ทดสอบ ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ บนเส้นทางจากกรุงเทพฯ สู่น้ำตกช่องลมเลาะล่องแก่งที่เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก (มีคลิปข่าว)
กระแสของรถครอสโอเวอร์ ในยุคนี้ต้องบอกว่ามาแรง และนี่คืออีกหนึ่งของความแรงที่ยากจะฉุดไว้ ฮอนด้า เอชอาร์-วี รุ่นที่มียอดขายทั่วโลกกว่าสองล้านคัน แต่ครั้งนี้ ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่มากับดีไซน์ใหม่ทั้งภายนอกและภายในที่เพิ่มความสปอร์ตมากขึ้น ฮอนด้า จัดทรงรุ่นรถใหม่ครั้งนี้โดยเพิ่มรุ่น RS เข้ามาพร้อมอุปกรณ์จัดเต็มและยังมากับสีใหม่อย่าง "สีแดงแพสชั่น" ที่เด่นสดุดตาบนถนน
ต้องขอขอบคุณทาง ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ที่ได้เชิญ "เล่าเรื่องรถกับคมชัดลึก” ไปร่วมทดสอบสมรรถนะการขับขี่ ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ ที่มาพร้อมความเป็นสปอร์ตครอสโอเวอร์ระดับพรีเมียม รถที่จะทำให้คุณครอสชีวิตให้ครบทุกด้าน และยังต้องตามทุกเสียงเรียกจากข้างใน...ไปให้สุด กับกิจกรรมตลอดหนึ่งวันที่สุดจะท้าทาย บนเส้นทางจากกรุงเทพฯ สู่จังหวัดนครนายก ระยะทางกว่า 260 กิโลเมตร โดยเราได้เป็นคณะสื่อชุดแรกที่ได้ลองสัมผัสหลังจากเห็นโชว์ไปในงาน Fast Auto Show ที่ไบเทคบางนาไปเมื่อเดือนก่อน โดยออกสตาร์ทกัน ณ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด (สาขาศรีอยุธยา) โดยมีรถฮอนด้า เอชอาร์-วี ในขบวนถึง 6 คัน แยกเป็น 3 รุ่น ให้คณะสื่อสลับกันขับตลอดหนึ่งวัน
ขอย้อนหลังไปสักหน่อยตัวรถ ฮอนด้า เอชอาร์-วี เองนั้นได้เปิดตัวในช่วงปลายปี 2014 พร้อมกระแสการตอบรับจากลูกค้าอย่างมากมายจนถึงปัจจุบันกับยอดขายกว่า 66,000 คันที่ถือว่าสูงมากถ้าเทียบรถแบบเดียวกัน และได้เวลาครบอายุ ฮอนด้า เลยปรับเจ้า ฮอนด้า เอชอาร์-วี แต่งตัวใหม่เอาใจสาวกพร้อมกับคำนิยาม " What’s Calling You? ทุกเสียงเรียกจากข้างใน...ตามไปให้สุด” ที่สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นตัวตนของผู้ใช้ได้ชัดเจนมากขึ้นโดยไม่ได้จำกัดเรื่องวัย
ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ ในปี 2018 นี้ได้จัดหนักเพิ่มลูกเล่นดีไซน์ให้ดูโฉบเฉี่ยวขึ้นและความปลอดภัยที่เพิ่มเข้ามา ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ มีทั้งหมด 3 รุ่น รุ่น E กับ รุ่น EL ภายนอกจะมีการเปลี่ยนกระจังหน้า, ไฟหน้า, กันชนหน้าใหม่ และไฟท้ายใหม่แบบรมดำ และรุ่นพิเศษ RS ที่เพิ่มจากรุ่นปกติตรงกระจังหน้าแบบรวงผึ้งพร้อมโครเมียมรมดำไฟตัดหมอกเป็น LED ไฟหน้าแบบ Full LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ ในเวลากลางวันแบบ Daytime Running Light
และ ไฟท้าย LED แบบ TUBE ชายกันกระแทกด้านข้างสีดำแบบสปอร์ต มือจับเปิดประตูด้านหน้าแบบโครเมียมรมดำ กระจกมองข้างสีดำแบบสปอร์ต พร้อมแป้นเหยียบคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ต ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 17 นิ้วแบบสปอร์ต และสัญลักษณ์ RS บนฝากระโปรงท้าย และสีใหม่ สีแดงแพสชั่น
ส่วนภายในเบาะนั่งดีไซน์ใหม่เพิ่มความสปอร์ตดุดันและพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่มาครบเช่นเดิม และเพิ่มเทคโนโลยีความปลอดภัยจากรุ่นพี่มาไว้ใน ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ อาทิ ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ระบบเตือนและช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ (City Brake Active System) ซึ่งระบบจะทำงานในช่วงความเร็วระหว่าง 5 – 30 กม./ชม. โดยจะส่งสัญญาณเตือนเมื่อตรวจพบความเสี่ยงที่จะเกิดดอุบัติเหตุทางด้านหน้า หากผู้ขับขี่ยังไม่ทำการเหยียบเบรก ระบบจะทำการเบรกรถให้อัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุ และระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) ระบบ Auto Brake Hold ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) และกล้องส่องภาพด้านหลัง ปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-Angle Rearview Camera) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) และระบบถุงลม 6 ตำแหน่ง (เฉพาะรุ่น RS และ EL)
ถือว่าพอจะมาบอกเล่าคร่าวๆ กันก่อน เพราะวันนี้การเดินทางของเราจะมีพี่ๆ ร่วมทริปถึง 3 ท่านจากสื่อโทรทัศน์และจากหนังสือพิมพ์ทำให้เราต้องคอยสลับกันขับจับความรู้สึก ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ แต่ก็พอจะมาเล่าเรื่องรถ ให้ฟังได้นิดหน่อย โดยผมอาสาขับเป็นมือแรกในการขับรถออกจากกรุงเทพฯ ทำให้มีโอกาศได้ขับฝ่าการจราจรที่ติดขัดช่วงเช้า กลับรู้สึกดีมากเพราะการตอบสนองของรถช่วงต้นพอกดคันเร่งเบาๆ รถก็เคลื่อนที่ออกตัวโดยง่าย สงสัยคงเพราะด้วยเครื่องยนต์ขนาดถึง 1.8 ลิตร SOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ที่มีพลังอยู่ถึง 141 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 172 นิวตัน-เมตร ที่ 4,300 รอบต่อนาที
ทำให้ช่วงต้นของความเร็วทำได้ดี ถึงจะมาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัตอย่างเกียร์ CVT ก็ตามแต่ก็ทำให้อัตราการการใช้น้ำมันออกมาใช้ได้ดี อีกทั้งสามารถเติม E85 ได้อีกและทริปนี้การเดินทางไปกลับน้ำมันใช้เพียงครึ่งถึงกับระยะทางกว่า 260 กิโลเมตรโดยใช้ความเร็วบางตามจังหวะ พร้อมสลับผู้ขับเพื่อลองพละพลังกัน ก็มีบางครั้งที่เกียร์ CVT ตอบสนองไม่น่าพอใจเท่าไรต้องอาศัยการเข้าใจและต้องไม่ทำตัวเป็นวัยรุ่นมากนัก เพราะรถเองจะไม่ตอบสนองเราได้ทันทีทันใด แต่ถ้าเรียนรู้หรือขับไปสักพักจะเข้าใจ ฮอนด้า เอชอาร์-วี ไม่ยาก แต่ถ้ากังวลถึงการเร่งแซงก็ยังสามารถจะไว้ใจได้ครับ ครั้งนี้ต้องขอติดท่านผู้อ่านไว้ก่อนกับการรีวิวรถคันนี้ครับ เพราะเราเองไม่ได้ทดสอบหรือจับอาการรถมากนัก ครั้งหน้าจะนำ ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ มารีวิวคันนี้ให้แบบเต็มๆ อีกครั้งนึง
การขับรถ ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ วันนี้คณะสื่อมวลชนได้ร่วมทำกิจกรรมไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมในการปรับเบาะเบาะนั่งอเนกประสงค์ใน 3 รูปแบบ Utility Mode, Tall Mode และ Long Mode นั้นทำให้เราเห็นถึง การใช้งานในทุกรูปแบบของรถคันนี้ได้เป็นอย่างดี
ครั้งนี้ทาง ฮอนด้า ได้พาคณะสื่อมวลชนไปชมธรรมชาติล่องเรือไปชมความงามน้ำตกไหลผ่านแนวช่องลมกลางหินก้อนใหญ่ที่น้ำตกช่องลมที่ใครๆ ก็พากันเรียกว่าสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย กับความเขียวขจีของผืนหญ้าบวกกับฝนตกช่วงที่เราไปพอดี บวกกับน้ำตกและโขดหินที่เรียงรายกันอย่างสวยงาม และกับการเดินเท้าเข้าไปกว่าจะถึงตัวน้ำตกทางก็โหดพอควรและที่นี่ยังมีน้ำตกงามงอน และ น้ำตกคลองคราม ที่เล่ากันว่าสวยไม่แพ้น้ำตกช่องลมที่ซ่อนอยู่ในบริเวณเขื่อนขุนด่านปราการชล
ซึ่งเป็นเขื่อนคอนกรีตบดที่ยาวที่สุดในประเทศไทยและในโลก ซึ่งสร้างขึ้นตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 และกิจกรรมสุดท้าทายในสไตล์แอดเวนเจอร์อย่าง "การล่องแก่ง” ก็ไม่พลาดจะเติมเต็มความท้าทาย อีกด้านของชีวิตเราได้เป็นอย่างดีสมกับ นิยาม " What’s Calling You? ทุกเสียงเรียกจากข้างใน...ตามไปให้สุด”
ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ มีทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น E ราคา 949,000 บาท รุ่น EL ราคา 1,059,000 บาท และรุ่นRS ราคา 1,119,000 บาท มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี โดยมีสีใหม่ คือ สีแดงแพสชั่น (มุก) และอีก 4 สี ได้แก่ สีขาวออร์คิด (มุก) สีดำคริสตัล (มุก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) และสีเทารูสแบล็ค (เมทัลลิก)
เรื่อง : ธวัชชัย พิชิตรณชัย
E-mail : [email protected]
facebook : https://www.facebook.com/LoaReuangRot/
ข่าวที่เกี่ยวข้อง