สบายกาย-ใจ สไตล์หมู่บ้านชาวประมง

       เพราะความสุขของการท่องเที่ยวคือการพักผ่อนชาร์ตพลัง ซึ่งแหล่งเติมพลังตามความต้องการนั้นมีให้เลือกสรรหลากหลาย ทั้งภูเขา ป่าไม้ ชายทะเล และดูเหมือนอย่างหลังสุดจะได้รับความนิยมอันดับต้นๆ ยิ่งถ้ามีความเป็นส่วนตัวด้วยแล้วเชื่อแน่ว่าตอบโจทย์ของหลายๆ คน อย่าง "รีสอร์ท เดอ พาสคานี (Resort de Paskani)" ที่ซ่อนตัวริมชายหาดเขาตะเกียบ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่ากันว่าอยู่บนทำเลบรรยากาศสุดเอ็กคลูซีฟ เงียบสงบ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันรองรับทุกไลฟ์สไตล์การพักผ่อน ทั้งแบบคู่รัก ครอบครัว หรือแก๊งค์เพื่อนเลิฟ จึงได้รับการปักหมุดเช็คอินความฟินอยู่เรื่อยๆ

ปณิธิ เชาว์วิศิษฐ

      ในฐานะผู้พัฒนารีสอร์ท ปณิธิ เชาว์วิศิษฐ บอสใหญ่บริษัท เจ เอ โอ เมเนจเม้นท์ จำกัด บอกเล่าแรงบันดาลใจในการผุดที่พักสุดชิคว่า หัวหินเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยังคงครองใจนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ และชายทะเลหัวหินยังคงเป็นสถานที่สุดฮิตที่ยังได้รับความนิยมสูง ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ เพียง 2 ชั่วโมงครึ่ง จึงเป็นเหตุผลลงตัวให้เปิด รีสอร์ท เดอ พาสคานี เลียบชายหาดเขาตะเกียบ ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ วางคอนเซ็ปต์เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ความเงียบสงบ ท่ามกลางบรรยากาศอันแสนอบอุ่น โรแมนติก สไตล์ คอสทอล เอธนิค ชิค ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากหมู่บ้านชาวประมงเขาตะเกียบ ภายใต้แนวคิด ไวท์ วิลเลจ บาย เดอะ ซี หรือ “หมู่บ้านสีขาวริมทะเล” 

ห้องพักขนาดมาตรฐาน

มุมสบายที่ห้องพูลแอคเซส

      ดังนั้น การออกแบบโครงการจึงมีบรรยากาศเหมือนหมู่บ้านที่ประกอบไปด้วยกลุ่มบ้านเล็กๆ ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านกัน ในโทนสีฟ้า ขาว ตั้งเรียงรายอยู่รอบสระว่ายน้ำที่เปรียบเสมือนอ่าวและท่าเรือเชื่อมออกสู่ท้องทะเลอันกว้างใหญ่ มองเห็นเส้นขอบฟ้าที่ปลายทะเล มีการเล่นระดับทางเดินและเปลี่ยนมุมมองต่างๆ เพื่อให้เกิดความน่าสนใจ ทั้งจุดแวะพักนั่งชมวิว หรือถ่ายรูป โดดเด่นด้วยการประยุกต์ใช้วัสดุจากธรรมชาติหรืองานแฮนด์เมดฝีมือคนท้องถิ่น เช่น ท่อนไม้ เชือก เครื่องจักสาน ผ้าทอมือ เปลือกหอย ปะการัง กิ่งไม้และข้าวของเครื่องใช้ของหมู่บ้านที่อยู่ริมทะเล

ผ่อนคลายสบายอารมณ์

       นอกจากนี้ ยังใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อมเพราะทางรีสอร์ทได้สนับสนุนศิลปินในพื้นที่ ในการจัดกิจกรรมเดินเก็บเศษวัสดุจากชายหาดแล้วนำมาประดิษฐ์เป็นชิ้นงานสำหรับใช้ประดับตกแต่งอาคารสถานที่ ทั้งยังเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกรักษ์ทะเล ส่วนพื้นที่หลังคาทั้งหมดของรีสอร์ทติดตั้งชุดแผงรับแสงอาทิตย์เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้เองในโครงการ จัดเป็นพลังงานสะอาด ปราศจากมลพิษ ช่วยลดการใช้ไฟฟ้าจากการไฟฟ้าฯ ในช่วงเวลากลางวันได้เป็นอย่างมาก มีการแบ่งแยกประเภทขยะก่อนทิ้งเพื่อช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับชุมชน และเป็นการสร้างจิตสำนึกรับผิดชอบต่อธรรมชาติและส่วนรวมแก่บุคลากรของรีสอร์ท

ออกแบบอย่างมีสไตล์

     ในส่วนของห้องพักจออกแบบให้สามารถมองเห็นวิวทะเลทุกห้อง มีระเบียงส่วนตัวสำหรับนั่งรับลมชมทะเล รับแสงธรรมชาติ มีให้เลือกเอนกาย 6 แบบด้วยกัน ได้แก่ ดีลักซ์ รูม เทอร์เรซ , พูลไซด์, พูลวิว, พูลแอคเซส, โอเชี่ยน วิว และห้องสวีทส์ ต่างได้รับการรังสรรค์เพื่อให้ผู้เข้าพักได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ในห้องพักอันแสนสบายและอิ่มเอมกับความสุขเหมือนการพักผ่อนที่บ้านส่วนตัว ภายในห้องพักเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน โดยเฉพาะสระว่ายน้ำระบบเกลือ, เกม รูม เป็นต้น

ติดสระว่ายน้ำระบบเกลือทุกห้อง

         และเพื่อเติมเต็มวันพักผ่อนอย่างแท้จริง ยังมี ซาลูน เดอ พาสคานี เป็นทั้งร้านอาหารและร้านกาแฟสุดเท่ พร้อมเสิร์ฟอาหารแนว โลคอล ทวิสต์ โฮมสไตล์ ฟู้ด มีเมนูไฮไลต์อย่าง เอ้ก เบเนดิกต์ เมนูอาหารเช้าสไตล์อเมริกัน พิถีพิถันคัดสรรไข่ไก่จากแฮปปี้ฟาร์มที่เลี้ยงแบบให้อิสระ สัมผัสความนุ่มละมุนของ โพช เอ้ก ผสมผสานรสชาติซอสที่ปรุงรสขึ้นมาเป็นพิเศษเฉพาะที่รีสอร์ทเท่านั้นและสลัดที่ใช้ผักจากฟาร์มออร์แกนิค หรือเมนูลิงกวินี่แกงคั่วปูม้าใบชะคราม ใช้วัตถุดิบที่มีอยู่ในชุมชนท้องถิ่นโดยเชฟผู้เชี่ยวชาญนำมาประยุกต์สร้างสรรค์เป็นเมนูที่อร่อยลงตัว

ลิงกวินี่แกงคั่วปูม้าใบชะคราม

      เอาเป็นว่าวางโปรแกรมเที่ยวครั้งต่อไป ลองค้นข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.paskani.com/th และ www.facebook.com/paskanihuahin