Lifestyle

เที่ยวไปให้สุด สวรรค์วันธรรมดา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

อยากให้ลองกัดฟันหาโอกาสเหมาะๆ ออกไปหาความสำราญวันธรรมดา เริ่มจากใกล้ๆ ก่อน แล้วจะค้นพบว่าสวรรค์บนดินมีจริง แบบไม่ต้องรอหยุดงานพร้อมกัน

 เที่ยวไปให้สุด สวรรค์วันธรรมดา

โรงเรียนกาสรกสิวิทย์

     บางทีอยากเที่ยววันธรรมดาบ้าง แต่หลายๆ ปัจจัยก็ไม่ค่อยเป็นใจนัก ไหนจะติดงาน ลาหยุดไม่ได้ เลยรอจนกว่าจะถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ซึ่งก็ดูสะดวกดี แต่เอาเข้าจริงกลับเที่ยวไม่ค่อยสนุก เพราะคนเยอะแย่งกันเที่ยว แย่งกันกิน สำคัญว่ารถติดระเบิด...อยากให้ลองกัดฟันหาโอกาสเหมาะๆ ออกไปหาความสำราญวันธรรมดา เริ่มจากใกล้ๆ ก่อน แล้วจะค้นพบว่าสวรรค์บนดินมีจริง แบบไม่ต้องรอหยุดงานพร้อมกัน

 เที่ยวไปให้สุด สวรรค์วันธรรมดา

    ทริปสุดคุ้มเดินทางครั้งเดียวเที่ยวได้ 3 จังหวัดที่บริษัท สานฟ้า จำกัด ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดขึ้นกับเส้นทาง “นครนายก-ปราจีนบุรี-สระแก้ว” สัมผัสประสบการณ์เดินทางแบบส่วนตัว เที่ยววันธรรมดาถ่ายรูปมุมไหนก็ไม่มีใครร่วมเฟรม จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเที่ยวใกล้กรุง ลงตัวทั้งระยะทางที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก และแหล่งท่องเที่ยวก็สวยงาม อย่างสระแก้ว ขับรถฝ่าสายฝนโปรยที่สองข้างทางเขียวชะอุ่มแสนจะสดชื่น แวะจุดเช็คอินแรก "โรงเรียนกาสรกสิวิทย์" เรียนรู้การทำงานของน้องควายและเกษตรกร ตามพระราชดำริของพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีที่ทรงอยากให้สืบสานน้ำใจของคนในชนบท และอนุรักษ์ควายที่เดียวนี้ไม่ค่อยได้นำมาใช้ประโชยน์แล้ว 

 เที่ยวไปให้สุด สวรรค์วันธรรมดา

ฝรั่งลองไถนา

 เที่ยวไปให้สุด สวรรค์วันธรรมดา

กิจกรรมปั้นควาย (แล้วกลายเป็นอะไรเอ่ย)

     ณ ที่แห่งนี้ มูลนิธิชัยพัฒนาใช้ประโยชน์จากผืนดิน 110 ไร่ ที่ได้รับการบริจาคมาเมื่อปี 2552 ตั้ง “สถาบันเลี้ยงควายเพื่อทำการเกษตร” ให้เป็นแหล่งเรียนรู้วิถีกระบือของผู้สนใจ พาควายรวมถึงตัวเองมาเรียนรู้เพื่อนำไปปรับใช้ในการประกอบอาชีพของต่อไป เห็นว่ามีมาจากทั่วประเทศแม้แต่ชาวต่างชาติ น่าสนใจว่ามีเด็กในเมืองกรุงมาศึกษาอย่างจริงจัง คอสสั้นๆ เริ่มจากการสร้างความคุ้นเคยและดูแลควายของตัวเอง การบังคับด้วยเชือก และใช้ภาษาสื่อสาร โดยมีปราชญ์ท้องถิ่นเป็นพี่เลี้ยงให้ ที่สำคัญมี “กระบือครู” อย่างกระบือทรงเลี้ยง “คุณนกกระเต็น” เป็นต้นแบบให้ด้วย พอสื่อสารได้แล้วก็ลองลงมือใช้งานน้องควาย ฝึกไถดะ ไถแปร คราด คนและคลายต้องรวมใจเป็นหนึ่งเพื่อบรรลุเป้าหมาย ใช้เวลา 10 วันก็ได้ใบรับรองตามหลักสูตร นอกจากนี้ภายในโรงเรียนยังมีกิจกรรมอื่นๆ เช่น นิทรรศการแสดงเครื่องมือการทำนาจากภูมิปัญญาชาวบ้าน แปลงดำ แหล่งเรียนรู้เกษตรพอเพียง สระรุมล้อมรัก มีต้นมะรุมและมีหญ้าแฝกปลูกกันดินพัง บ้านดินที่สร้างเองได้ ทั้งหมดทั้งมวลเป็นการดำเนินชีวิตตามทฤษฎีเกษตรพอเพียงของในหลวง รัชกาลที่ 9

 เที่ยวไปให้สุด สวรรค์วันธรรมดา

เรียนรู้การสร้างบ้านดิน

 เที่ยวไปให้สุด สวรรค์วันธรรมดา

เดอะ เวโรน่า ทับลาน

    คล้อยบ่ายมุ่งหน้าสู่ที่พัก คืนนี้เรานอนกันที่รีสอร์ทสไตล์อิตาลี “เดอะ เวโรน่า ทับลาน” จ.ปราจีนบุรี ท่ามกลางหุบเขาอากาศเย็นสบายของฤดูฝน ประหนึ่งว่าเหมือนหลุดในเมืองความฝัน มีกิจกรรมหรรษามากมายไม่ว่าจะเป็นแปลงผัก แปลงนาสาธิตปลูกข้าวไรต์เบอรี่ แปลงสตรอว์เบอรี่ และสวนดอกกุหลาบรวมกว่า 300 ไร่ มีเมืองคาวบอย ฟาร์มแพะ ฟาร์มวัวฮินดู-บราซิลขนาดใหญ่ สนุกกันมากมายกับประสบการณ์ขี่เอทีวีชมไร่ โหนสลิง และลูกบอลยักษ์จนลืมไปว่าเป็นวันทำงาน ก่อนจะหลับเอาแรงแล้วเช้าวันใหม่มีภารกิจสำคัญท้าท้ายพิสูจน์หัวจิตหัวใจแนวแอดเวนเจอร์ “ล่องแก่งหินเพิง” งานนี้เปียกชุ่มกันถ้วนหน้ากับการกรีดร้องกลางแก่งน้ำใสติดอันดับท็อป 5 ของเมืองไทยทีเดียว ซึ่งล่องแก่งหน้าฝนนอกจากน้ำจะมาเต็มแล้วแดดก็ไม่ค่อยร้อนอีกต่างหาก 

 เที่ยวไปให้สุด สวรรค์วันธรรมดา

ที่พักสบายในเดอะเวโรนา

 เที่ยวไปให้สุด สวรรค์วันธรรมดา

ขับขี่เอทีวี

 เที่ยวไปให้สุด สวรรค์วันธรรมดา

โหนสลิง

 เที่ยวไปให้สุด สวรรค์วันธรรมดา

ล่องแก่ง

    ขึ้นจากแก่งอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า มุ่งหน้าสู่ตัวเมืองปราจีนบุรี จุดหมายคือ "พิพิธภัณฑ์พระยาอภัยภูเบศร" ภายในโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ไม่ได้มาถ่ายรูปชิคๆ กับตึกพิพิธภัณฑ์อายุกว่า 100 ปีเท่านั้น ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องสมุนไพร งานนี้เลยไม่พลาดได้ฝึกทำลูกยาดมสมุนไพรเก็บไว้สูดตอนนั่งเมารถ พร้อมนวดคลายเส้นแบบแพทย์แผนไทย ทำเอาไหล่แทบหลุดจากการพายเรือล่องแก่งก่อนหน้านี้หายเป็นปลิดทิ้ง แล้วไปนั่งชิลที่บ้านเล่าเรื่องในตัวเมืองริมแม่น้ำปราจีนบุรี เรียนทำอาหารจากสมุนไพร ทั้งราดหน้าเส้นอัญชันและขนมสาคูเบญจรงค์ บอกเลยกินได้ อร่อยมาก! 

 เที่ยวไปให้สุด สวรรค์วันธรรมดา

พิพิธภัณฑ์พระยาอภัยภูเบศร

 เที่ยวไปให้สุด สวรรค์วันธรรมดา

ทำยาดมสมุนไพร

    เย็นย่ำเดินทางชิลๆ แบบรถไม่ติดไปนครนายกสัมผัสบรรยากาศที่พักท่ามกลางขุนเขาที่ “รอยัล ฮิลส์ กอล์ฟ รีสอร์ท แอนด์ สปา” พักเอาแรงให้พอ เช้าวันใหม่พวกเรามีนัดพับ “เขื่อนขุนด่านปราการชล”  เจ้าของสถิติเขื่อนดินอัดที่ยาวที่สุดในโลกถึง 2,594 เมตร รับน้ำหลักๆ มาจาน้ำตกเหวนรก เหมาะแก่การล่องเรือหรือแพมากๆ หน้าฝนน้ำเต็มเขื่อนนักท่องเที่ยวก็ไม่เยอะ โอบล้อมด้วยภูเขา ป่าไม้เขียวขจี มองแล้วสดชื่น วันดีคืนดี ลิง ช้าง กวาง กระทิง ลงมากินน้ำ ใครตาดีก็ส่องเจอนะจ๊ะ ส่วนไฮไลท์อยู่ที่การลองเรือชมน้ำตกอันซีน 3 แห่งที่ไหลจากภูเขาลงเขื่อน มีน้ำตกผางามงอน น้ำตกช่องลม และน้ำตกคลองคราม ที่สวยและสูงที่สุดคือ "น้ำตกผางามงอน" น้ำตกลงมาจากหน้าผาสูง 40 เมตร มีจุดเล่นน้ำได้ ถ้าจะขึ้นไปชมหรือเล่นน้ำแนะนำใส่เสื้อชูชีพตลอดเพื่อความปลอดภัย

 เที่ยวไปให้สุด สวรรค์วันธรรมดา

เขื่อนขุนด่านปราการชล

 เที่ยวไปให้สุด สวรรค์วันธรรมดา

ล่องเรือไปชมน้ำตก

 เที่ยวไปให้สุด สวรรค์วันธรรมดา

น้ำตกผางามงอน

   น้ำตกแต่ละแห่งต้องนั่งเรือเข้าไปชมเท่านั้น ไม่มีทางรถเข้ามาถึง แต่หน้าแล้งจะเดินไกลหน่อยเพราะน้ำลง อยากนั่งเรือเที่ยวติดต่อได้ที่ชมรมเรือหางยาว ที่เกิดจากการรวมตัวของชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อน นำเรือประมงมาบริการนักท่องเที่ยว แล้วพัฒนามาเป็นเรือหางยาว เหมาะกับคนชอบธรรมชาติ แต่เมื่อก่อนแถวนี้จะเหมาะกับสายโหด เพราะไม่มีทางรถ ต้องแอดเวนเจอร์บุกป่าฝ่าดงมาเท่านั้น นั่งเรือไปชมน้ำตกใช้เวลาราว  20 นาทีก็ถึง ค่าบริการคนละ 200 บาท ถ้าเหมาลำละ 7 คนอยู่ที่ 1,500 บาท เที่ยว 2 ชม.ครึ่งก็จบ แนะนำให้มาช่วงหน้าฝนจนถึงมกราคม เพราะน้ำเยอะกำลังน่าเที่ยว

 เที่ยวไปให้สุด สวรรค์วันธรรมดา

สะพานทุ่งนามุ้ย

    อีกหนึ่งอันซีนของการท่องเที่ยวแนววิถีไทย “สะพานทุ่งนามุ้ย” ที่ “ลุงอ๊อด” อดีตนักดนตรีวัย 55 ปี ที่ผันตัวเองมาทำเกษตรอินทรีย์ โดยบุกเบิกมาตั้งแต่ปี 2560 นำหลักความพอเพียงของ ในหลวง ร.9 มาปรับใช้ สะพานไม้ใผ่สุดชิคนี้สร้างจากทางเข้านาพาดไปยังกระท่อมปลายนาอีกฟาก เพราะทนเดินย่ำโคลนในนาที่ยากแสนสาหัสไท้ไหส แล้วค่อยๆ พัฒนาเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจให้คนมีสัมผัสธรรมชาติ สำคัญว่ามาที่นี่จะไม่เห็นขยะให้รำคาญใจเพราะเจ้าของเป็นนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมตัวยง อยากให้เป็นการค้าขายโดยชุมชนให้คนชอบธรรมชาติดิบๆ บ้านๆ มาตักตวงความสุข ขนาดถนนทางเข้ายังไม่ราดยาง เข้ามายากหน่อย แต่รับรองผ่อนคลายหายเหนื่อย

 เที่ยวไปให้สุด สวรรค์วันธรรมดา

สะพานเขาหล่น

 เที่ยวไปให้สุด สวรรค์วันธรรมดา

วิวสวยๆ บนเขาหล่น

     ไม่ใกล้จากกันนักมีอีกหนึ่งสะพานทอดตัวให้คนชอบเดินสืบเท้าไปหาความสุข คือ “เขาหล่น” นั่นเอง เรามีโอกาสพบกับ “ไกด์กิติมศักดิ์” ป้าแดงและป้าบุญช่วย พาชมอย่างสนุก โดยเล่าว่าที่เรียกเขาหล่น เพราะเป็นภูเขาหินหัวโล้น ไม่มีต้นไม้ มีถ้ำเล็กๆ ภูมิทัศน์สวยงามถึงขนาดกองถ่ายหนังไม่ว่าจะเป็น ทอง 5, เสาร์ 5, อินทรีย์แดง รวมถึงหนังจักรๆ วงศ์ๆ ชอบมาใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำ สักพักทางหมู่บ้านจึงมาส่งเสริมเพื่อการท่องเที่ยว โดยสร้างสะพานไม้เป็นทางเดินเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เป้าหมายคือนอกจากผู้คนจะแวะเวียนมาเที่ยวแล้วยังจะได้เลือกซื้อสินค้าโอท็อปของหมู่บ้าน เช่น ข้าวสาร น้ำสมุนไพร ไม้กฤษณา กล้วยฉาบ กล้วยกวน เป็นต้น เห็นว่าหน้าหนาวอากาศเย็นสบายมากๆ เหมาะตั้งแคมป์กางเต้นท์นอนสัมผัสธรรมชาติ สนใจก็ให้สอบถามป้าแดงได้ 063-306-4540 

 เที่ยวไปให้สุด สวรรค์วันธรรมดา

Montreux cafe and farm

 เที่ยวไปให้สุด สวรรค์วันธรรมดา

น้องๆ มานั่งทำตุ๊กตา

 เที่ยวไปให้สุด สวรรค์วันธรรมดา

    ขากลับกรุงเทพฯ อยากให้แวะคาเฟ่สุดชิค "Montreux cafe and farm" ของ “พี่ช้าง" ชนะ บุญชวาล ที่ตั้งใจทำเป็นบ้านแบ่งปันคนมาเที่ยว อิงความสุขเป็นหลัก ด้านหน้าเป็นคาเฟให้สั่งกาแฟ หลังร้านเป็นฟาร์มเนื้อที่ 10 ไร่มีเล้าไก่ แปลงนา แปลงผักสวนครัว กินไรก็ปลูกอย่างนั้น อยากให้เด็กๆ มาเรียนรู้การอยู่รอดด้วยวิถีง่ายๆ ตามหลักพอเพียงของในหลวง ร.9 มีกิจกรรมแนวครอบครัวให้ทำ เหมือนพาลูกหลานมาเที่ยวบ้านตายายตอนปิดเทอม เช่น ผ้ามัดย้อมของขวัญแทนใจ โดยมีจิตอาสามาเป็นวิทยากรซึ่งก็คือพี่ป้าน้าอาละแวกนี้ ทุกกิจกรรมไม่เสียตังค์อยู่ที่ศรัทธาจะร่วมบริจาค เห็นพี่ช้างบอกว่าใครมาที่นี่แต่ละครั้งจะมีความเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ แต่ยังคงความตั้งใจเดิมคือไม่หวังผลกำไรเพราะลำพังร้านกาแฟก็พออยู่ได้ 

 เที่ยวไปให้สุด สวรรค์วันธรรมดา

ความสุขใกล้กรุง

    สุดสัปดาห์หรือหยุดยาวถ้าทำให้เที่ยวไม่สุด ลองเปลี่ยนความคิดแล้วออกไปพิชิตความสุข สนุกวันธรรมดา แล้วจะพบว่าสวรรค์ใกล้กรุงอยู่แค่เอื้อม...@

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ