จุดประกายฝัน ปั่นด้วยรัก

    10 ปีก่อนคนไทยได้มีโอกาสชื่นชมและแสดงความยินดีกับความสำเร็จของคู่รักนักปั่น “วรรณ-หมู” ที่กลับมาจากภารกิจปั่นพิชิตฝันรอบโลก 43 ประเทศ กว่า 40,000 กิโลเมตรในเวลา 5 ปี 11 เดือนกับอีก 1 วัน จากวันนั้นทั้งคู่ได้ต่อความสำเร็จสู่การเดินทางไปทั่วประเทศเพื่อถ่ายทอดประสบการณ์และสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนที่กำลังตามหาความฝันและอยากทำมันให้สำเร็จ รวมถึงการตระเวนจัดนิทรรศการบันทึกการเดินทางชื่อ “เวิลด์ ออน อะ ไบค์ แอนด์ ไบซิเคิล วินด์” ตามที่ต่างๆ ซึ่งล่าสุดเวียนมาที่สถานีรถไฟหัวลำโพง กรุงเทพฯ ทำพิธีเปิดโดยมี เอก สิทธิเวคิน รองผู้ว่าการรถไฟกลุ่มอำนวยการ การรถไฟแห่งประเทศไทย มาเป็นประธาน เมื่อวันก่อน

วรรณและหมู เชิญ เอก สิทธิเวคิน ร่วมชมนิทรรศการ

    นิทรรศการชุดนี้มีรูปแบบวงรีคล้ายเมล็ดข้าว ความยาวด้านละ 10.8 เมตร สูง 2.40 เมตร องค์ประกอบแต่ละชิ้นสวยงามโดดเด่น ผู้ชมสามารถเดินชมได้โดยรอบ มีข้อมูลแผนที่เส้นทางปั่นจักรยานรอบโลกของวรรณกับหมูพร้อมรายละเอียดแต่ละประเทศที่เดินทางผ่าน ไฮไลท์อยู่ที่มีคู่จักรยานประวัติศาสตร์ 2 คันที่วรรณและหมูใช้ปั่นรอบโลกสำเร็จ รวมถึงภาพถ่ายกว่า 200 ภาพที่เรียงร้อยอย่างสวยงามใน 43 ประเทศ 6 ทวีป พร้อมทั้งประโยคดีๆ ที่ให้ก้าวเริ่มต้นทำเป้าหมายการพิชิตความฝันและแรงบันดาลใจโดยรอบนิทรรศการ นอกจากนี้ยังมีภาพการเดินทางโดยรถไฟในประเทศต่างๆ ได้รับประสบการณ์อันมีค่าที่รถไฟเป็นยานพาหนะนำไปพบเรื่องราวประทับใจกับวัฒนธรรมหลากหลายทั่วโลก

     “หมู” เจริญ และ “วรรณ” อรวรรณ โอทอง คู่สามีภรรยาคนไทยคู่แรกที่ปั่นจักรยาน 2,000 วันรอบโลก ร่วมเล่าความตั้งใจในการจัดนิทรรศการครั้งนี้ว่า จริงๆ มาจากการอยากแสดงภาพที่เก็บมาจากทั่วโลกแต่พอได้ปรึกษากับหลายๆ คนจึงสรุปมาเป็นรูปแบบนี้ที่เป็นเหมือนเมล็ดข้าวเพราะอยากให้ความฝันของคนไทยเจริญงอกงามเหมือนเมล็ดข้าว และเมล็ดข้าว 1 เมล็ดก็แตกออกได้หลายกอ แรกเริ่มเดิมทีนิทรรศการชุดนี้ออกแบบมาเพื่อท่าอากาศยานสุวรรณภูมิตั้งอยู่ที่ชั้น 4 อยากสื่อให้คนที่มาใช้สนามบินได้รู้เรื่องราวแรงบันดาลใจของพวกเราว่าครั้งหนึ่งได้ร่วมกันปั่นจักรยาน ได้ใช้ชีวิตด้วยกันรอบโลกในเวลากว่า 5 ปี 

     “นิทรรศการชุดนี้เคลื่อนย้ายมา 15 สนามบินแล้วในระยะเวลา 2 ปีกว่า สร้างแรงบันดาลใจให้คนเห็นความมุ่งมั่น ให้เชื่อในพลังความฝันว่าชีวิตคนเราเคยทำอะไรแบบนี้หรือยัง สะกิดใจให้คนลุกขึ้นมาทำบางสิ่ง พอจัดแสดงที่สนามบินสุวรรณภูมิเป็นที่แรก การท่าอากาศยานฯ บอกว่ามีสนามบินในความดูแลอีกหลายแห่งน่าจะนำไปจัดให้ครบ เราจึงนำไปจัดไม่ว่าจะภูเก็ต หาดใหญ่ กระบี่ นครศรีธรรมราช เชียงใหม่ น่าน เชียงราย ดอนเมือง เลย อุดรธานี ขอนแก่น อุบลราชธานี พิษณุโลก กลายเป็นภาพลักษณ์ที่ประเมินค่าไม่ได้ เสร็จสรรพจะทุบทิ้งก็เสียดาย อยากทำต่อเลยนึกถึงการรถไฟซึ่งเป็นการเดินทางเหมือนกัน” วรรณ กล่าว

   ทั้งนี้ “หมู” บอกว่า อยากให้ทุกคนเชื่อในพลังความฝันและการสร้างแรงบันดาลใจ ต้องบอกว่าการกลับมาถึงเมืองไทยในวันนั้นเป็นเพียงก้าวแรก แล้วจะทำอะไรต่อ การไปบรรยายทั่วประเทศก็เป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนี้ยังมีโอกาสเขียนหนังสือบันทึกการเดินทางด้วยจักรยานพิมพ์เป็นครั้งที่ 7 แล้ว ถ่ายทอดเรื่องราวความรัก การสอนกันปั่นจักรยาน แล้วชักชวนกันออกเดินทางไปทั่วโลกทั้งๆ ที่อีกคนพูดภาษาอังกฤษแทบไม่ได้เลย เราเชื่อว่าคนไทยมีฝันช้า ในเมื่อเราทำแล้วก็ต้องมอบสิ่งนี้ให้กับคนไทยอย่างเต็มเปี่ยม และก้าวต่อไปอยากนำนิทรรศการนี้ไปจัดแสดงทั่วโลก

หนังสือรวมภาพการเดินทาง

    “ใครที่อยากลุกขึ้นมาทำตามความฝัน อยากให้เริ่มต้นจากการนิยามความฝันของเราให้ได้ เป้าหมายคืออะไร ที่สำคัญต้องมีที่ปรึกษาหลายด้าน ความมุ่งมั่น แล้วเตรียมการ วางแผน สุดท้ายมีความมุ่งมั่นพยายามที่จะทำให้ได้ ไม่มีคำว่าล้มเลิก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แม้ว่าระหว่างทางจะมีอุปสรรคมากมาย ขอให้เชื่อมั่นในตัวเอง ขอให้เป้าเราชัดเจนแล้วเดินไปหามันให้ได้ แล้ววันที่ฝันเป็นจริงเราจะมีความสุขกัับมันมาก เหมือนเราทั้งคู่ทุกๆ กิโลเมตรมีแต่ความเบิกบาน และมีความสุขในทุกๆ วัน” คู่รักนักปั่น ฝากทิ้งท้าย  

     ร่วมสร้างแรงบันดาลใจดีๆ ผ่านนิทรรศการ “เวิลด์ ออน อะ ไบค์” ได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 14 มกราคม 2562 ติดตามกิจกรรมอื่นๆ หรือสนใจหนังสือ “ปั่นข้ามฝัน” สอบถามรายละเอียดได้ทางไลน์ “bicyclewind”