บทสัมภาษณ์พิเศษ นักแข่งระดับโลกอย่าง เจนสัน บัตตัน และ นาโอกิ ยามาโมโตะ กับรถ RAYBRIG NSX-GT จากทางฮอนด้า
นับว่าครั้งนี้ทาง "คมชัดลึกออโต้" ได้รับเกียรติจากทางฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย เชิญมาร่วมพูดคุยและสัมภาษณ์อย่างใกล้กับสองนักแข่งระดับโลกเจนสัน บัตตัน นักแข่งรถชาวอังกฤษ และ นาโอกิ ยามาโมโตะ นักแข่งชาวญี่ปุ่น จากทีมคูนิมิตซึ หมายเลข 100 และยังเป็นครั้งแรกของ เจนสัน บัตตัน อดีตแชมป์โลก Formula1 ที่มาแข่งขันในสนาม ช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต แห่งนี้กับรายการ ช้าง ซูเปอร์ จีที 2018 เป็นสนามที่ 4 ของรายการ SuperGT ในประเทศไทยของเรา และก่อนเดินทางมาประเทศไทย TEAM KUNIMITSU ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ครองอันดับ 1 ของตารางในรุ่นจีที 500 ทั้งประเภททีมและนักขับจากการแข่งขันที่ผ่านมา 3 สนาม ด้วยรถยนต์ฮอนด้า RAYBRIG NSX-GT
ก่อนมาร่วมรายการ Super GT มีมุมมองต่อรายการนี้อย่างไร พอมาถึงวันนี้ที่ได้มาแข่งเต็มตัวแล้ว มุมมองเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง
เจนสัน บัตตัน : สวัสดีครับ ผมดีใจที่ได้มาประเทศไทยนะครับ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้มาแข่งที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ. บุรีรัมย์ ผมรู้สึกตื่นเต้นกับการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ผมคิดว่ารายการ Super GT เป็นการแข่งขันที่สนุกและมีความขับเคี่ยวกันมากกว่าที่คิดทั้งระหว่างผู้เข้าแข่งขันที่ใช้รถยนต์จากผู้ผลิตรถยนต์แบรนด์ญี่ปุ่นสามราย และนักแข่งที่มากความสามารถ จากที่ได้แข่งขันทั้งสามรอบที่ผ่านมา ผมเห็นชัดเจนเลยว่า Super GT เป็นการแข่งขันที่มีความพิเศษ และมีการขับเคี่ยวกันอย่างสนุกสนาน นับเป็นการแข่งขันที่มีความพิเศษและเป็รซีรีส์ที่น่าสนใจมากๆ
อะไรเป็นจุดพลิกผันที่ทำให้กลับมาแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตอีกครั้ง อะไรที่เป็นแรงบันดาลใจให้กลับมาแข่งอีกครับ
เจนสัน บัตตัน: มอเตอร์สปอร์ต เป็นกีฬาที่ผมรักและหลงไหลในตัวของมันเสมอ แต่ความท้าทายข้างในจิตใจของผมมันหายไป เพราะทีมเราไม่สามารถทำผลงานได้อย่างที่เราตั้งใจไว้ พอผมได้มาแข่งขัน Super GT ได้มาเห็นผู้เข้าแข่งขันจากทีมต่างๆ ผมรู้สึกถึงความท้าทาย ทั้งในตัวของนักแข่งจากทีมต่างๆ เอง ทำให้ผมรู้สึกว่าทุกคนมีโอกาสคว้าแชมป์ได้เหมือนกันหมด ผมชอบการต่อสู้ ซึ่งการแข่งรถเป็นกีฬาที่เต็มไปด้วยความท้าทายและมีเสน่ห์ในตัวมัน และนั่นเป็นสิ่งที่ผมรัก
เตรียมตัวอย่างไรสำหรับการลงแข่ง Super GTฤดูกาลนี้ เพราะลงแข่ง FIA Endurance ด้วย
เจนสัน บัตตัน: ผมว่า การเตรียมตัวมันเป็นสิ่งทีไม่ยากนัก เมื่อคุณมีประสบการณ์ในการแข่งรถมาแล้ว แม้รถที่ใช้แข่งใน 2รายการต่างกันมาก ผมชินกับรถของ WEC มากกว่า เพราะการแข่ง Super GT จะยากกว่าพอสมควร เพราะรถมีน้ำน้ำหนักมากกว่าเมื่อเทียบกับ WEC วิธีขับก็ต่างกัน แต่ผมชอบทั้งสองแบบนะ ในฐานะนักแข่งรถ ผมคิดว่าเป็นเรื่องดีที่ผมได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขับรถหรือการทำงานของรถ อีกทั้งพาร์ทเนอร์ที่ดี ผมเชื่อว่าจะทำผลงานได้ดีอย่างแน่นอน
รถ NSX-GT มีจุดแข็งอะไรที่เข้ากับคุณหรือไม่
เจนสัน บัตตัน: ผมคิดว่า ฮอนด้า เอ็นเอสเอ็กซ์-จีที แสดงให้เห็นว่า ฮอนด้ามีพัฒนาการในการทำให้รถยนต์สามารถรองรับการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตได้ดีขึ้น ซึ่งผมดีใจที่ได้เห็นว่าปีนี้ฮอนด้าชนะมาแล้ว 2 รายการ เห็นได้ชัดว่าเป็นรถคันนี้ที่ดีมาก เป็นรถที่แข็งแกร่งและพร้อมสำหรับการแข่งขันอย่างมาก
มีมุมมองอย่างไรต่อสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ. บุรีรัมย์ มีความยากง่ายอย่างไรบ้าง
เจนสัน บัตตัน: ผมว่าคำถามนี้น่าจะถามนาโอกิ เพราะผมเพิ่งมาแข่งที่นี่เป็นครั้งแรก แต่หลังจากที่เราได้ไปเดินรอบๆ สนามมา รู้สึกว่าคล้ายกับสนาม F1 ซึ่งสนามนี้เป็นอีกสนามที่ยากสำหรับเรา จากประสบการณ์ที่สนามนี้ของนาโอกิ รวม 5 ครั้ง เชื่อว่าจะมีข้อแนะนำดีๆ ที่ทำให้ทีมเราทำผลงานได้ไม่แพ้สนามอื่นๆ แน่นอน
มีกลยุทธ์อย่างไรในการคว้าชัยชนะใน Super GT
เจนสัน บัตตัน: ผมคงเตรียมพร้อมรับในทุกสถานการณ์ กลยุทร์ การเลือกยาง เลือกเครื่องยนต์ การถ่วงน้ำหนักรถ และการเก็บคะแนนให้ได้มากที่สุด และพยายามที่ชนะ ที่สำคัญเราต้องมี team work ที่ดี ผมเคยแข่งในสนามคล้ายกันนี้ที่สิงคโปร์และมาเลเซียมาก่อน ผมรู้สึกว่าคู่แข่งจะเฉือนและขับเคียวกันอย่างสูสี
การได้มาร่วมทีมกับอดีตนักแข่ง Formula 1 แชมป์โลกส่งผลกระทบอย่างไรบ้าง กดดันมากน้อยแค่ไหน
นาโอกิ ยามาโมโตะ: เจนสัน บัตตัน เป็นนักแข่งที่เป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงระดับโลกในวงการมอเตอร์สปอร์ต ซึ่งผมเชื่อว่าประสบการณ์ในระดับโลกของบัตตัน เมื่อประกอบกับประสบการณ์ของผมในการแข่งขัน Super GT ผมเชื่อว่าจะช่วยเสริมกันและกันได้เป็นอย่างดี อย่างสนามช้าง ผมมาร่วมแข่งขันในรายการนี้ 5 ครั้งแล้ว ในจุดนี้ และสนามนี้ผมน่าจะสามารถให้คำแนะนำ และพูดคุยกัน เพื่อให้ผลงานของเราในสนามนี้ดีไม่แพ้สนามอื่นๆ อย่างแน่นอน จากประสบการณ์และความร่วมมือของเรา จะช่วยเสริมกันและกัน เพื่อให้ผลงานของเราในฤดูกาลนี้ดีที่สุด
ปรับตัวให้เข้ากับการร่วมทีมกับเจนสัน บัตตัน อย่างไร หลังจากผ่านมา 3 สนามแล้วคิดว่ายังต้องปรับอะไรอยู่ไหม
นาโอกิ ยามาโมโตะ: จากที่ผ่านมา 3 สนาม เราก็สามารถทำผลงานได้ดี มั่นใจว่าเราคงไม่ต้องปรับตัวอะไรกันมาก แต่น่าจะลองดูว่าเมื่อได้ขับแล้ว เจนสัน บัตตัน จะคุ้นเคยกับสนามนี้ได้เร็วมากน้อยแค่ไหน เพื่อทำผลงานให้ดีไม่แพ้ในสนามอื่นๆ
คุณชอบอะไรในประเทศไทย
นาโอกิ ยามาโมโตะ : อาหารไทยครับ ผมมาแข่งในเมืองไทย 3 ครั้งแล้ว เมืองไทยสวยมาก ผมชอบภูเก็ตเคยไป 2 ครั้ง กับภรรยา ถ้ามีที่เที่ยวสวยๆ ที่ไหนอีกบอกผมด้วย ขอบคุณประเทศไทย
วางแผนในการแข่งขันยังไงให้มีอันดับที่ดี
นาโอกิ ยามาโมโตะ : การจะคว้าชัยชนะหรืออันดับได้ดีๆ มีกฎที่ต้องแบกน้ำหนัก สำหรับรถที่เป็นผู้ชนะในแต่ละสนาม และรถคันนี้ก็ถูกแบกน้ำหนักและในสนามก่อนสุดท้ายจน้ำหนักที่แบกไว้จะหรือครึ่งนึงและสนามสุดท้ายจะไม่มีการแบกน้ำหนักจะทำให้กลับมาชนะได้ การชนะติดต่อถึงสนามที่ 6 เป็นเรื่องที่ยาก ทำให้ต้องเลือกการใช้ยางให้เหมาะสม เครื่องยนต์ ต้องปรับทั้งเครื่องยนต์และยาง ที่สำคัญที่สุดก็คือการเป็นทีมเวิร์ค กับ เจนสัน
ต้องบอกท่านผู้อ่านเลยว่ารายการแข่งขัน Super GT จะต้องทำการแข่งขันถึง 8 สนามต่อปี และจะมีเพียงสนามเดียวที่จะแข่งขันนอกประเทศญี่ปุ่น นั่นก็คือสนาม ช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต ประเทศไทยของเรานี่เอง และเป็นเหตุผลที่เราต้องมากระทบไหล่นักแข่งดังระดับท๊อปของโลกให้ได้
ถึงแม้ เจนสัน บัตตัน และ นาโอกิ ยามาโมโตะ ในสนามที่ 4 นี้ จะไม่สามารถได้คะแนนสะสมติดไม้ติดมือกลับไปญี่ปุ่นแต่ได้ใจจากเหล่ากองเชียร์ชาวฮอนด้าในประเทศไทยกลับไปแบบท่วมท้นทีเดียวครับ.
ภาพ บุญญฤทธิ์ หนูหล่า
เรื่อง ธวัชชัย พิชิตรณชัย
E-mail : [email protected]
facebook : https://www.facebook.com/LoaReuangRot/
ข่าวที่เกี่ยวข้อง