หลบรสจำเจไปชิมอเมริกันสรรสร้างใน "บังเกอร์"

ชุดต้อนรับสารพัดรูปแบบ

          ความที่สหรัฐอเมริกาเป็นดินแดนแห่งเสรีภาพ อีกทั้งผู้คนหลากเชื้อชาติมากหน้าหลายตา อาศัยอยู่รวมกันภายใต้กฎกติกาของความเป็นอเมริกัน เหล่านี้ได้สร้างสรรการกินอยู่ให้มีความหลากหลาย และผสมผสานกันอย่างลงตัว เหมือนกับร้านอาหารสไตล์อเมริกัน “บังเกอร์ (BUNKER)” สาทรซอย 12 ที่จะพาไปทำความรู้จักในวันนี้ เป็นร้านอาหารบรรยากาศสบายๆ ตามวิถีชาวเอมริกันที่ชอบความอิสระ แต่ใสใจในกรรมวิธีการปรุงและรสชาติ แบบ “ไฟน์ ไดนิ่ง” แต่ไร้พิธีรีตองให้ต้องนั่งเกร็ง!!    

 เป็ดเนื้อหนานุ่ม

        ที่แน่ๆ เป็นความแปลกใหม่อย่างที่คุณจะคาดไม่ถึง ด้วยเชฟหนุ่มชาวอเมริกันเชื้อสายฟิลิปปินส์ อาร์นี่ มาร์เซลลา ปลุกปั้นฝีมือเรื่องการทำอาหารอย่างชำนาญจากนิวยอร์ค รังสรรค์แต่ละจานร่อยจากแนวคิด “Melting Pot” คำที่มีการใช้เมื่อพูดถึงประเทศอเมริกา อันหมายถึงการเป็นประเทศที่มีคนหลายเชื้อชาติและวัฒนธรรมหล่อหลอมรวมกัน ไปกันได้ดีกับชื่อร้าน “บังเกอร์” แปลตามตัวก็คือ “หลบภัย” ที่ใครอยากหลีกหนีความจำเจก็เชิญมาหลบหรือฝังตัวอยู่ที่นี่รับรองว่าได้ตื่นลิ้นทุกมื้อ...ว่ากันอย่างนั้น 

บรรยากาศชวนค้นหาในปูนเปลือยกับอิฐ

         ตึกขนาดย่อม 3 ชั้น ด้านนอกยังคงสภาพเป็นปูนดิบๆ ราวกับผ่านช่วงสงครามอย่างที่หุ้นส่วนร้านตั้งใจตามคอนเซ็ปต์ชื่อร้าน ส่วนภายในได้ เคลลี่ เวทเล่ย์ (Kelly Wheatley) นักออกแบบชาวอเมริกันผู้มีชื่อเสียงด้านการออกแบบจากวัตถุหรือของเก่าแบบสุดโต่งมาออกแบบให้กลายเป็นร้านอาหารสุดเท่ห์ ด้วยดีไซน์ที่มีความดิบของผนังปูนเปลือยกับอิฐ และโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยเฟอร์นิเจอร์สีสันสดใสที่สั่งทำขึ้นเฉพาะ โคมไฟดีไซน์เก๋ๆ ให้แสงสลัวๆ แต่อบอุ่น บรรยากาศย้อนยุคเหมือนหลุดมาอยู่อีกโลกหนึ่งที่ไม่มีข้อกำหนดที่น่าอึดอัด ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย

อาร์นี่ มาร์เซลลา

         และแม้จะเป็นร้านน้องใหม่เพิ่งเปิดให้บริการได้เพียงปีเศษ แต่ก็ถูกจัดให้อยู่ในมิชลิน เพลท โดยมิชลิน ไกด์ ของกรุงเทพฯ ปีที่แล้วอย่างไม่ยาก อาหารมีตั้งแต่ทาปาสคำเล็กๆ ไปจนถึงจานหลักทั้งขนาดปกติหรือแบบแชร์กัน 3-4 คน โดยเชฟจะเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพ อาทิ หอยนางรมอีเกิล ร็อค จากอเมริกา เนื้อวากิวจากออสเตรเลีย เห็ดทรัฟเฟิลดำเพอริกอร์ด ชีสชั้นดีจากฝรั่งเศส สเปน และอิตาลี และมื้อนี้เชฟสร้างความพิเศษไม่ให้จำเจด้วยการแนะนำเมนูใหม่ล่าสุดแบบชุด 5 คอร์ส และ 9 คอร์ส 

ค็อกเทลสีหวานรสซาบซ่า

         แต่ก่อนจะถึงคอร์สต่างๆ ที่เลือกไว้ เขาจะต้อนรับเราด้วยของกินเล่นสารพัดตามธรรมเนียมอเมริกัน เสิร์ฟมาเป็นขบวนไม่ว่าจะเป็นหอยนางรมจากซีแอตเทิลในฟองอัลมอนด์, แตงโมคำเล็กๆ ท็อปด้วยผักชีและพริก, ดอกไม้ทอด, สแกลลอปในน้ำมันโหระพา เป็นต้น เสร็จสรรพถ้าสั่งเมนู 5 คอร์ส ตามแนวคิด “แบงค็อก โลคอล มาร์เก็ต เมนู” ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการย่ำตลาดสดหลายๆ ที่ของกรุงเทพฯ เช่น อตก.,สามย่าน มารังสรรค์เป็นจานเด่น จะเริ่มจากของกินเล่น “ปลาชิมาอาจิ” ใส่พริกดอง และผักตามฤดูกาลของไทย หรือจะเป็น “แจมบาลาย่า” คล้ายๆ โจ๊กหรือข้าวต้มเคี่ยวจนข้น มีกุ้งน้ำจืดตัวโตเสิร์ฟมาบนข้าวผัดในน้ำซุปจนนุ่มรสชาติดีทีเดียว ส่วนจานหลักที่ชิมแล้วแทบไม่อยากวางช้อนส้อมยกให้ “ปลากะพงแดงย่าง" ที่ปรุงอย่างพิถีพิถันมาพร้อมกับส้มโอและมะเขือเทศรมควัน หรือจะเป็น “เป็ดเนื้อหนานุ่ม" หนังมีมันแทรกเล็กน้อย เพราะหมักเกลือแล้วนำไปผ่านกระบวนการทำให้เนื้อสุกนุ่ม ราดซอสที่ปรุงจากบีทเปรี้ยวๆ หวานๆ เข้ากับเนื้อเป็ด ท้าพิสูจน์แทบไม่มีกลิ่นสาบให้ระคายอรรถรสของมื้ออาหาร ตบท้ายด้วยของหวานเบาๆ อย่าง “แครอทเค้ก” แสนอร่อยแนวเฮลธ์ตี้

สลัดผักรวมจากท้องถิ่น

         ส่วนเมนู 9 คอร์สเริ่มจากกุ้งแดงเสิร์ฟบนอาโวคาโดและขนมปัง ต่อด้วย “สลัดผักรวมจากท้องถิ่น” เห็นหน้าตาสลัดจานนี้ที่ชวนทึ่งในความสร้างสรรค์แล้ว พอได้รู้ว่ามีส่วนประกอบของผักเล็กฟักน้อยร่วม 30 ชนิดยิ่งอยากร้องว้าว...ออกมาดังๆ เพราะไม่รู้ว่าเชฟไปเสาะหามาจากไหน เช่น ส้มโอ, ถั่วฝักยาว, หน่อไม้ฝรั่ง, แครอท, มะกรูด, ผักชี, ดอกเมล่อน, หัวไชเท้า, บีท, งา, พริกแดง เป็นต้น ส่วนการปรุงก็ช่างครีเอท ถ้าเป็นผักสดเขาจะบีบมะนาว แต่ถ้าผักย่างจะใส่แหนมและกระเทียม ใครไม่ชอบกินผักถ้าได้ลองอาจเปลี่ยนใจมารักจานนี้ก็ได้ ยังมีลิ้นวัวและหอยทากย่าง, กุ้งน้ำจืด, ปลากะพงในซุปสไตล์แมนฮัตตัน, จานหลักคือเนื้อนิวยอร์คสตริป และของหวาน 3 อย่าง      

แครอทเค้ก

         เชฟบอกว่าแทบทุกคนที่พอได้เห็นหน้าตาอาหารและลิ้นสัมผัสรสชาติแล้วประหลาดใจในความสร้างสรรค์ ถึงกับอยากเชิญมานั่งร่วมโต๊ะแล้วถามใถ่ทุกขั้นตอน เอาเป็นว่าถ้าอยากสัมผัสบรรยากาศแบบนี้ก็ลองแวะไปสร้างความคุ้นเคยกันได้ ร้านเปิดบริการทุกวัน เวลา 17.30-24.00 น.(ครัวปิดเวลา 22.30 น.) แบ่งพื้นที่ให้บริการอย่างเป็นสัดส่วน ทั้งพื้นที่นั่งรับประทานอาหารรวม และห้องส่วนตัวไว้จัดปาร์ตี้เล็กๆ 20-30 คน เดินทางเพียงไม่กี่นาทีจากถนนสาทรเหนือ (ซอยสาทร 12) และอยู่ไม่ไกลจากสถานีบีทีเอส ช่องนนทรี สำรองที่นั่งหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร 09-2563-9991 หรือ อีเมล: [email protected]