ลองขับ"เลกซัส ยูเอ็กซ์"ดูความคล่องตัว สนุก ก่อนบุกไทย : คอลัมน์... ยานยนต์
สัปดาห์ที่แล้วเล่าถึงต้นกำเนิดของเลกซัส ยูเอ็กซ์ ครอสโอเวอร์ ขนาดคอมแพคท์ ในตลาดใหม่ที่เลกซัสไม่เคยมีมาก่อน และแน่นอนรถรุ่นนี้ก็จะเข้ามาทำตลาดในบ้านเราด้วยเช่นกัน อีกไม่นานเกินรอ
ดังนั้นวันนี้จะพาไปรู้จักกับยูเอ็กซ์ให้มากขั้น ด้วยการทดสอบขับขี่ที่ผมมีโอกาสบินไปร่วมงานกับทดสอบกับเลกซัสที่สวีเดน ซึ่งหลายคนอาจสงสัยว่าทำไมเป็นสวีเดน ส่วนหนึ่งก็เพราะยูเอ็กซ์มีเป้าหมายการขายในยุโรปไม่น้อย และต้องการสื่อถึงการเป็นครอสโอเวอร์ในเมือง ดังที่มาของชื่อคือ Urban X-over
และก็ยังเห็นว่ากรุงสตอกโฮล์มเป็นเมืองที่สไตล์ของตัวเองที่ผู้คนจากทั่วโลกหลงใหล ดังนั้นยูเอ็กซ์ ก็เป็นรถที่มีสไตล์ของตัวเองเช่นกัน
ทีนี้มาดูความคล่องตัวของการใช้งานในเมือง ซึ่งที่สตอกโฮล์ม การจราจรก็ต้องพึ่งพาความคล่องตัวไม่น้อยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นถนนหนทางแคบๆ บางช่วงก็ต้องใช้ร่วมกับรถราง ซึ่งตัวถังขนาดกะทัดรัด ก็ช่วยให้มันคล่องตัวดีครับ
ยูเอ็กซ์นั้นมีขนาดตัวถังยาว 4,495 มม.กว้าง 1,840 มม. สูง 1,540 มม. ความยาวช่วงล้อ 2,640 มม. ซึ่งเมื่อเทียบกับรถที่ใช้แพลตฟอร์มเดียวกันอย่าง โตโยต้า ซี-เอชอาร์ ที่มีความยาว 4,360 มม. กว้าง 1,795 มม. และสูง 1,565 มม. ความยาวฐานล้อ 2,640 มม. จะเห็นว่าความยาวช่วงล้อเท่ากัน แต่ยืดตัวถังยาวขึ้น กว้างขึ้น และกดหลังคาลงมาให้เตี้ยลงเล็กน้อย ช่วยให้รูปทรงรถมีอารมณ์สปอร์ตมากขึ้น ส่วนค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานก็อยู่ที่ 0.33 และน้ำหนักรถในรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า 1,525-1,625 กก. ส่วนรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ 1,610-1,680 กก.
รูปทรงของยูเอ็กซ์ ผมว่าสอบผ่าน สวยงาม เส้นสายตัวถังทั้งด้านหน้าและด้านหลังคมกริบ รูปทรงโดยรวมกดหน้ารถให้ต่ำลงเล็กน้อย ดูสปอร์ตมากขึ้น
ด้านหน้ามีอารมณ์ร่วมกับรุ่นอื่นๆ ในค่าย โดยเฉพาะกระจังหน้าขนาดใหญ่ แต่ว่า คาโกะ เพิ่มลูกเล่นให้ยูเอ็กซ์ที่มีรายละเอียดมากกว่าทั่วไป ซับซ้อน เมื่อเปลี่ยนมุมมองก็ดูเหมือนมีความเคลื่อนไหว ส่วนไฟหน้าเป็นแบบอแดพทีฟช่วยให้การใช้งานง่ายขึ้น ไม่ต้องกลัวว่าจะไปรบกวนรถคันอื่น ด้านข้างกลัวว่าจะจืดเกินไป จึงออกแบบให้ซุ้มล้อพลาสติกเป็นสีดำตัดกับสีหลักของตัวรถแต่ไม่ปล่อยให้อยู่โดดเดี่ยวเพราะเชื่อมตัวด้วยแถบสีดำที่ของตัวถังรถรอบคัน
ส่วนท้ายรถไฟท้ายบางๆ โฉบเฉี่ยว และมีแถบบางๆ เชื่อมต่อถึงกันระหว่างด้านซ้ายกับด้านขวา และหากมองดีๆ ก็จะเห็นว่าด้านท้ายยังออกแบบให้มีมิติซ้อนมิติ ด้วยเส้นสายทั้งแนวนอน และมีเส้นแนวตั้งที่ล้อผมคิดว่าต้องการให้ล้อไปกับเส้นของกระจังหน้ารถดูสวยงาม แปลกตา และบึกบึน
ภายในห้องโดยสาร ดูดี วัสดุต่างๆ ดูมีราคา ออกแบบให้รถคอมแพคท์ รู้สึกโปร่งโล่งนั่งสบายไม่อึดอัด เบาะออกแบบมาดี นุ่มกระชับลำตัว เรียกว่าเดินทางไกลๆ สบายตัว และก็ช่วยให้การควบคุมรถในช่วงทางโค้งหรือเส้นทางภูเขาทำได้ดีขึ้นด้วยเช่นกัน
จุดหนึ่งที่ผมชอบ และคาดว่าน่าจะเป็นความละเอียดอ่อนของวิศวกรหญิงวัย 50 ปี ก็คือช่วงเข่าและพื้นที่วางขาของผู้ขับขี่นั่งได้สบาย หลายคนนั่งรถบางคันอาจจะรู้สึกว่าเข่าของเขาด้านในจะติดกับคอนโซลเกียร์ นั่งไปนานๆ รู้สึกรำคาญได้เช่นเดียวกัน แต่ยูเอ็กซ์ไม่ติดตรงนี้
แต่จุดบริเวณคอนโซลด้านหลังพวงมาลัย ที่ยกเป็นซุ้มขึ้นไปเห็นได้ชัดเจน ดูขัดตาเล็กน้อยในความรู้สึกส่วนตัว แต่ในส่วนอื่นๆ โดยรวมถึอว่าออกแบบได้ดี สวยงาม หรูหรา ไม่ว่าจะเป็นจอมอนิเตอร์ หรือว่าคอนโซลเกียร์ รวมถึงมาตรวัดแบบทีเอฟที ที่เพิ่มลูกเล่นด้วยการออกแบบให้เลื่อนซ้าย-ขวาได้ ดูล้ำสมัย
และก็เป็นไปตามยุคสมัยที่เริ่มใช้ระบบสั่งงานแบบสัมผัส คล้ายกับทัชแพด ซึ่งยูเอ็กซ์ก็มีเช่นกันที่ข้างคันเกียร์สั้นๆ และหัวเกียร์ออกแบบให้มีขนาดใหญ่ และค่อนไปทางแบน กลมกลืนไปกับส่วนประกอบอื่นๆ
พวงมาลัย 3 ก้าน อวบอ้วนทั้งตรงเส้นรอบวง ทำให้จับได้ถนัดมือ และก้านทั้ง 3 ที่มีขนาดใหญ่ดูบึกบึน ช่วยให้ปุ่มควบคุมต่างๆ บนพวงมาลัยมีพื้นที่เพิ่มขึ้น สะดวกต่อการใช้งาน
และดูเหมือนคาโกะจะพยายามตัดรายละเอียดบางอย่างที่ไม่จำเป็นออกไป เช่น ช่องแอร์ ที่เน้นความเรียบมากขึ้น ลดเส้น ลดซี่ลงไป เหลือเพียงแถบเล็กๆ แนวยาว 2 แถบ และปุ่มกลมๆ เล็กๆ บริเวณกลางเส้น
ยูเอ็กซ์มี เครื่องยนต์เบนซิน วีวีทีไอ 4 สูบ DOHC16 วาล์ว ความจุกระบอกสูบ 1,987 ซีซี รหัส M20A-FKS ระบบจ่ายน้ำมันหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ อีเอฟไอ ไดเรกอินเจกชั่น ให้กำลังสูงสุด 171 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 205 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 9.2 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 190 กม./ชม.และรุ่นไฮบริดใช้เครื่องยนต์เบนซินที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ทั้งหมดเป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาดความจุกระบอกสูบ 1,987 ซีซี หัวฉีดอีเอฟไอ ไดเรกอินเจกชัน ให้กำลังสูงสุด146 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 180 นิวตัน-เมตรที่ 4,400 รอบ/นาที ทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟหน้า ที่ให้กำลังสูงสุด 109 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 202 นิวตัน-เมตร
ส่วนเกียร์เป็นแบบ ไดเรกชิฟท์ ซีวีที ซึ่งแตกต่างจากซีวีทีทั่วไปคือ เกียร์ 1 ล็อกอัตราทดเกียร์เอาไว้เพื่อให้รถมีการออกตัวที่ดี ให้อารมณ์เหมือนกับเกียร์เฟือง เพราะเป็นที่รู้กันว่าหลายคนที่ขับรถเกียร์ซีวีที จะไม่ค่อยชอบอารมณ์ช่วงออกตัวนัก เพราะรู้สึกว่าการเคลื่อนไหวของรถไม่สัมพันธ์กับคันเร่ง เสียงเครื่อง รวมถึงใจของตัวเอง แต่เกียร์ของยูเอ็กซ์ทำได้ดี ออกตัวได้เป็นธรรมชาติมากขึ้น
สำหรับในไทยจะนำเข้ารุ่นไฮบริด ทั้งขับเคลื่อนล้อหน้า และขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ติดตั้งมอเตอร์เพิ่มเติมที่เพลาหลัง และรถที่ผมได้ขับก็เป็นรุุ่นไฮบริดนี่แหละครับทั้งขับ 2 และขับ 4
เส้นทางที่ขับมีทั้งทางไฮเวย์ และทางเล็กๆ ผ่านพื้นที่ป่าเขาและเขตชนบทของสตอกโฮล์ม ทำความเร็วไม่ได้มากนัก แม้แต่ไฮเวย์ ทั้งที่ผิวถนนดี เรียบกริบ แต่ทางการจำกัดความเร็วสูงสุดประมาณ 110 กม./ชม. แม้บางช่วงจะแอบๆ เติมไปบ้างตามที่รถท้องถิ่นเขาทำให้เราดู และทำตามก็ไม่เกิน 130-140
แต่ก็เพียงพอให้จับความรู้สึกได้ถึงอัตราเร่งต่างๆ ที่มาได้รวดเร็ว และจะว่าไปก็ถือว่าความเร็วที่ใช้เป็นความเร็วระดับเดินทางทั่วไปซึ่งการไล่ขึ้นไประดับ 120 กม./ชม. เป็นเรื่องง่ายๆ สำหรับยูเอ็กซ์
และที่ความเร็วระดับนี้กลับดูเหมือนกำลังขับรถกินลมชมวิว ซึ่งคงต้องยกเครดิตให้ทั้งผิวถนนที่ราบเรียบและตัวรถที่นิ่ง มีการทรงตัวดีและเสียงรบกวนเข้ามาในห้องโดยสารน้อย
ขณะที่เส้นทางชนบทเล็กๆ แบบ 2 เลนสวนทาง เป็นเส้นทางที่น่าขับขี่ เพราะมีทั้งความสวยงามของเส้นทางเอง และความสวยงามของวิวทิวทัศน์ไม่ว่าจะเป็นช่วงผ่านป่าเขาหรือว่าผ่านชุมชนท้องทุ่งชนบทก็ตาม
เส้นทางนี้ขับสนุกขึ้นกว่าไฮเวย์ เพราะแม้จะจำกัดความเร็ว และมีกล้องเป็นระยะๆ แต่ความคดโค้งของเส้นทางกับความเร็ว 70 หรือ 90 กม./ชม. ผมว่าก็ไม่ช้าเกินไป และช่วยให้จับความรู้สึกของช่วงล่าง และการควบคุมรถได้ดี
ซึ่งยูเอ็กซ์ขับได้สนุกในเส้นทางนี้ ทำได้ดีกว่าที่คาดคิดเอาไว้ รถคุมง่าย พวงมาลัยแม่นยำ เข้าโค้งได้เนียน ไม่มีอาการลื่นไถล และเส้นทางที่ต้องมีโค้งซ้ายขวา ติดๆ กัน รถก็ไม่ได้ออกอาการเหวี่ยง และนานๆ จึงจะมีเสียงเอี๊ยดอ๊าดแผ่วๆ ของยาง แว่วเข้ามาบ้าง ซึ่งการกระจายน้ำหนักของรถที่ 60:40 ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ช่วยให้รถมีความคล่องตัว และตลอดเส้นทางก็ไม่มีอะไรให้ต้องลุ้น ต้องยกความดีให้ยูเอ็กซ์ และผู้ร่วมทางอื่นๆ ที่ขับรถดี มีวินัย ไม่มีการตัดโค้ง ทับเส้นให้น่ารำคาญ
ถึงตรงนี้ก็ต้องบอกว่ายูเอ็กซ์ ยกระดับการขับขี่ขึ้นมาได้ดี เป็นรถที่ขับง่าย คุมง่าย แต่ก็ขับได้สนุก เล่นกับโค้งแก้ง่วงได้ ความนุ่มนวลและการโยนตัวของตัวถังที่น้อย ช่วยให้ผู้โดยสารนั่งสบาย แต่การยึดเกาะถนนที่ดีก็ทำให้ผู้ขับพอใจ แม้ว่าจะอยู่ในโหมดขับขี่ธรรมดา ไม่ต้องใช้โหมดสปอร์ตก็ได้ครับ
มองในภาพรวม ผมสรุปได้ว่า น้องใหม่ของเลกซัสคันนี้ สอบผ่านสบายๆ ครับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง