มุ่งช่วยผู้ผลิตยานยนต์ในประเทศไทยลุยตลาดด้านดิจิตอล
การเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยจากการใช้งานโทรศัพท์มือถือทาง Facebook ได้จัดงาน "Mobile Moves Metal" ให้แบรนด์รถยนต์ต่างๆ และเอเจนซี่ในประเทศไทย โดยให้การสนับสนุนกับธุรกิจขนาดใหญ่เพื่อลุยตลาดกลยุทธ์ด้านดิจิตอลเตรียมพร้อมสู่อนาคตขอยุคแห่งโทรศัพท์มือถือ
อัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วของการใช้โทรศัพท์มือถือมีอิทธิพลต่อไลฟ์สไตล์ของคนไทย ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อกลยุทธ์การตลาดและเครื่องมือต่างๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ธุรกิจจำนวนมากรวมถึงธุรกิจยานยนต์ในไทยมีการปรับ เพราะในปัจจุบันการซื้อสินค้าของผู้บริโภคไม่เหมือนในอดีตและการปรับกลยุทธ์การตลาดให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้อย่างประสบความสำเร็จอย่างไรก็ตามองค์กรต่างๆ จำเป็นต้องพยายามเร่งพัฒนากลยุทธ์เชิงดิจิตอลอย่างรวดเร็วเพื่อสร้างผลกำไรจากโอกาสในการเติบโต ในประเทศไทยที่มีมูลค่าสูงถึง 318 พันล้านบาทในปัจจุบัน
มร. จอห์น แวกเนอร์ กรรมการผู้จัดการ Facebook ประเทศไทย กล่าวว่า "นวัตกรรมใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมยานยนต์ในไทย จากการที่ผู้ผลิตเริ่มปรับเปลี่ยนกระบวนการทางความคิด การคำนึงถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคและการใช้งานโทรศัพท์มือถือเป็นหลักมากขึ้นจากคนไทยใช้งาน Facebook ถึง 51 ล้านคนต่อเดือน ทำให้ Facebook เป็นแพลตฟอร์มในการค้นหาข้อมูลของคนไทย ทั้งนี้ ผู้บริโภคชาวไทยกำลังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการปฏิรูปสู่ดิจิตอล และ Facebook มุ่งมั่นที่จะช่วยให้ผู้ผลิตยานยนต์ในประเทศไทยก้าวล้ำหน้าอยู่เสมอ เพื่อผลักดันการเติบโตเชิงธุรกิจและเข้าถึงผู้บริโภคที่เชี่ยวชาญในการใช้โทรศัพท์มือถือได้มากขึ้น"
ในขณะที่ยอดขายยังคงเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับบริษัทยานยนต์อย่างต่อเนื่อง แบรนด์รถยนต์ได้เปลี่ยนแนวคิดด้านการตลาดแบบเดิมมาสู่การกำจัดอุปสรรคต่างๆ และทดลองใช้ฟีเจอร์ที่ล้ำสมัยบน Facebook บริษัท นิสสัน ประเทศไทย ต้องการลองใช้วิธีการที่แตกต่างในการผลักดันการพิจารณาการซื้อรถยนต์รุ่น นิสสัน เทียน่าในประเทศไทย และสร้างการเชื่อมต่อที่มีความหมายกับลูกค้าระหว่างทุกขั้นตอนของเส้นทางการซื้อผลิตภัณฑ์ ทางบริษัทจึงได้นำกลยุทธ์ที่ให้ความสำคัญกับโทรศัพท์มือถือเป็นอันดับแรก มาใช้กับแผนการตลาดทั้งหมด ด้วยการใช้งาน Facebook และ Instagram เพื่อการสื่อสารที่ปรับให้เข้ากับผู้บริโภคเป้าหมาย ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ นอกจากนี้ บริษัท นิสสัน ประเทศไทย ยังเป็นธุรกิจรายแรกที่ทดลองและประสบความสำเร็จในการใช้งาน "การดูหน้าเริ่มต้น" (Landing Page View) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Facebook ที่ช่วยปรับการแสดงโฆษณาต่อผู้ใช้งานที่มีแนวโน้มในการเยี่ยมชมหน้าเริ่มต้นที่กำหนดไว้ให้เหมาะสม ด้วยจุดมุ่งหมายเพื่อการคลิกลิงก์ โดยทางบริษัทได้สร้างยอดคลิกและการเยี่ยมชมที่มีคุณภาพสู่หน้าเริ่มต้นของเว็บรถยนต์ นิสสัน เทียน่า โดยเพิ่มอัตราการเปลี่ยนแปลงของการดูหน้าเริ่มต้นได้สูงถึง125 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งยังลดต้นทุนต่อการดูหน้าเว็บได้ถึง 93 เปอร์เซ็นต์
นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท นิสสัน ประเทศไทย กล่าวว่า "การใช้นวัตกรรมใหม่คือหัวใจสู่ความสำเร็จของนิสสันในประเทศไทย จึงได้ทดลองใช้โซลูชั่นใหม่ของ Facebook อย่างเต็มรูปแบบ และใช้เครื่องมือวัดผล เช่น Split Testing เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ช่วยให้ประสบความสำเร็จในการลดต้นทุนต่อครั้งของการเข้าชมเว็บไซต์"
การปรับเปลี่ยนความสำคัญกับผลิตภัณฑ์สู่ผู้บริโภคในปัจจุบัน แบรนด์ผู้ผลิตยานยนต์ส่วนใหญ่วางกลยุทธ์การเปิดตัวสินค้าที่โดดเด่นหรือในการแสดงสินค้าครั้งใหญ่ เช่น มหกรรมยานยนต์นานาชาติในประเทศไทย แต่แท้จริงแล้วผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่ได้ถูกกระตุ้นด้วยการเปิดตัวสินค้าหรืองานมหกรรมแต่พวกเขาถูกกระตุ้นให้ซื้อสินค้าได้ตลอดทั้งปี โดยมาจากมแรงจูงใจเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ในชีวิต เช่น การเริ่มต้นครอบครัวใหม่ เป็นต้น การเปลี่ยนไปให้ความสำคัญกับผู้บริโภคเป็นอันดับแรกส่งผลให้จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงขั้นตอนการวัดผล แทนที่ แบรนด์ต่างๆ จะนับจำนวนคลิกและการมีส่วนร่วมเหมือนที่ผ่านมา แบรนด์ควรให้ความสำคัญกับผลลัพธ์ที่มีความหมายมากกว่านั้น ฟีเจอร์ Conversion Lift ของ Facebook ช่วยให้แบรนด์ยานยนต์ต่างๆ สามารถวัดผลลัพธ์ที่เป็นจริงได้ เช่น จำนวนครั้งในการเยี่ยมชมเว็บของตัวแทนจำหน่าย หรือจำนวนครั้งของการทดลองขับรถ เป็นต้น
มร. จอห์น แวกเนอร์ กล่าวเสริมว่า "ไม่ว่าจุดประสงค์ของคุณจะเป็นการสร้างแบรนด์ การประกาศวิสัยทัศน์ของคุณให้โลกรู้ การให้ความช่วยเหลือผู้ซื้อในการเลือกซื้อรถหรือการสร้างความจงรักภักดีกับลูกค้าที่ซื้อรถไปแล้วนั้น ได้มีการเปลี่ยนแปลงจากการสร้างสรรค์แคมเปญแบบเดิมและให้ความสำคัญกับสินค้าเป็นหลัก มาสู่การสร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมาย "อย่างสม่ำเสมอ" กับผู้บริโภคคือหัวใจสำคัญสู่ความสำเร็จ ซึ่งหมายถึงการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ตามสิ่งที่ลูกค้าใช้เวลาด้วยมากที่สุด นั่นก็คือโทรศัพท์มือถือนั่นเอง"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง