มาสด้า ซีเอ็กซ์-8พร้อมรุกตลาดเอสยูวีครอบครัว

 

          มาสด้ามีแผนที่จะเปิดตัว ซีเอ็กซ์-8 ปีหน้า เพิ่มทางเลือกสำหรับลูกค้าที่ต้องการรถเอสยูวี แต่ก็ต้องการรถที่ตอบสนองการใช้งานของครอบครัวด้วยเช่นกัน ซึ่งเชื่อว่าซีเอ็กซ์-8 จะเข้ามาเติมเต็มได้ เพราะมันเป็นรถขนาด 6-7 ที่นั่ง เบาะ 3 แถว ซึ่งมาสด้ายืนยันว่าเบาะนั่งที่นั่งแถวที่ 3 นั้น มีพิ้นที่ที่ใหญ่ที่สุดในตลาดเดียวกัน

          ของอย่างนี้ต้องลอง ผมเลยปีนเข้าไปนั่งดูก็ได้คำตอบว่ามีขนาดใหญ่จริง นั่งได้สบายตัวไม่อึดอัด แต่แน่นอนว่ามันมีข้อจำกัดอยู่บ้าง เหมือนกับรถในกลุ่มนี้คือพื้นที่วางเท้า ซึ่งแน่นอนมันวางได้ ไม่ติดอะไร แต่เข่าจะชันสักหน่อย ซึ่งอาจจะไม่มีปัญหาสำหรับคนตัวเล็ก หรือเด็กๆ ยิ่งสบายเข้าไปใหญ่ แต่คนขายาวอาจรู้สึกอึดอัดบ้างหากต้องเดินทางไกล

          ผมก็มีโอกาสขับซีเอ็กซ์-8 พอหอมปากหอมคอ ที่ญี่ปุ่นทั้งในรูปแบบการ ขับขี่บนพื้นน้ำแข็ง และในสนามทดสอบขนาดเล็ก ระยะทางสั้นๆ ซึ่งตั้งภายในโรงงานผลิตที่ฮิโรชิมา เพราะที่นี่คงใช้แค่ทดสอบอะไรบางอย่างเท่านั้น แต่สนามทดสอบจริงจังอย่าง “มิเน่” อยู่ห่างออกไปสัก 2 ชม. เมื่อเดินทางโดยรถบัส

 

 

  
          รถที่ใช้ทดสอบเป็น เวอร์ชั่นญี่ปุ่น ติดตั้งเครื่องยนต์สกายแอ็กทีฟ 2.2 คลีน ดีเซล รุ่นอัพเดท ที่เพิ่มกำลังจาก 129 กิโลวัตต์ เป็น 140 กิโลวัตต์ แรงบิดเพิ่มจาก 420 เป็น 450 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
  
          ซีเอ็กซ์-8 มีความยาว 4,900 มม. ความกว้าง 1.840 มม. และสูง 1,730 มม. ในญี่ปุ่น มาสด้ากำหนดให้เป็นแฟล็กชิปของตระกูลเอสยูวี การออกแบบรถเป็นไปในแนวทางของโคโดะ ดีไซน์ และยังเน้นให้มีเส้นสายของอารมณ์สปอร์ต เติมความหรูหราเข้าไป

 

 

 

          ภายในห้องโดยสารนั่งสบายและเน้นความหรูหราป็นพิเศษโดยเฉพาะการเลือกใช้เบาะนั่งหนังแนปปา ชิ้นส่วนภายในหลายจุดตกแต่งจากไม้จริง คอนโซลหน้าขนาดใหญ่โอบเข้าหาผู้ขับขี่ ตามรูปแบบของรถอารมณ์สปอร์ต ออกแบบให้ดูเรียบๆ แต่ก็มีลูกเล่นด้วยรูปทรงของอุปกรณ์ เช่น ช่องแอร์ จอมอนิเตอร์ตรงกลาง ผมว่าถ้าเป็นจอที่มีความยาวมากกว่านี้จะเข้ากันได้ดีกับเส้นต่างๆ ที่เน้นไปทางแนวนอนเป็นหลัก
  
          คอนโซลเกียร์ขนาดใหญ่อย่างตั้งใจ ทำให้ความรู้สึกของพื้นที่คนขับ และผู้โดยสารด้านหน้าดูมีความเป็นส่วนตัว มีสัดส่วนชัดเจน คล้ายความรู้สึกเมื่อนั่งเครื่องบินในายบิซิเนสคลาส และคุมภาพรวมในห้องโดยสารด้วยสีทูโทน มีสีดำกับสีที่จะล้อไปกับสีตัวถังด้านนอก
  

 

          ส่วนอุปกรณ์มาตรฐานของซีเอ็กซ์-8 แน่นอน มันมีจีเวคเตอริ่ง คอนโทรลเข้ามาช่วยรักษาเสถียรภาพของรถ และยังมีระบบกล้อง 360 องศา เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน
  
          ความสามารในการใช้งานรองรับครอบครัว นอกจากจำนวนที่นั่งก็ยังมีพื้นที่บรรทุกสัมภาระ 239 ลิตร เมื่อใช้งานเบาะนั่งทั้ง 3 แถว และถ้าหากพับเบาะแถวที่ 3 ลง ก็จะเพิ่มพื้นที่ขึ้นเป็น 572 ลิตร มีช่องเสียบยูเอสบีสำหรับที่นั่งด้านหลัง
  

 

          สำหรับเบาะนั่งที่ยังไม่ได้พูดถึงสำหรับตำแหน่งผู้ขับและผู้โดยสารแถว 2 กว้างขวางนั่งสบาย ในตำแหน่งผู้ขับกระชับลำตัว ไม่ลื่นไหล ซึ่งเห็นได้ชัดเจนเมื่อขับขี่ในทางโค้งครับ
   
          สำหรับการขับบนพื้นน้ำแข็งนั้นเกิดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เป็นช่วงที่พายุหิมะถล่มฮอกไกโด ซึ่งทำให้สนามทดสอบมีกำแพงหิมะสูงราวๆ 2 ซึ่งจริงๆ แล้วที่นี่ก็ไม่ใช่สนามอะไรหรอกครับ แต่เป็นถนนที่ประชาชนใช้งานทั่วไป แต่ช่วงประมาณ 3-4 เดือน ในฤดูหนาวทางการจะปิดถนนไม่ให้ผู้คนสัญจรเพราะอันตรายเกินไป มาสด้าจึงเช่าสำหรับทดสอบการขับขี่บนเส้นทางที่ลื่นและความพร้อมอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงระบบต่างๆ ในสภาพอากาศที่หนาวเย็น

 

  
          พื้นผิวที่หิมะตกทับจนอัดแน่นมันไม่ได้นุ่มๆ เหมือนจินตนาการ แต่มันแข็งจนลื่น เดินยังต้องระวัง แต่กลับไม่ปัญหาอะไรสำหรับซีเอ็กซ์ 8 การควบคุม ขับแบบปกติสบายๆ จะมีใช้พวงมาลัยแก้อาการบ้างก็แค่เล็กน้อยในทางโค้งแคบๆ เท่านั้น แต่รวมๆ แล้วระบบของรถจัดการได้ดี ไม่มีอาการลื่นไถลให้รู้สึก และอีกสิ่งที่รับรู้ได้จากสนามนี้ก็คือการดูดซับแรงของระบบช่วงล่างทำได้ดี นั่งสบาย
  

 

 

          ส่วนการขับบนพื้นแห้ง เรียบ บนสนามโรงงานซึ่งมีระยะทางสั้นๆ ประมาณ 2 กม. ส่วนใหญ่เป็นทางตรง และด้านปลายของทั้ง 2 ด้านเป็นโค้งยูเทิร์นแคบๆ และมีป้ายจำกัดความเร็วเป็นช่วงๆ มี 40,80 และ 120 กม./ชม. แม้จะมีทีมงานมาสด้า มอเตอร์ นั่งคู่ไปด้วยที่เบาะหน้า และมีป้ายจำกัดความเร็ว แต่เมื่อลองแอบๆ กดคันเร่งมากกว่าที่กำหนดเล็กน้อยพอให้ไม่น่าเกลียด เขาก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ดังนั้นทางตรงที่กำหนด 120 ก็เลยไปเกือบ 140 โค้งยูเทิร์นที่กำหนด 40 ก็แอบๆ เป็น 50-60
  
          ไม่ใช่อะไรหรอกครับ เวลาน้อย ระยะทางน้อย ก็ต้องพยายามจับความรู้สึกให้ได้มากที่สุด เร็วที่สุด อย่างช่วงการทำความเร็วสูงสุดจะเริ่มหลังจากออกจากโค้งแคบ แล้วกดคันเร่งทันที ดูการตอบสนองของเครื่องยนต์ อัตราเร่ง และก็อย่างที่บอกว่ามันขึ้นไปแตะๆ 140 กม./ชม. ไม่ยากอะไร และลื่นไหล ไม่มีจังหวะสะดุด เบื้องต้นก็ต้องบอกว่าเครื่องยนต์กับเกียร์ทำออกมาได้ดีและประสานงานกันลงตัว เสียงลมเสียงยางเข้ามาน้อย การเก็บเสียงในห้องโดยสารทำได้ดี
  

 

          ช่วงที่กำหนดขับ 80 บนพื้นลาดยางที่ตั้งใจไม่ทำให้เรียบกริบ เพื่อดูการทำงานของช่วงล่าง ยาง การควบคุมรถ ซึ่งเมื่อลองที่ความเร็ว 90 ก็ได้คำตอบว่าหากกดไปเกิน 100 ก็ยังไหว สำหรับเส้นทางแบบนี้ รถนิ่ง การดูดซับแรงสะเทือนก็ดีเช่นกัน
  
          การควบคุมรถในทางโค้ง พวงมาลัยแม่นยำ การเกาะถนนดี แม้รอบแรกต้องเพิ่มการเลี้ยวกลางโค้งเพราะมองพลาดไปเล็กน้อย ไปมองทางออกลานจอดรถที่ปลายโค้งแทนทางเส้นในที่จะวิ่งในแทร็กต่อ ซึ่งแน่นอนเป็นโค้งที่แคบกว่า การลงไปขับกันเลยโดยไม่ได้ลองทางก่อนก็อย่างนี้แหละครับ แต่แง่ดีก็คือทำให้รับรู้อารมณ์ของรถที่ต้องเลี้ยวเพิ่มกลางโค้ง แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี
  
          ผมขับทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งที่แทร็กแห่งนี้ความรู้สึกไม่ต่างกัน
  
          ความสะดวกสบายเพิ่มขึ้น หากเทียบกับซีเอ็กซ์-5 อารมณ์สปอร์ต ยังคงอยู่ ทำให้ซีเอ็กซ์-8 เป็นรถที่น่าสนใจครับ