ล่องเรือทะเลสาบบางลางดูนกเงือก

          เมื่อผืนป่าและการดำรงชีวิตของคนใน จ.ยะลา ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ เพราะต่างก็ต้องพึ่งพากันและกันการอนุรักษ์ความอุดมสมบูรณ์ของป่าจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องช่วยกันดูแล อย่างป่าฮาลา-บาลา ที่ยังคงความงดงามของธรรมชาติไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

นกเงือกหาชมได้ในป่าฮาลา-บาลา

          "ป่านี้ให้ทุกอย่างกับเรา ให้น้ำ ให้ชีวิต ให้ความสุข พอเราโตขึ้นก็อยากปกป้องและมีส่วนช่วยในการดูแล เพราะอย่างน้อยเราก็เป็นฟันเฟืองเล็กๆ ที่ช่วยอนุรักษ์ป่าบ้านเกิด เพราะเมื่อพูดถึงป่าฮาลา-บาลากับอัยเยอร์เวงยังไงก็แยกกันไม่ออกอยู่แล้ว”... ซูไฮมี มีนา หรือ แบมิง ผู้ช่วยเจ้าพนักงานพัฒนาชุมชน อบต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา ในวัย 36 ปี ผู้สวมบทบาทนักอนุรักษ์ผืนป่าบ้านเกิดเล่าถึงความผูกพันที่มีต่อป่าฮาลา-บาลา

นกเงือก

          แบมิง เล่าต่อว่ามีความคุ้นเคยกับผืนป่าแห่งนี้เป็นอย่างดีเพราะมีโอกาสได้มาสัมผัสป่าฮาลา-บาลา เมื่อตอนเป็นเยาวชนได้เข้าค่ายอนุรักษ์ป่าที่จัดขึ้นโดยองค์การบริการส่วนตำบล (อบต.) อัยเยอร์เวง นำโดย อารีย์ หนูชูสุข ปลัด อบต.อัยเยอร์เวง จึงมีความผูกพันกับป่า จนกระทั่งเรียนจบและได้เข้าทำงานที่นี่ จึงได้สานต่อกิจกรรมที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีเพื่อปลูกฝังเยาวชนในพื้นที่ให้เห็นคุณค่าของป่าบ้านเกิดและช่วยกันดูแลความสมบูรณ์ของธรรมชาตินี้ไว้ และสิ่งที่สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนของเยาวชนที่มาเข้าค่ายคือการปรับตัวให้เข้ากับสังคมส่วนรวมได้เป็นอย่างดี แต่สำหรับหัวใจหลักคือการให้เยาวชนได้ซึมซับคุณค่าของป่าและการสำนึกรักบ้านเกิดที่จะเห็นผลได้จากการเข้าค่ายได้ประมาณ 1-2 ปี เพราะมีเยาวชนบางส่วนที่กลับไปตั้งกลุ่มกันเอง เช่น กลุ่มท่องเที่ยวฆูนุงซีลีปัตซึ่งก็เป็นผลผลิตของค่ายอนุรักษ์ป่าฮาลา-บาลา

 

ทุกวัยสามารถล่องเรือชมทะเลสาบบางลางได้

ทุกวัยสามารถล่องเรือชมทะเลสาบบางลางได้

          กิจกรรมนั่งเรือล่องเขื่อนบางลางชมธรรมชาติของป่าฮาลา-บาลา ป่าต้นน้ำที่หล่อเลี้ยง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นอีกหนึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจอย่างมาก เพราะนอกจากจะได้เห็นสัตว์ป่าหายากขณะล่องเรือแล้ว ยังมีจุดพักสำคัญอย่างเกาะทวดที่ให้นักท่องเที่ยวได้แวะสักการะหลวงปู่ทวดเพื่อความเป็นสิริมงคล รวมถึงน้ำตกจิ้งจก และต้นไม้ใหญ่ที่การันตีถึงความสมบูรณ์ของป่าแห่งนี้

          “หากพูดถึง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้สิ่งแรกที่คนจะนึกถึงคือภาพความรุนแรงและไม่กล้าเข้ามา แต่ในความกลัวนั้นก็มีนักท่องเที่ยวบางส่วนที่กล้าเข้ามาเที่ยวอยู่เหมือนกัน เพราะเคยมีน้องคนหนึ่งที่มาเที่ยวคนเดียวโดยมีกลุ่มเยาวชนนำเที่ยวในสถานที่ต่างๆ ตามแหล่งธรรมชาติ และครั้งต่อมาเขาก็กลับมาเที่ยวอีกครั้งพร้อมพาเพื่อนมาด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการท่องเที่ยวใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเหมือนที่เห็นในสื่อ แต่มีความงดงามของแหล่งท่องเที่ยวให้มาสัมผัสอีกมากมาย” หนุ่มนักพัฒนาชุมชนผู้พ่วงตำแหน่งชายผู้รักบ้านเกิด เล่าให้ฟังเพิ่มเติม

ด.ต.นิคม ณรารมย์

          ด.ต.นิคม ณรารมย์ หัวหน้าชุดพิทักษ์ป่าพระนามาภิไธย (ฮาลา-บาลา) กองร้อย ตชด.445 อ.เบตง จ.ยะลา ผู้พิทักษ์ผืนป่ามากว่า 25 ปี เล่าถึงให้ฟังว่า ป่าฮาลา-บาลา เป็นป่าที่สมบูรณ์ที่สุดของภาคใต้ เพราะเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ป่าหายากหลายชนิด เช่น นกเงือก กระทิง เสือ กวาง ช้างป่า แม้กระทั่งสมเสร็จก็ยังมีให้เห็น โดยเฉพาะนกเงือกที่เป็นตัวชี้วัดถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าแห่งนี้ซึ่งสามารถพบได้ถึง 10 ชนิด และในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม จะเป็นช่วงที่สามารถเห็นนกเงือก (นกเงือกกรามช้างปากเรียบ) ที่บินอพยพมาจากป่าห้วยขาแข้งผ่านผืนป่าแห่งนี้ เพื่อบินต่อไปยังป่าลุ่มประเทศมาเลเซียซึ่งจะทยอยบินมาประมาณ 1,000-2,000 ตัว เป็นปรากฏการณ์ที่หาได้ยากมากๆ และจะมีการรวมฝูงและเกาะตามต้นไม้จนถูกเรียกว่าต้นนกเงือก ส่วนสัตว์ป่าอื่นๆ ก็สามารถเห็นได้อยู่บ่อยครั้ง ทั้งตามเส้นทางการล่องเรืออย่างฝูงกระทิง

เบตง

          “อ.เบตง กำลังจะมีการเปิดใช้สนามบินอย่างเป็นทางการเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น การเดินทางเพื่อที่จะมาพักผ่อนตามสถานที่ท่องเที่ยว หรือเส้นทางศึกษาธรรมชาติของป่าฮาลา-บาลาก็จะสะดวกยิ่งขึ้น และถึงแม้ความเจริญจะเข้ามาเพื่อช่วยส่งเสริมและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ก็ยังจะคงความสมบูรณ์ไว้แบบนี้แน่นอน ส่วนในเรื่องความปลอดภัยหลายคนยังติดภาพความรุนแรงแต่เสียงสะท้อนของนักท่องเที่ยวก็บอกเสมอว่าไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด” ตชด.ผู้ดูแลผืนป่าฮาลา-บาลา ย้ำถึงความปลอดภัยของการท่องเที่ยวใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

เบตงยามค่ำคืน

          นอกจากล่องเรือชมความงดงามในทะเลสาบบางลางแล้ว “อำเภอเบตง” คงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักเดินทางต้องปักหมุดไปเยือนสักครั้งหนึ่ง เพราะนอกจากจะเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปในนาม “เมืองใต้สุดแดนสยาม” แล้ว ยังมีภูมิประเทศที่น่าอิจฉา คือการอยู่ท่ามกลางภูเขาที่สมบูรณ์ จึงทำให้เบตงขึ้นชื่อเรื่องแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลายครบรส เช่น “บ่อน้ำพุร้อนเบตง” นอกจากจะเป็นสถานที่ให้คนในพื้นที่ได้ผ่อนคลายจากการแช่น้ำร้อนแล้ว ยังเป็นจุดเรียกนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัสแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติขนาดใหญ่ที่แบ่งโซนไว้สำหรับให้แช่ผ่อนคลายที่ได้มาตรฐานและปลอดภัย ซึ่งเอกลักษณ์ที่ไม่ควรพลาดของสถานที่แห่งนี้คือสามารถต้มไข่ให้สุกได้ภายใน 7 นาที ด้วยความน่าสนใจนี้จึงทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี “สวนไม้ดอกเมืองหนาว” หรือสวนหมื่นบุปผา พื้นที่เดียวในภาคใต้ที่สามารถปลูกดอกไม้เมืองหนาวได้มากกว่า 10 ชนิด และปลูกได้ตลอดทั้งปี จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตให้นักท่องเที่ยวแวะเวียนมาสัมผัสความงามของดอกไม้เมืองหนาวได้อย่างใกล้ชิด ซึ่งตลอดทั้งปีก็จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมอย่างไม่ขาดสาย

อุโมงค์ปิยะมิตร

ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง

          แหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ “อุโมงค์ปิยะมิตร” จะพาคนรุ่นใหม่ย้อนไปศึกษาเรื่องราวการสู้รบของพรรคคอมมิวนิสต์มลายา (จคม.) ผ่านภาพถ่ายและอุปกรณ์ดำรงชีพที่ถูกนำมาเป็นเครื่องมือในการบอกเล่าเรื่องราวในอดีต โดยอุโมงค์แห่งนี้ถูกใช้เป็นฐานทัพเพื่อเก็บเสบียง และพักอาศัย โดยมีการแบ่งพื้นที่ออกเป็นสัดส่วน “ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง” ความพิเศษคือเป็นทะเลหมอกแห่งเดียวในภาคใต้ที่สามารถมองเห็นได้ตลอดทั้งปี จึงทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนไม่ขาดสาย ซึ่งในอนาคตจะมีการก่อสร้างสกายวอล์กยื่นออกไปเพื่อให้นักท่องเที่ยวมองเห็นวิวได้อย่าง 360 องศา และสัมผัสไอหมอกได้อย่างเต็มอิ่ม หรือ “ล่องแก่งอัยเยอร์เวง” เป็นความท้าทายของแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่นักท่องเที่ยวสามารถมาพิสูจน์ความกล้าได้ตลอดทั้งปี ด้วยเส้นทางล่องแก่งยาวกว่า 7 กิโลเมตร ซึ่งตลอดทั้งเส้นทางจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลตลอดทั้งเส้นทาง พร้อมอุปกรณ์ป้องกันอุบัติเหตุเพื่อให้มั่นใจได้ว่าทุกครั้งของการล่องแก่งนักท่องเที่ยวจะได้รับทั้งความสนุกสนานและความปลอดภัยตลอดทั้งเส้นทาง