"มาเซราติ กิบลี"ขับสนุก นิ่ง แรงเหลือๆ

 

          มาเซราติ กิบลี 2018 ปรับเปลี่ยนรูปโฉมใหม่ ซึ่งดูลงตัวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงภายนอกหรือว่าภายใน เช่น รูปทรงของไฟ หรือกระจังหน้า ช่องดักลม ฝากระโปรง ที่ออกแบบใหม่ ทำให้มุมมองด้านหน้าดูสวยงามและดุดัน

          ส่วนด้านท้ายออกแบบเรียบๆ ให้ความรู้สึกหรู เรียบง่าย สุขุม ดูดี เส้นสายด้านข้าง ออกแบบให้มีอารมณ์ของรถคูเป้ เข้ามาผสมให้กับรถซีดาน 4 ประตูคันนี้ และเติมความสปอร์ตเข้าไป โดยเฉพาะเมื่อเปิดประตูออกมาด้วยประตูแบบไร้กรอบกระจก

 

          ภายในเด่นสะดุดตา กับเบาะนั่ง และการตกแต่งในหลายๆ ส่วนสีแดง เพิ่มความหรูด้วยลายไม้ การออกแบบโดยรวมให้ความรู้สึกหรูหราชัดเจน โดยเฉพาะคอนโซลเกียร์ที่มีขนาดใหญ่ สอดรับกรับคอนโซลหน้าที่มีขนาดใหญ่เช่นกัน โดยมีจอมินิเตอร์รูปทรงเกือบเป็นสี่เหลี่ยมด้านเท่าฝังอยู่ตรงกลาง

          มุมมองในส่วนนี้ การออกแบบอาจจะดูไม่โฉบเฉี่ยวนัก แต่เข้ากันได้กับองค์ประกอบอื่นๆ เรียบๆ หรูๆ ประมาณนั้น

          ภายในกว้างขวางนั่งสบาย เบาะผู้ขับกระชับลำตัว ช่วยให้ควบคุมรถได้ดี ทัศนวิสัยชัดเจนรอบด้าน

          มาเซราติ บอกว่า กิบลี รุ่นปรับโฉม นอกจากจะปรับด้านรูปทรง หรืออุปกรณ์ต่างๆ ให้ล้ำสมัยขึ้น ยังมีผลด้านเทคนิคด้วย อย่างเช่น อากาศพลศาสตร์ที่ดีขึ้น 7% อยู่ที่ 0.29 จากเดิม 0.31 เหลือ 0.29

 

          และที่มีผลต่อการขับขี่ที่สำคัญอีกอย่างคือการกระจายน้ำหนัก หน้า:หลัง ได้เท่ากัน(50:50) อันนี้มีผลต่อการควบคุมรถมาก ส่วนระบบช่วงล่างด้านหน้าหน้าเป็นแบบ ดับเบิล วิชโบน ด้านหลัง มัลติลิงค์

          พวงมาลัยไฟฟ้า พร้อมระบบ แอดวานซ์ ไดรฟ์วิง ซิสเท็มส์ ทำให้ควบคุมรถได้เฉียบคมมากขึ้น ส่วนจุดเด่นอื่นๆ เช่นไฟหน้าฟูล อแดพทีฟ แอลอีดี ปรับอัตโนมัติทั้งสูงต่ำ ความสว่าง โดยทำงานร่วมกับกล้องหน้าที่ค่อยอ่านข้อมูลเพื่อสั่งการให้ไฟหน้าทำงานได้อย่างดี และไม่รบกวนผู้อื่น

 

 

 

          ระยะส่องสว่าง 195 เมตร มากกว่าไฟซีนอน 55 เมตร ซึ่งก็เหมาะกับรถที่ใช้ความเร็วได้สูงๆ

          กิบลี มาพร้อมระบบอินโฟเทนเมนท์ มาเซราติ ทัช คอนโทรล พลัส หน้าจอขนาด 8.4 นิ้ว เชื่อมต่อแอปเปิล คาร์เพลย์ และแอนดรอยด์ ออโต้ ระบบเชื่อมต่อบลูทูธ ช่องเอสดีการ์ด ช่องเชื่อมต่อ ยูเอสบี และ AUX เอาไว้ดูหนัง ฟังเพลง

          เครื่องเสียงจากฮาร์มัน การ์ดอน ลำโพง 10 ดอก

          ระบบเสียงไม่ได้มีแค่ความบันเทิง แต่ว่ามีระบบ มาเซราติ ซาวด์แทรค เพื่อทำให้เสียงจากท่อไอเสียน่าฟัง เร้าใจมากขึ้น

 

 

          มาเซราติ กิบลี 2018 ที่นำเข้ามาจำหน่ายในไทย แบ่งเป็น 2 รุ่นหลัก คือ เบนซิน และดีเซล โดยมีทั้งหมด 4 รุ่นย่อย คือ กิบลี แกรนลุซโซ่ เครื่องยนต์เบนซิน วี6 สูบ 3.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ 350 แรงม้า ราคา 8.89 ล้านบาท กิบลี เอส แกรนด์สปอร์ต ใช้เครื่องยนต์เดียวกัน แต่เพิ่มกำลังเป็น 430 แรงม้า ราคา 9.99 ล้านบาท กิบลี ดีเซล เครื่องยนต์ดีเซล วี6 สูบ 3.0 ลิตร เทอร์โบ 275 แรงม้า แรงบิด 600 นิวตันเมตร ที่ 2,000-2,600 รอบ/นาที ราคา 6.9 ล้านบาท และกิบลี ดีเซล แกรนลุซโซ่ ที่เพิ่มออปชั่นเข้าไปอีกหลายอย่าง ราคา 7.59 ล้านบาท

 

          ที่อยู่กับผมวันนี้เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 350 แรงม้า ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดของ แซดเอฟ ส่งกำลังไปยังล้อหลัง ซึ่งเป็นล้อขับเคลื่อน

          ผมมีเวลาอยู่กับมันไม่นานนัก รถมีเวลาว่างให้แค่วันเดียว แต่ผมมีเวลาให้มันน้อยกว่า แค่ครึ่งวัน ดังนั้นเมื่อรับรถในช่วงเพลๆ แถวพระราม 4 ก็คิดว่าจะขับขี่เส้นไหนดีเพื่อให้ได้ทั้งระยะ ได้รับรู้อารมณ์รถ และได้เวลาที่ดี พอที่จะกลับไปทำงานในช่วงบ่ายได้ทัน

          ตัดสินใจเลือกเส้นทางทิศตะวันออกมุ่งหน้าชลบุรี โดยใช้เส้นทางด่วนบูรพาวิถี แต่ว่าตัดสินใจผิดที่ออกจากพระราม 4 แล้วมุ่งหน้ามาทางพระโขนง บางนา เพราะรถติด แต่เอาเถอะ ปล่อยให้กิบลีส่งเสียงครางทุ้มด้วยความเร็วต่ำๆ ไปก่อน พร้อมหาคำตอบว่ารถที่มีขนาดใหญ่ ใช้งานในสภาพจราจรติดขัดจะเป็นอย่างไร ก็ถือว่าใช้ได้ดี กำลังของเครื่องยนต์เมื่อต้องออกตัว หรือเร่งแซง เร่งเปลี่ยนเลน นั่นก็เป็นเหตุผลหนึ่ง และการที่นั่งได้สบาย ก็เป็นอีกส่วนหนึ่ง

 

 

          เมื่อขึ้นทางด่วนได้ในวันธรรมดา ซึ่งรถน้อยกว่าวันหยุด ก็เปิดโอกาสให้กิบลีได้รีดพลังออกมา การตอบสนองของม้า 350 ตัว กระฉับกระเฉง พุ่งไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว กับอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 5.5 วินาที และความเร็วก็พุ่งอย่างเร็วเช่นกันจนต้องเพลาๆ ไว้บ้าง เพราะบ้านเราถนนโล่งอย่างไร ก็อย่าไว้ใจ

          ใช้เวลาไม่นานนักก็ลงจากบูรพาวิถี พร้อมกับเจอมวลหมู่รถจำนวนมาก จึงตัดสินใจที่ยูเทิร์นกลับแวะกินข้าวเที่ยงราคาย่อมเยาแถวๆ หน้า ม.ศรีปทุม ก่อนย้อนทางเดิมขึ้นทางด่วนอีกครั้ง

          ขากลับปริมาณรถบนท้องถนนมากขึ้น และคนที่ขับไม่รู้ทิศรู้ทาง ไม่รู้ความเร็วตัวเอง ไม่รู้ความเหมาะสมของความเร็วกับช่องทางมากขึ้น ทำให้กิบลีต้องเลื้อย และเปลี่ยนความเร็วบ่อยครั้ง ต่างจากขาไป ซึ่งทำให้รู้ถึงความคล่องตัวในการเปลี่ยนช่องทางที่ความเร็วค่อนข้างสูง รถนิ่งครับ การขับเคลื่อนล้อหลังมีส่วนทำให้การเปลี่ยนช่องทางเร็วๆ ทำได้ค่อนข้างนิ่งทีเดียว พวงมาลัยแม่นยำ น้ำหนักดี ควบคุมง่าย

 

 

          อีกอย่างคือหลักของอากาศพลศาสตร์ทำออกมาได้ดีทีเดียวเลยครับ เพราะโดยปกติเส้นนี้ลมแรง และมีลมปะทะเป็นบางช่วงให้รู้สึกได้ บางช่วงบางจังหวะ กับรถบางคันถึงกับต้องขืนพวงมาลัยเลยทีเดียว แต่กับกิบลี มันผ่านมาอย่างสบายๆ และถึงที่หมายได้ทันเวลาที่จะต้องกลับไปทำงานได้อย่างสบายใจครับ