Lifestyle

อร่อยตามแบบฉบับฮอกไกโด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ฟินเหมือนบินไปนั่งกินที่เกาะฮอกไกโด

         หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารญี่ปุ่นมาก และใฝ่ฝันเหลือเกินว่าสักครั้งในชีวิตต้องไปนั่งลิ้มรสอาหารสุดโปรดให้ถึงถิ่น แต่ติดขัดตรงที่ทุนไม่พอให้ตะลอนไปได้ ขอบอกตรงนี้เลยว่าไม่ต้องเสียใจ เพราะเดี๋ยวนี้มีร้านอาหารที่อิมพอร์ตวัตถุดิบจากท้องถิ่นต้นกำเนิดเข้ามาเปิดให้นักชิมชาวไทยได้ฟินทั้งคุณภาพและรสชาติรวมถึงบรรยากาศ ประหนึ่งว่าคุณกำลังนั่งรับประทานอยู่ในดินแดนปลาดิบยังไงยังงั้น และที่พูดมานี้คือร้านอาหารญี่ปุ่นจากเมืองฮอกไกโด “สึโบฮาจิ” ซึ่งเปิดบริการถึง 6 สาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑล แต่วันนี้จะพาไปทำความรู้จักกับ "สิโบฮาจิ" สาขานิฮอนมาจิ สุขุมวิท 26

อร่อยตามแบบฉบับฮอกไกโด

ภายในร้านมีหน้าบาร์ให้ลูกค้านั่งชมขั้นตอนการแล่ปลาแบบสดๆ

         ชื่อร้านมาจากคำสองคำ ได้แก่ “สึโบ” หมายถึงหน่วยวัดพื้นที่ เท่ากับ 3.3 ตร.ม. ส่วน “ฮาจิ” หมายถึง เลข 8 ดังนั้น “สึโบฮาจิ” จึงมีความหมายว่า 8x3.3 ตร.ม. หรือ 26.4 ตร.ม. ซึ่งเป็นจำนวนพื้นที่ของร้านสึโบฮาจิ สาขาแรกที่เกิดขึ้น แต่สำหรับสาขาที่มาเปิดในประเทศไทย รับรองว่าพื้นที่กว้างขวางสามารถรองรับลูกค้าได้มากถึง 100 ท่าน นอกจากนี้ยังมีห้องวีไอพีไว้คอยบริการลูกค้าที่ต้องการความเป็นส่วนตัวอีกถึง 8 ห้อง ภายใต้การตกแต่งอันเรียบง่ายแบบโมเดิร์นโอเรียนทัล โทนสีอบอุ่นเหมาะต่อการพาสมาชิกในครอบครัวตั้งแต่ลูกเด็กเล็กแดงยันผู้สูงวัยก็สามารถเข้ามานั่งรับประทานได้สบายๆ ในทางตรงข้ามถ้าเป็นวัยทำงานอยากยกก๊วนมาสังสรรค์ก็สะดวกไม่น้อย

อร่อยตามแบบฉบับฮอกไกโด

ปูทาราบะนึ่งเสิร์ฟพร้อมเลมอน

         มาถึงรายการอาหารภายใต้มาตรฐานความเป๊ะเว่อร์ตามแบบฉบับชาวอาทิตย์อุทัย เน้นอาหารจากเมืองฮอกไกโด มีให้เลือกกันไม่หวาดไม่ไหวไล่เรียงตั้งแต่ ซูชิ, เรียกน้ำย่อยสไตล์พื้นบ้านของชาวฮอกไกโด อาทิ รากบัวทอด ถั่วแระญี่ปุ่นต้ม, สลัด, ซีฟู้ด, ปูสามสายพันธุ์, ข้าวอบ, ปิ้งย่าง, ข้าวหน้าต่างๆ, นู้ดเดิ้ล, เซ็ตเบนโตะ, นาเบะหรือหม้อไฟ รวมถึงของหวานสไตล์ฮอกไกโดอีกกว่า 10 รายการ
         และถ้าพูดถึงอาหารขึ้นชื่อของเกาะฮอกไกโด เชื่อว่าบรรดาเจแปนนิสฟู้ดเลิฟเวอร์ต้องยกให้ “ปู” เป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งวันนี้เป็นหน้าที่ของ “ปูทาราบะนึ่งเสิร์ฟพร้อมเลมอน” จานนี้ถือเป็นไฮไลท์ของทางร้านมีให้ลูกค้าได้รับประทานได้ตลอดทั้งปี ซึ่งใครแอบจิตตกกังวลว่าเนื้อปูจะสดจะหวานเหมือนนั่งรับประทานในถิ่นหรือไม่ ขอบอกเลยว่า เนื้อแน่นทุกก้าม แกะใส่ปากแบบไม่ต้องถามหาซอสก็ได้หรือถ้าใครยังติดกับรสชาติจัดจ้าน เชฟชาวญี่ปุ่นก็เอาใจด้วยการปรุงน้ำจิ้มซีฟู้ดแบบไทยสไตล์มาไว้ให้บริการเสริมอีกเช่นกัน

อร่อยตามแบบฉบับฮอกไกโด

ตั้งหม้ออบข้าวให้เห็นกันต่อหน้าลูกค้า

อร่อยตามแบบฉบับฮอกไกโด

พร้อมเสิร์ฟแล้วข้าวอบฮอกไก

         คนไทยส่วนใหญ่ติดข้าวและข้าวญี่ปุ่นก็นุ่มถูกปากนักชิมชะมัดยาด เราจึงไม่อยากให้พลาด “ข้าวอบฮอกไก” สำหรับหม้อนี้ถ้าตั้งใจจะรับประทาน แนะนำว่าให้สั่งตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะพนักงานต้องนำหม้อข้าวซึ่งบรรจุข้าวสารญี่ปุ่น ราดด้วยน้ำซุปสูตรเฉพาะของชาวฮอกไกโด ท็อปปิ้งด้วยเนื้อปลาแซลมอน หอยเชลล์ (โฮตาเตะ) เนื้อปูทาราบะ เห็ดชิเมจิ และแครอท มาจุดไฟหุงให้ถึงโต๊ะ โดยในขั้นตอนนี้ต้องใช้เวลานานถึง 25 นาที และเมื่อไฟดับแล้วก็ใช่ว่าจะเปิดหม้อตักใส่ถ้วยจ้วงใส่ปากได้ทันที ยังต้องมีกรรมวิธีปล่อยให้ข้าวระอุอีก 5 นาที จากนั้นจึงเป็นหน้าที่ของพนักงานนำน้ำจิ้มเนหงิ อันเกิดจากส่วนผสมของน้ำมันงา-กระเทียม-ต้นหอม-โชยุ ลงไปคลุกเคล้าในข้าวจนเข้ากันดีแล้วโรยหน้าด้วยสาหร่ายหั่นฝอยและใบโอบะ เป็นอันว่าจบกระบวนการปรุง...ได้เวลาลิ้มรสข้าวอบร้อนๆ หอมกรุ่นไปด้วยกลิ่นซีฟู้ด ฝากสักนิดว่าข้าวอบหม้อนี้สามารถแบ่งรับประทานกันได้ 2-3 คน กำลังดี เพราะยังมีจานอร่อยอย่างอื่นรออยู่อีกหลายรายการ

อร่อยตามแบบฉบับฮอกไกโด

ซูชิหน้าล้น ทำต่อมน้ำลายแตก

         อย่างผู้ที่นิยมรายการซูชิ มีจานแนะนำ “ซูชิหน้าล้น” ประกอบด้วย แตงกวามากิ หรือข้าวปั้นห่อสาหร่ายไส้แตงกวาจัดวางมาเป็นทาวเวอร์ แล้วราดด้วยเนื้อปลาแซลมอนสดหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า เนื้อปลาทูน่าสับ และไข่ปลาแซลมอน ขั้นตอนความอร่อยก็แค่ หยิบทุกอย่างใส่ปากพร้อมกันเพื่อให้ได้รสสัมผัสถึงความสดใหม่ของซีฟู้ดซึ่งทางร้านภูมิใจนำเสนอเป็นอย่างยิ่ง 

อร่อยตามแบบฉบับฮอกไกโด

"กิมจิหม้อไฟ" กลมกล่อมจนต้องขอดหม้อกิน

         ด้วยว่าสภาพภูมิอากาศที่ฮอกไกโดในช่วงฤดูหนาวจะหนาวมากถึงมากที่สุด ดังนั้นอาหารในชีวิตประจำวันของชาวบ้านจึงมี “หม้อไฟ” ไว้ซดน้ำซุปร้อนๆ เพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายและ “กิมจิหม้อไฟ” ก็เป็นหนึ่งในอาหารพื้นถิ่นที่ทางร้านนำมาบรรจุไว้ในเมนู ความพิเศษของหม้อไฟนี้ คือเอาใจนักชิมทั้งสายหมูและสายเนื้อสามารถเลือกได้ตามต้องการ โดยมื้อนี้เราเลือกหมูสามชั้น มาวางคู่กับ เห็ดหอมสด, เต้าหู้ขาว, เห็ดเข็มทอง, เห็ดชิเมจิ, ต้นกระเทียม, ญี่ปุ่น ต้นหอมญี่ปุ่น,  ผักกาดขาว, เส้นอุด้ง และที่ขาดไม่ได้คือ ซอสกิมจิ ต้มในน้ำซุปปลาคัตสึโอะ เมื่อปล่อยให้ความร้อนทำหน้าที่เคี่ยวสักพัก ก็ได้เวลาตักใส่ปาก...ความเข้มข้นของซุปกิมจิแทรกเข้าไปในเนื้อเต้าหู้และผักต่างๆ จนกลายเป็นความกลมกล่อมกำลังพอเหมาะ หม้อนี้จึงดีต่อหนุ่มสาวผู้รักษาหุ่นอย่างยิ่ง

อร่อยตามแบบฉบับฮอกไกโด

ชาเขียวมูสเค้ก สายมัทฉะต้องกรีดร้อง!!

          และใช่ว่าจะมีแต่คนไทยเท่านั้นที่ติดหวานต้องมีของหวานไว้ล้างปากปิดท้าย คนญี่ปุ่นก็มีวิถีเดียวกัน “ร้านสึโบฮาจิ” จึงมีรายการของหวานไว้บริการมากหน้าหลายจาน โดยเฉพาะกรีนทีเลิฟเวอร์ ต้องเจอกับ “ชาเขียวมูสเค้ก” ความขม ความหอม ความหวาน ผสานกันอย่างลงตัว เสริมรสด้วยอัลมอนด์ ถึงกระนั้นเชฟยังโรยผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เพื่อที่จะให้ช่วยลดความเลี่ยน หน้าตาและรสชาติระดับพรีเมียม แต่ขอบอกว่าราคาเบาๆ  
          ร้านสึโบฮาจิ สาขานิฮอนมาจิ เปิดให้บริการทุกวัน โดยวันจันทร์-ศุกร์ กลางวัน 11.00-14.00 น. และเย็น 17.00-23.00 น. ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดบริการ 11.00-23.00 น. จะสอบถามหรือจองโต๊ะล่วงหน้า โทร.0-2262-0331

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ