีแรก “Brake and Swerve” เป็นการทดสอบระบบเบรก ระบบความปลอดภัยภายในรถยนต์ ทั้งอีเอสพี เอบีเอสและเป็นการทดสอบความเร็วใน การตอบสนองต่อสิ่งเร้าของผู้ขับขี่ ใช้ความเร็ว 80 กม./ชม. ซึ่งถ้าขับจริงจะรู้ว่ามันเร็วมากโดยเฉพาะเมื่อเข้าใกล้กรวยที่ตั้งขวางไว้ไม่กี่เมตรเท่านั้น แต่ยังทำอะไรไม่ได้ทั้งเบรกหรือหักหลบ ต้องรอจนกว่าสัญญาณไฟที่ซุ้มด้านบนซึ่งมี 2 ดวงจะติดขึ้นมาจึงจัดการกระทืบเบรกและหักหลบไปทางไฟดวงที่ติดขึ้นมา ขั้นตอนตั้งแต่ไฟติดเบรกและหักหลบมันเร็วมาก แต่ก็ทำให้รู้ว่าทักษะและการตอบสนองของเราเป็นอย่างไร

 

 

 

 

          ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นการโหมตลาดรถในกลุ่ม AMG อย่างจริงจังต่อเนื่องหลังจากประกาศแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายขึ้นมาดูแลโดยเฉพาะ 12 ราย และเมื่อรวมรถใหม่ที่เปิดตัว เท่ากับว่ามีรถในรหัสแรงทำตลาดถึง 11 รุ่นด้วยกัน

          นอกจากเปิดตัวรถใหม่ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ก็ยังจัดกิจกรรม Mercedes-AMG Driving Experience 2018 เป็นครั้งแรกในประเทศไทย

 

 

 

 

          สถานีที่ 2 “ESP® Exercise” เป็นการทดสอบโดยอิงจากสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้จริงเช่นมีอะไรตัดหน้า หรือสิ่งของหล่นลงมาบนถนนต้องหักหลบไปอีกเลน แล้วรีบกลับมาเลนเดิมทันที พูดง่ายๆ คือหักขวาทีซ้ายที แต่ความยากคือห้ามเหยียบเบรก ซึ่งสถานการณ์อย่างนี้โอกาสที่รถจะเสียหลักมีสูงมาก ต้องอาศัยทักษะไม่น้อย และก็ต้องใช้ระบบช่วยเหลือของรถอย่าง อีเอสพี มากๆ
  

 

 

 

          สถานีที่ 3 “Motorkhana” เป็นสถานีที่จำลองมาจากกีฬามอเตอร์สปอร์ตชนิดหนึ่ง โดยสถานีนี้จะให้ผู้เข้าร่วมการทดสอบได้ฝึกบังคับรถยนต์ในสนามจำลองเล็กๆ ที่มีอุปสรรคมากมายภายในเวลาที่รวดเร็วที่สุด และปลอดภัยที่สุด โดยไม่ชนสิ่งกีดขวางใดๆ เป็นสถานีที่สนุก เพราะขึ้นอยู่กับเราว่าควรใช้ความเร็วเท่าไร เลี้ยวอย่างไร ช้าไปก็สู้เขาไม่ได้ เร็วไปก็อาจชนกรวยถูกหักคะแนนได้

 

  

          สถานีที่ 4 “Cornering Theory” เป็นสถานีทดสอบการเข้าโค้ง 4 โค้งที่แตกต่างกัน เป็นการเรียนรู้ว่าควรจะใช้เบรกจุดไหน เริ่มกลับมาใช้คันเร่งอีกครั้งในจุดไหน การควบคุมพวงมาลัยเป็นอย่างไร และไลน์ในการนำพารถไปควรเป็นไลน์ใด เพื่อให้รถเดินทางได้นุ่มนวล ไม่เกิดอาการโอเวอร์สเตียร์ หรืออันเดอร์สเตียร์
  

          และเมื่อฝึกมือกันคนละหลายรอบ ก็ทำให้การขับกันเต็มรอบสนามทำได้สนุก กำลังของรถยนต์นั้นมีเหลือเฟือทะลุ 200 กม./ชม. ก่อนถึงโค้ง 2 ได้ไม่ยาก และการออกจากโค้งก็ทำได้รวดเร็วและแต่ละรุ่นก็จะมีบุคลิกที่แตกต่างกันออกไป
  

 

 

 

          ตัวใหม่ล่าสุดอย่าง AMG C43 Coupe ขับได้สนุกครับ อารมณ์เหมือนวัยรุ่นใจแรง และบางโค้งแม้จะมีอาการให้รู้สึกว่าท้ายเริ่มออกบ้าง ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะความสนุกที่ทำให้เติมความเร็วเข้าไปมากสักหน่อย หรือเป็นเพราะยางที่เริ่มล้าเพราะผ่านการบดขยี้มาอย่างหนัก แต่ว่าไม่ใช่เรื่องยากที่จะดึงรถให้กลับมาอยู่ในเส้นทางที่ควรจะอยู่

 

 

 

          รถเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มีประโยชน์มาก แต่ก็ถือว่าเป็นของอันตราย หากว่าไม่รู้จักการบังคับควบคุมที่ถูกต้อง ซึ่งไม่ว่าจะเป็นรถอะไร รถถูกรถแพง รถแรง รถแค่กำลังพอตัว หากมีโอกาสได้เรียนขับขี่ก็ไม่ควรจะพลาดนะครับ