"ออน" ชิชญาสุ์ หวังถึงมงที่ 3 ของไทย
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 8 มิถุนายน 2561 กองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ได้เปิดตัว 40 สาวงามผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 เพื่อเก็บตัวและเตรียมความพร้อมในการประกวดรอบสุดท้าย พร้อมเปิดตัวมงกุฎเพชรสำหรับสาวผู้โชคดีเพียงหนึ่งเดียวของปีนี้ ที่ห้องรอยัล มณียา บอลรูม เอ โรงแรมเรเนอซองส์ ราชประสงค์
สุรางค์ เปรมปรีดิ์
“แดง” สุรางค์ เปรมปรีดิ์ ประธานอำนวยการกองประกวด กล่าวว่า การประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 ได้มาถึงช่วงสำคัญอีกครั้งหลังจากที่ได้เปิดรับสมัครสาวงาม และการคัดเลือกรอบสัมภาษณ์เชิงทัศนคติ (Attitude Interview) เมื่อสัปดาห์ก่อน การคัดเลือกในรอบนี้ นอกจากทำให้กองประกวดฯ ได้รู้จักตัวตน ความคิด ทัศนคติ ตลอดจนการใช้ชีวิตของผู้สมัคร มากขึ้นแล้ว ยังมีโอกาสได้ทำความรู้จักกับครอบครัวของเหล่าสาวงามและประทับใจกับ ความรัก-ความผูกพันของ ครอบครัว ซึ่งถือเป็นพื้นฐานสำคัญในการบ่มเพาะหล่อหลอมตัวตนของผู้สมัครแต่ละคนด้วย และวันนี้ กองประกวดฯ ได้ทำการคัดเลือกสาวงามผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมจำนวน 40 คนเพื่อทำกิจกรรมต่อไป
ด้าน “ออน” ชิชญาสุ์ กรรณสูต เผยว่า การคัดเลือกปีนี้ทุกคนเตรียมตัวมาดีมาก แต่เพื่อไม่ให้ได้เปรียบเสียเปรียบจึงให้แต่งกายและทำผมแบบเดียวกัน เรามองแต่ละคนตั้งแต่วันที่รับสมัครกระทั่งวันสัมภาษณ์ทำให้ได้เห็นมุมมองความเป็นตัวตน และความสามารถ โดยดูภาพรวมทั้งหมด แต่อยากให้แต่ละคนเป็นตัวของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องเพอร์เฟ็คหรือเลียนแบบใคร ทำสิ่งที่มีอยู่ให้ดีที่สุด กระแสโซเชียลก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับตัวของแต่ละคน และต้องดูคู่แข่งเพื่อมาเปรียบเทียบกันด้วย ซึ่งในแต่ละปีก็ต้องหวังกับเวทีมิสยูนิเวิร์สอยู่แล้ว แต่อนาคตจะเป็นอย่างไรก็ต้องยอมรับในผล
อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของวันนี้คือ การเปิดตัว “มงกุฎ Miss Universe Thailand 2018” โดย มารีญา พูลเลิศลาภ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 ออกแบบและผลิตโดย บิวตี้เจมส์ โดยได้รับแรงบันดาลใจจาก “นกยูง” ที่ยืนโดดเด่นสง่างามกลางป่ากว้างพร้อมรำแพนหาง สีรุ้งงามระยับจับแสงหลากสี เปล่งประกายเป็นลวดลายเอกลักษณ์ความสวยงามมาสร้างสรรค์เป็นมงกุฎอันเลอค่า สำหรับสาวผู้โชคดีเพียงหนึ่งเดียว และเป็นตัวแทนสาวไทยไปร่วมการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018
มารีญา พูลเลิศลาภ
มารีญา พูลเลิศลาภ แนะนำรุ่นน้องปีนี้ว่า ทุกคนล้วนมีความโดดเด่น วันที่มารับสมัครพร้อมสัมภาษณ์เบื้องต้นไม่ผิดหวังเลย หลายคนมีความมั่นใจ กระแสตอบรับดี อยากให้ทั้ง 40 คนเตรียมความกล้า ถึงภาษาอังกฤษไม่เก่ง อยากให้กล้าแสดงออกในการร่วมกิจกรรม ตรงนี้สำคัญมาก
สำหรับ 40 สาวงามที่ฝ่าด่านหินผ่านเข้ารอบมาได้ล้วนเปี่ยมด้วยความงามและคุณสมบัติอื่นๆ อาทิ นักศึกษา, แพทย์, นักดนตรี,นักธุรกิจ,นางแบบ, นักกฎหมาย, สาวอิมพอร์ต เป็นต้น อย่างสาวหน้าหวาน หมายเลข 2 “กานต์” เมณิษา ชุมสายสกุล อายุ 22 ปี กำลังเรียนปริญญาโท ปี 1 สาขาบริหารการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ธรรมศาสตร์ เทพีสงกรานต์วิสุทธิกษัตริย์ ปี 2561 บอกว่าแม่สนับสนุนให้ประกวดนางงามเต็มที่ อีกทั้งเวทีนี้ไม่ได้ต้องการแค่คนสวย แต่ต้องมั่นใจ และมีความคิดความอ่านดี ปีก่อนๆ ตัวแทนสาวไทยทำผลงานได้ดี มาตรฐานสูงขึ้นก็รู้สึกกดดันบ้าง แต่ส่วนตัวเป็นคนมีความมุ่งมั่นและพร้อมพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ตอนนี้เตรียมฟิตหุ่น และฝึกภาษาเพิ่ม ถ้าได้ตำแหน่งอยากทำงานช่วยเหลือสังคมโดยเฉพาะด้านการศึกษา อยากให้เด็กด้อยโอกาสได้รับการศึกษาที่เท่าเทียม
อีกสาวงามหมายเลข 11 “พลอย” วาเลนตินา จาร์ดุลโล ลูกครึ่งไทย-อิตาลี วัย 24 ปี กำลังศึกษาปริญญาโท ด้านภาษาเพื่อความร่วมมือระดับนานาชาติ ที่อิตาลี ด้วยความสามารถพูดได้ถึง 5 ภาษา อิตาเลี่ยน, ไทย, อังกฤษ, ฝรั่งเศส และสเปน บวกกับใบหน้าสวยหวานทำให้กลบส่วนสูงเพียง 165 ซม.ที่อาจไม่สูงมากสำหรับการเป็นนางงามได้ เจ้าตัวบอกว่าก่อนหน้านี้เคยประกวดเวทีร้องเพลง “เดอะ วอยซ์” แต่เวทีนางงามถือเป็นครั้งแรกในชีวิต นางงามยุค 4.0 ไม่จำเป็นต้องสูงมากก็ได้ แค่มีความพอใจในสิ่งที่ตัวเองเป็นก็พอ ตั้งแต่เกิดไม่มีอะไรที่ขาด เลยอยากนำโอกาสนี้ไปทำประโยชน์ให้คนอื่น และการเป็นนางงามก็สามารถทำประโยชน์ให้คนอื่นได้
“พลอยชอบเรียนภาษามาก เป็นการเปิดสมองสื่อสารกับคนทั่วโลก ทำให้เราเข้าใจวัฒนธรรมของคนชาติอื่น และการเป็นคนมองโลกในแง่ดี ก็จะทำให้เราไปสู่จุดหมายที่ตั้งใจไว้ พลอยอยากช่วยเหลือเด็กๆ ที่ไม่มีบ้านอยู่ ไม่มีกิน ไม่มีการศึกษา ที่ผ่านมาเคยทำงานกับมูลนิธิเฮลป์ไทยของคุณลุงพลอยเอง ออกไปมอบยา และสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตให้เด็กๆ ที่บุรีรัมย์และเด็กๆ ในประเทศเนปาล พลอยเชื่อว่าถ้าพวกเขามีสิ่งเหล่านี้ก็จะสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้เหมือนๆ กับคนอื่น” พลอย กล่าว
ภายในงานยังได้จัดแสดงแฟชั่นโชว์พิเศษเครื่องแต่งกายต่างๆ ที่ผู้เข้าประกวดจะใช้สวมใส่ตลอดการเก็บตัว ประกอบด้วย ชุดกิจกรรม ชุดว่ายน้ำและ ชุดราตรี แสดงแบบโดย คณะมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2012-2017
จากนี้สาวงามทั้ง 40 คน จะเก็บตัวทำกิจกรรมในกรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 11-18 มิถุนายน 2561 โดยวันพุธที่ 13 มิถุนายน ผู้เข้าประกวดฯ จะเดินทางไปทัศนศึกษาสถานที่สำคัญในกรุงเทพฯ ในกิจกรรม “ไหว้พระ-ชมวัง-ล่องเจ้าพระยา” วันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน ประกวดรอบชุดว่ายน้ำที่โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ จากนั้นในวันที่ 20-27 มิถุนายน 2561 จะเดินทางไปเก็บตัวทำกิจกรรม ที่จังหวัดกระบี่ เพื่อถ่ายทำ วิดิทัศน์ส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดและร่วมเรียนรู้วัฒนธรรม และกลับมาเก็บตัว ที่กรุงเทพฯ เพื่อเตรียมฝึกซ้อม การประกวดรอบ พรีลิมินารี (ชุดว่ายน้ำ และชุดราตรี) ในวันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายน 2561 เวลา 19.00 น. และรอบตัดสินชิงมงกุฎจะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน เวลา 19.00-21.00 น. ที่รอยัล พารากอนฮอล์ และถ่ายทอดทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ช่อง 33 เวลา 22.45 น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง