เสน่ห์แห่ง 'เนินทรายทตโตริ'  

 

          เมื่อสันทรายปะทะเกลียวคลื่น สู่ดินแดนเวิ้งว้าง ณ ทตโตริ เลาะเลียบชายฝั่งทะเลญี่ปุ่นทางทิศตะวันตกของดินแดนอาทิตย์อุทัย ไกลจากตัวเมืองทตโตริประมาณ 16 กิโลเมตร คุณจะพบสถานที่สุดมหัศจรรย์ซึ่งเป็นของขวัญจากธรรมชาติ ก่อกำเนิดจากสายลม สายน้ำ และแสงแดด เป็นเนินทรายแสนกว้างใหญ่ ที่เมื่อใดที่ย่างเท้าเข้าไปจะเหมือนหลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่ง

 

 

          “เนินทรายทตโตริ” (Tottori Sand Dunes หรือ Tottori Sakyu) ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติซันอินไคกัง ในเมืองทตโตริ ในภูมิภาคชูโงะคุ ถือเป็นภูมิทัศน์ทางธรรมชาติที่เม็ดทรายและสายลมผสมผสานกันอย่างลงตัว เริ่มจากการที่ทรายใกล้แม่น้ำเซนได ถูกชะล้างเมื่อไหลลงสู่ทะเลแล้วกระแสน้ำในมหาสมุทรก็พัดพาไปอยู่ตามแนวชายฝั่งนานนับพันปี ก่อเกิดเป็นเนินทรายกว้าง 2 กิโลเมตร ยาว 16 กิโลเมตร และมีความสูงถึง 50 เมตร ตรงกลางของเนินทรายมีแอ่งน้ำ หรือโอเอซิส ซึ่งจะพบในช่วงฤดูหนาว ถือเป็นเนินทรายที่มีขนาดใหญ่และโด่งดังมากที่สุดของประเทศญี่ปุ่น เสน่ห์ของเนินทรายแห่งนี้คือความงามที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เป็นผลจากกระแสน้ำและลมที่พัดปะทะผืนทราย รอยริ้วคลื่น และรอยริ้วคล้ายน้ำไหล ที่ไม่เหมือนเคยเหมือนเดิม ช่างแสนเย้ายวนให้ผู้ที่แวะเวียนมาต้องหวนกลับมาอีก 

 

 

          ยิ่งเมื่อได้เดินท้าแรงโน้มถ่วงของโลกขึ้นไปตามเนินทรายที่ลาดชันประมาณ 30 องศา ไปยืนบนจุดสูงสุดคุณจะรู้สึกเหมือนได้เติมพลังให้ชีวิต เพราะเบื้องหน้าที่เห็นคือท้องทะเลสีครามไกลสุดสายตาตัดกับท้องนภาอันกว้างใหญ่ แต่ละยอดของเนินทรายจะเห็นวิวชายฝั่งทะเลแตกต่างกัน สามารถเดินสำรวจได้ทุกทิศทาง หากแวะมายามอาทิตย์อัสดงจะสวยงามยิ่งนัก สูดกลิ่นไอทะเล หลับตาให้สายลมอ่อนปะทะใบหน้า ปล่อยจิตใจให้ล่องลอย เอนซบไหล่คนข้างๆ หรือจะโอบกอดตัวเอง พลันมองดวงอาทิตย์กลมแดงค่อยๆ ลับขอบฟ้า สุดแสนโรแมนติกจนแทบอยากหยุดเวลาไว้ให้นานแสนนาน หากใครมีเวลาสามารถแวะมายามค่ำคืน นั่งแหงนหน้ามองดาวที่ส่องแสงทอประกายกลางความมืดมิด ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาไหนล้วนงดงามคุ้มค่าแก่การรอคอยทั้งสิ้น 

 

 

          นอกจากวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแล้ว อีกหนึ่งไฮไลท์ของการมาเที่ยวเนินทรายทตโตริก็คือการ “ขี่อูฐ” ชมเนินรอบทราย กิจกรรมสุดชิคที่ห้ามพลาด แค่มีผ้าสะระบั่นโผกพร้อมแว่นตาดำเก๋ๆ แค่นี้คุณจะได้แชะภาพสวยรัวๆ ประหนึ่งไปเที่ยวตะวันออกกลางก็ไม่ปาน สำหรับค่าบริการนั้นไม่แพงมาก คนละ 1,300 เยน ถ้าขี่ 2 คนจะอยู่ที่ 2,500 เยน (แต่ต้องเป็นผู้ใหญ่กับเด็ก หรือเด็กกับเด็กเท่านั้น) แต่ถ้าแค่อยากขึ้นนั่งบนอูฐเฉยๆ จะอยู่ที่ 500 เยน และ 100 เยน สำหรับการยืนถ่ายภาพคู่อูฐ ส่วนใครที่เป็นสายสุขภาพสามารถเล่นโยคะบนเนินทรายในช่วงเช้าเย็น ทำสมาธิท่ามกลางสายลมและแสงแดด สำหรับผู้ที่รักความท้าทายสามารถเล่นกระดานทรายที่คล้ายกับกระดานหิมะ หรือร่อนร่ม 

 

 

          นอกจากนี้ยังสามารถขึ้นไปบน “ดาดฟ้าชมวิวที่ศูนย์ซาคิว” เพื่อชมและเก็บภาพมุมสูงโดยรอบของเนินทรายอีกด้วย โดยเนินทรายทตโตริเปิดให้เข้าเยี่ยมชมทุกวันโดยไม่เก็บค่าเข้าชม ถึงแม้จะเป็นฤดูหนาวที่หิมะสีขาวปกคลุมเนินทรายก็ยังคงมีเสน่ห์และงดงาม ไม่แปลกใจที่เนินทรายทตโตริแห่งนี้จะเป็นสถานที่โปรดของ “โชจิ อุเอดะ” ช่างภาพชื่อดังของโลก ซึ่งมีบ้านเกิดอยู่ที่เมืองซาไคมินาโตะ ใน จ.ทตโตริ ซึ่งโด่งดังจากซีรีส์ภาพพอร์ตเทรตที่เนินทราย ในแนว Surrealism (เหนือจริง) ที่สร้างความประทับใจให้ผู้คนทั่วโลก จนชาวต่างชาติเรียกสไตล์นี้ว่า อุเอโดะ-โช และทำให้เนินทรายทตโตริกลายเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น เขาได้จัดแสดงภาพถ่ายไว้ที่พิพิธภัณฑ์ภาพถ่าย โชจิ อุเอดะ อีกด้วย 

 

 

          ใครที่อยากมาสัมผัสบรรยากาศเหมือนอยู่ในทะเลทรายแต่เสียค่าใช้จ่ายไม่แพงสามารถเดินทางมาเยี่ยมชมเนินทรายที่เมืองทตโตริ ประเทศญี่ปุ่น ได้ง่ายที่สุดในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงกว่า ด้วยสายการบิน เอเอ็นเอ เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีสายการบินที่บินตรงจากประเทศไทย จึงต้องไปขึ้นเครื่องที่สนามบินฮาเนดะ กรุงโตเกียว ในราคาหนึ่งหมื่นเยน เป็นต้นไป ไปลงที่สนามบินทตโตริ หรือที่เรียกกันว่าสนามบินโคนัน ซึ่งตั้งตามการ์ตูนยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ผลงานของ อาจารย์โกโช อะโอยะมะ ที่เป็นคน จ.ทตโตริ หากใครไม่สะดวกนั่งเครื่องบินสามารถเดินทางโดยรถบัสด่วนปรับอากาศจากโตเกียว ราคาหมื่นเยน ใช้เวลาประมาณ 12 ชั่วโมง สำหรับชินคันเซน หรือรถไฟด่วน Limited Express สาย JR โทไก ออกจากกรุงโตเกียวผ่านสถานีชินโอซากา หรือสายจิชูเกียวโตถึงสถานีทตโตริ ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง ราคาประมาณ 19,000 เยน ใช้เวลา 5 ชั่วโมง สำหรับผู้ที่อยู่เมืองใกล้เคียงสามารถเดินทางไปด้วยรถบัสหรือรถไฟจะเหมาะสมกว่า