สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (TIJ) จับมือกับมหาวิทยาลัยกริฟฟิท จัดการอบรมเรื่องการทำงานวิจัยกับกลุ่มเปราะบาง
การทำงานวิจัยกับกลุ่มเปราะบางอย่างผู้หญิงและเด็กต้องมีความรอบคอบ สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (องค์การมหาชน) หรือ Thailand Institute of Justice (TIJ) องค์การมหาชนที่มุ่งมั่นส่งเสริมการวิจัยและการพัฒนากระบวนการยุติธรรม ภายใต้กรอบความร่วมมือกับสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญาสนับสนุนการนำหลักนิติธรรมมาปรับใช้ในสังคม รวมถึงการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมทางอาญาในการจัดการกับความรุนแรงทางเพศในระดับประเทศ และในภูมิภาคอาเซียน ที่ผ่านมาได้พัฒนาผลงานวิจัยและใช้เป็นแนวทางในการสนับสนุนการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมของกลุ่มเปราะบางทางสังคม เช่น การพัฒนามาตรฐานระเบียบการปฏิบัติสำหรับเจ้าหน้าที่ในศาลเด็กและครอบครัวกลาง เพื่อกำหนดแนวทางการปฏิบัติต่อผู้เสียหายกรณีความรุนแรงทางเพศให้มีความตระหนักถึงความอ่อนไหวทางเพศของผู้เสียหายมากขึ้นและเปิดโอกาสให้ผู้เสียหายเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้อย่างเท่าเทียม เป็นต้น
ชลธิช ชื่นอุระ บรรยายให้นักวิจัยฟัง
เพื่อส่งเสริมและยกระดับมาตรฐานการทำวิจัยอย่างมีจริยธรรมกับกลุ่มเปราะบางให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย จึงจับมือกับมหาวิทยาลัยกริฟฟิท (Griffith University) พันธมิตรระดับโลกจากประเทศออสเตรเลีย จัดการอบรม “Advanced Research Ethics Training Course” ให้นักวิชาการ นักวิจัย เพื่อเผยแพร่ความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับหลักจริยธรรมการวิจัยบุคคลต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางทางสังคม เช่น ผู้หญิงและเด็ก ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล
ชลธิช ชื่นอุระ หัวหน้ากลุ่มโครงการส่งเสริมการอนุวัติข้อกำหนดกรุงเทพและการปฏิบัติต่อผู้กระทำผิด กล่าวว่า การคุ้มครองอาสาสมัครผู้เข้าร่วมตอบคำถามในงานวิจัยเป็นสิ่งจำเป็น หลักการสำคัญคือ ต้องคำนึงถึงการเคารพศักดิ์ศรี คำนึงถึงผลประโยชน์และความเสี่ยง และควรใช้หลักความยุติธรรมเป็นแนวทางในการศึกษาวิจัยประเด็นทางสังคมต่างๆ เช่น ประเด็นที่เกี่ยวกับผู้ต้องขังผู้หญิง ความรุนแรงทางเพศต่อผู้หญิงและเด็ก ความรุนแรงภายในครอบครัว เป็นต้น การพิจารณาจริยธรรมในการวิจัยแบบต่างๆ ต้องยึดถือและคำนึงถึงการประเมินความเสี่ยงเพื่อลดผลกระทบด้านจิตใจให้ได้มากที่สุด ขณะเดียวกันก็ต้องซื่อตรงทั้งต่อข้อมูลที่ได้และผลการวิจัย ไม่บิดเบือนข้อเท็จจริง
ผู้สอนจากมหาวิทยาลัยกริฟฟิท
การฝึกอบรมนี้นอกจากจะช่วยให้นักวิชาการและนักวิจัยที่ต้องวิจัยกับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มเปราะบางได้พัฒนาศักยภาพด้านงานวิจัย ตั้งแต่แนวคิดการออกแบบงานวิจัย เช่น การกำหนดขอบเขตการศึกษาวิจัย แนวทางการถามคำถามที่ตรงประเด็นและเหมาะสมกับกลุ่มผู้ตอบคำถามงานวิจัย การเลือกใช้คำ เครื่องมือและวิธีการที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ข้อมูลตามต้องการ ไปจนถึงการนำเสนอผลงานวิจัยอย่างมีจริยธรรมแล้ว ยังช่วยเน้นย้ำภารกิจสำคัญของสถาบันที่มุ่งเน้นการส่งเสริมหลักนิติธรรมมาปรับใช้กับการดำเนินงานเพื่อพัฒนากระบวนการยุติธรรมด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง