On This Day

    
          อาจมีบางเหตุการณ์ที่เราจำได้ บางเหตุการณ์เราอาจจะลืมไปแล้ว แต่การมีเฟซบุ๊กทำให้เรา ‘จำเป็น’ ต้องระลึกได้

          ทุกวันเฟซบุ๊กจะคอยรำลึกความหลังว่าเคยเกิดอะไรขึ้นในชีวิตของเราผ่านฟังก์ชั่น On This Day

          เราเคยโพสต์อะไรไว้ เคยปฏิสัมพันธ์กับใครอย่างไรในวันนี้เมื่อปีก่อนๆ เฟซบุ๊กจะขุดขึ้นมาย้ำเตือนเราอีกครั้ง ย้อนประวัติไปตั้งแต่วันแรกที่เราใช้งานเฟซบุ๊ก
    
          ในมุมหนึ่ง มันทำให้เราเรียนรู้ตัวเองได้มากขึ้นว่าที่ผ่านมาเราเป็นคนอย่างไร ได้เห็นพัฒนาการของตัวเองว่าจากเวลานั้นมายังปัจจุบันชีวิตเราเปลี่ยนแปลงไปมาก-น้อยแค่ไหน
    
          On This Day ของฉันในวันนี้มีเรื่องราววันเก่าๆ ในหลายปี 
    
          มีทั้งรูปถ่ายของฉันกับคนรักที่ตอนนี้เลิกกันแล้ว ใบหน้าของเราทั้งคู่ตอนนั้นมีความสุขมาก พวกเราดูเด็กเหลือเกิน หน้าตายังดูมีคอลลาเจนหล่อเลี้ยงกันอยู่ ไม่มีคำว่า ‘เลิกกัน’ ในหัว ช่วงเวลานั้นเหมือนทั้งโลกจะมีเพียงสองเรา
    
          วันนี้ไม่มีคำว่า ‘เรา’ แล้ว เลิกกันไปนานแล้วแต่ฉันยังอยู่ดี มีความสุขมากกับทางที่ฉันเดิน อาจจะยังโสดอยู่ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเศร้าเวลาเฟซบุ๊กย้อนเอารูปเก่าๆ ขึ้นมาให้ดูแต่อย่างใด
    
          เช่นเดียวกัน ฉันได้อ่านข้อความที่ตัวเองโพสต์ในปีก่อนๆ ได้รู้ว่าตัวเองคิดอย่างไร มีทั้งเรื่องน่าอาย มีทั้งเรื่องน่าภูมิใจ หลายเรื่องเป็นเรื่องที่ลืมไปแล้ว หลายเรื่องเป็นเรื่องที่กลับมาอ่านอีกครั้งในวันนี้ก็รู้สึกเหมือนตัวเราในอดีตกำลังคุยกับตัวเราในปัจจุบัน 
    
          หลายปีมานี้ฉันไม่ค่อยโพสต์เรื่องลบๆ เท่าไร ไม่ใช่ว่าชีวิตนี้ไม่เจอเรื่องลบเลย แต่เพราะฉันคิดว่าอะไรก็ตามที่เราสื่อสารออกไปนั้น เรากำลังถ่ายทอดพลังงานบางอย่างให้คนที่มาอ่านอยู่ ถ้าเราโพสต์เรื่องลบ เราก็เอาพลังงานลบส่งไปให้คนอื่นด้วย 
 

          เช่นเดียวกัน ความรู้สึกลบใดๆ ที่เราเคยมีในวันนี้มันจะไม่อยู่กับเราตลอดไป วันหนึ่งมันจะหายไปและเราจะไม่รู้สึกอะไรกับมันแล้วก็ได้ แต่สิ่งที่เราได้ทิ้งไว้มันอาจเคยไปสร้างความรู้สึกลบไว้ในใจคนที่อ่านก็ได้ และเมื่อ On This Day วนกลับมาให้เราอ่าน เราอาจได้เจอตัวเราในเวอร์ชั่นที่ไม่น่าอยู
    
          ด้วยเอาเสียเลย และก็ไม่รู้ว่าตอนนั้นเราแผ่พลังงานลบไปให้คนอีกเท่าไรแล้ว 
    
          ฉันเลยไม่อยากทิ้งเรื่องลบๆ ไว้ในตัวเองอ่าน อยากโพสต์แต่สิ่งที่วันนี้เป็นบวก ต่อให้เจอเรื่องแย่ๆ ฉันก็ให้กำลังใจตัวเองไว้ก่อนมากกว่าจะมาบ่นลงเฟซบุ๊กซึ่งไม่ได้แก้ปัญหาอะไร หรือถ้าฝ่าฟันอุปสรรคอะไรได้ก็จะบันทึกไว้ว่าวันนี้เราทำได้ วันนี้ได้เรียนรู้อะไรบ้าง 
    
          เผื่อวันข้างหน้าที่เผลอรู้สึกแย่ๆ อยู่แล้วได้กลับมาอ่านจะรู้สึกมีกำลังใจขึ้น เหมือนได้ตัวเราเองในวันเก่ามาให้กำลังใจเราในวันใหม่ ดูสิ วันนั้นเรายังผ่านมาได้เลย วันนี้ก็ต้องผ่านไปได้
    
          ชีวิตคนเรามีความเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ไม่มีอะไรไม่เปลี่ยนแปลง มันเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโต
    
          แต่มันก็ทำให้เรารู้ว่าครั้งหนึ่งเคยเกิดอะไรขึ้น และเหตุการณ์นั้นแหละคือส่วนหนึ่งที่ประกอบสร้างตัวเราในปัจจุบัน
    
          ไม่มีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นในวันนั้น ก็คงไม่มีเราที่เป็นเราในทุกวันนี้
    
          ถ้าเราเรียนรู้จากทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตได้มากพอ เราจะเข้าใจชีวิตและไม่ยึดติดกับมันมากนัก
    
          และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราจะพร้อมรับมือและเรียนรู้จากมัน
    
          On This Day สอนฉันไว้แบบนั้น

......................................
On This Day : By ท้อฟฟี่ แบรดชอว์

ท้อฟฟี่ แบรดชอว์ โด่งดังสุดขีดจากงานเขียนคาวๆ เอ๊ย!เรื่องฉาวๆ อุย...เอาใหม่ๆ บทความว้าวๆ ตีแผ่สังคมในโลกไซเบอร์ เขาคือคนคนเดียวกับที่เขียน Cyberraga รวมเล่มเป็นพ็อกเก็ตบุคติดอันดับเบสต์เซลเลอร์ ท้อฟฟี่สารภาพว่าตื่นเต้นมากที่สุด ที่จะได้พบกับผู้อ่าน Rabbit Today ใน Smart Living เป็นประจำทุกสัปดาห์
ที่มา : Rabbit Today