นั่งรถไฟขบวนพิเศษไปเที่ยว สวนนงนุช

วันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม 2560 เวลา 07.28 น. สถานีลาดกระบัง ... ใกล้บ้าน จอดรถทิ้งไว้ที่ลานจอดของ

แอร์พอตลิ้ง ...เราซื้อตั๋วไว้เมื่อวันศุกร์ เพราะไม่สามารถจองทางเน็ตได้ (เขาให้จองล่วงหน้า 5 วัน) เหลือ 2 วันสำหรับซื้อ(จองที่นั่ง)จากสถานีรถไฟใกล้บ้าน ...เหลือ 7 ที่นั่งเท่านั้น เราไป 3 คน แยกนั่งคนละที่

 

บรรยากาศบนรถไฟขอบอกเลยว่า สนุกสนาน เหมือนไปเป็นหมู่คณะเลย (สำหรับโบกี้ที่เราไปนะ) ... โบกี้ของเรานี่เหมือนไปทัศนะศึกษาเลย ถ่ายรูป แลกเปลี่ยนพูดคุยกันเหมือนคุ้นเคย ทุกเพศทุกวัย บางคนมาไกลจากมาเลเซีย คุณป้านายพลที่เกษียณราชการ คุณพ่อพาลูกชายเที่ยว น้องนักศึกษามากับเพื่อน ส่วนอีกคู่คุณแม่มากับลูกสาว ฯลฯ

หมุดของเราอยู่ที่ "สวนนงนุช" ที่เขาบอกว่า... เป็นสวนที่สวยที่สุดติด 1 ใน 10 อันดับสวนสวยโลก และยังเป็นหนึ่งในสวนพฤกษศาสตร์เขตร้อนที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชียอีกด้วย ... อันที่จริง สวนนงนุชพัทยาเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2523 (ค.ศ.1980) ต่อมาทายาทคนที่ 2 คือคุณกัมพล ตันสัจจา เข้ามาบริหาร และพัฒนาภจนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตติดอันดับ ปัจจุบันสวนนงนุชพัทยา มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 1,700 ไร่ แบ่งเป็นเนสเซอรี่ต้นไม้ 800-900 ไร่ ที่เหลือเปิดให้บริการทั้งหมด โดยมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาใช้บริการวันละกว่า 8,000 คน (เขาว่าอย่างนั้น)

เล่าเรื่องเดินทางกันต่อ เจ้าหน้าที่บนรถไฟได้แจ้งไว้แล้วว่าจะมีรถของสวนมารอรับ ซึ่งเราสามารถใช้บริการของเขาได้

เดินทางถึงสถานีนงนุชตรงเวลา 9โมงกว่าๆเจ้าหน้าที่ของสวน พร้อมด้วยรถชมวิว รอรับเราที่สถานีแล้ว ... ขึ้นรถกันเลย

ระหว่างทาง(ประมาณ 800 เมตร) เจ้าหน้าที่ ได้อธิบายถึงแพคเกจพิเศษที่สวนนงนุชจัดควบคู่ไปกับรถไฟขบวนพิเศษนี้ตลอดระยะเวลาทั้ง 6 เดือน (สิ้นสุดพร้อมการทดลองเปิดบริการของการรถไฟ) ... ในราคาคนละ 450 บาท โดยสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับ(รวม) คือ ค่าผ่านประตู(ปกติ 150 บาท)  ชมการแสดงร่วมสมัย 4 ภาคและการแสดงช้างแสนรู้/ช้างโชว์ (ปกติ 500 บาท) นั่งรถชมรอบสวน 1 รอบ (ปกติ 60 บาท) และแถมเรียนทำอาหารฟรี (ปกติ 400 บาท) ... แต่ถ้าใครไม่ซื้อแพคเกจ ก็สามารถนั่งรถเข้าไปภายในสวนได้ เสียค่าผ่านประตู 150 บาท จากนั้นลูกค้าก็แยกชมส่วนตามอัทธยาศัย
พวกเราที่เดินทางไปโดยรถไฟขบวนนี้กันมีทั้งหมด 22 คน(จากทั้ง 3 โบกี้) ตกลงซื้อแพคเกจนี้กัน ...ตามเรามาดูภายในสวนนงนุช 1 กันเลย

รอบ 10.30 น. โรงละครนงนุชเธียร์เตอร์  เหมือนเข้าไปในโรงภาพยนตร์เลยค่ะ แอร์เย็นฉ่ำ ......ไปชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย และศิลปะไทยร่วมสมัย พร้อมกันเลย
เริ่มจากการแสดงที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์และศิลปะของไทยทั้ง 4 ภาค, การแสดงขบวนแห่นาค (แห่กองยาว) ที่วนขึ้นมาบนเวทีกันเลยทีเดียว, ชกมวยไทย (ชกได้สมจริงมากๆ) , อัปสราฟ้อนรำ , ตีกลองสะบัดชัย กลองตุ๊ก กลองทัต กลองจิ่ง กลองเพลน กลองแอว  และอุปกรณ์จังหวะอื่นๆ(ฉิ่ง ฉาบ ฆ้อง) มาตีผสมผสานให้เกิดจังหวะที่เล้าใจ, วัฒนธรรมร่วมสมัยประเพณี 4 ภาค , ยุทธหัตถีบนหลังช้าง ฯลฯ ...การแสดงแต่ละชุด อลังการมากๆ แสง สี เสียง เร้าใจคนดูเป็นอย่างยิ่ง  เรียกว่าไม่อยากกระพริบตากันเลยทีเดียว ... 

ไปดูการแสดงช้างแสนรู้(โชว์ความสามารถ)กันต่อ ซึ่งอยู่ภายในโรงละครนี่แหละ แต่คนละฝั่งกัน(เดินออกมาก็ตรงไปเลย) ... เดินตามเขาไป ไม่ไกล

จับจองหาที่นั่งเหมาะๆ ... ช้างมาแล้ว... ดูสิว่าช้างจะโชว์ความสามารถพิเศษอะไรให้เราดูบ้าง ? มีโชว์เล่นฟุตบอล ปา(เป้า)ลูกโปร่ง โยนโบล์ลิ่ง เล่นห่วงยาง(ฮูลาฮูป) ชู้ตลูกบาส วาดภาพบนเสื้อ เหยียบลูกโป่ง นักท่องเที่ยวนอนให้ช้างเดินข้าม

ได้เวลาไปทำอาหารกันแล้ว (เริ่มหิว) ... เจ้าหน้าที่ พาเรานั่งรถไปชมสวนนงนุช 2 กัน พร้อมกับให้ข้อมูลต่างๆของสวนตลอด 2 ข้างทางที่เราผ่านไปยังจุดหมายสุดท้าย (ครัวทำอาหาร) ...มาดูกันว่ามีอะไรระหว่างทางบ้างนะ ? ... รูปปั้นผลไม้ขนาดใหญ่(มีร้านขายผลไม้ด้วย) มีที่เล่นน้ำสงกานต์ ลอยกระทง ลานคอนเสิร์ต(จัดเลี้ยงได้) ห้องประชุม สัมมนา จัดงาน  เลี้่ยงต่างๆ ห้องอาหารสำหรับจัดบุฟเฟ่ต์ผลไม้(ทัวร์จีนมาใช้บริการไม่ต่ำกว่า 1000-3000 คนต่อวัน) สวนเกษตรปลอดสารพิษ รูปปั้นผลไม้นานาพันธุ์ (พร้อมต้นจริงอยู่ข้างๆ) โรงหมักปุ่ยชีวภาพเพื่อใช้ รดผักผลไม้ โรงหั่นผักส่งห้องอาหารพร้อมให้รับประทานได้เลย

...ขออธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับสวนนงนุช 2 นิดนึงนะ เป็นอีกหนึ่งจุดที่เปิดให้บริการกับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะทัวร์จีน และชาวต่างชาติ ให้เข้ามาใช้บริการ(บุฟเฟ่ต์ผลไม้ ทำอาหาร ฯ) โดยจะยังไม่ได้เปิดเป็นสาธารณะมากนัก แต่จะเปิดบริการให้กับลูกค้าที่เป็นหมู่คณะ หรือองค์กรต่างๆ ได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้ ซึ่งจะมีการทำอาหาร ปลูกผัก น้ำหมักผลไม้ ปั้นดิน(สอนโดยช่างสิบหมู่)

"กิจกรรมทำอาหาร" วันนี้เชฟสอน 2 เมนู ...สลัดโรล กับแกงเขียวหวานไก่ ... ทำกันเลย เสร็จแล้วเราจะได้กินข้าวเที่ยงจากฝีมือของเราเอง ...เชฟสอนเพื่อให้เราไปต่อยอดได้ ...อย่างสลัดโรลเนี่ย เราไม่รู้มาก่อนเลยว่า มีเทคนิคและวิธีการม้วนที่จะทำให้สลัดที่เราม้วนออกมาสวยงามได้อย่างไร แต่วันนี้เราทำได้สวย เชฟยังชมเลย อร่อยค่ะเมื่อกินคู่กับน้ำสลัดที่เชฟปรุงสำเร็จไว้แล้ว เข้ากันอย่างมากเลยโดยเฉพาะน้ำสลัดธัญพืช (รู้สึกได้ถึงกลิ่นถั่ว โหระพา กระเทียม ฯ) ... ส่วนแกงเขียวหวานนี้ก็เรียนรู้ว่าเราจะต้องทำอย่างไร ใส่อะไรก่อน หลัง ซึ่งเชฟเตรียมส่วนผสมไว้อย่างลงตัวสำหรับ 1 ถ้วย (อร่อยที่สุดเลย ฝีมือการทำของเรา)

ก่อนรถจะมารับ ไปชมโรงปั้นดินกันก่อน อยู่ถัดจากเรือนครัวไปนิดเดียว เดินเชื่อมถึงกัน ...มีรูปปั้นดินเผามากมาย หลายแบบ หลากสไตล์ ไม่เหมือนใคร บางชิ้นมีสลักชื่อ(จากนักเรียนที่มีเรียนรู้ ซึ่งเขาจะปั้นจากจินตนาการของตัวเอง อยากปั้นอะไรก็คิดกันขึ้นมา) ... อนาคตเขาว่าจะเปิดเป็นพิธภัณฑ์ด้วย

ได้เวลาต้องกลับไปที่สวนนงนุช 1 กันแล้ว รถมาแล้ว เจ้าหน้าที่เป็นไกด์นำเที่ยวให้เราอีกเช่นเคย ...ต่อจากนั้น ชมสวนต่อผ่านต้นปรง และปาล์ม (ที่สวนนงนุชแห่งนี้เป็นแหล่งที่รวบรวมพันธุ์ปรงและปาล์มมากที่สุดในโลกมีประมาณ 1,000 กว่าชนิด) , ผ่านสวนจำลองสโตนเฮ้นจ์ , สวนปาล์มโลกฝั่งตรงข้ามมีต้นมะพร้าวทะเลด้วย(ลูกจะเหมือนก้นสาว) , ต้นตะโก , สวนพฤกษศาสตร์, แปลงเพาะตะบองเพชร , สวนชวนชม ฯลฯ

สวนไดโนเสาร์ คือจุดต็อปรถให้เราถ่ายรูป เดินเล่นกัน และถ้าหากว่าจะกลับไปยังจุดนัดพบ เราสามารถขึ้นรถคันไหนก็ได้ เพียงแสดงบัตรผ่าน (450 บาท) ที่เราซื้อมาให้คนขับดูก็ขึ้นได้เลย

เขาบอกว่า... สวนไดโนเสาร์แห่งนี้เป็นไฮไลท์ของที่นี่เลย มีไดโนเสาร์(จำลอง) หลากหลายสายพันธุ์ เล็ก ใหญ่ มากมายจริงๆ เหมาะอย่างยิ่งที่ครอบครัวจะพาลูกหลานมาเที่ยวชม แถบบริเวณใกล้จุดจอดรถ(แวะรับ-ส่ง)ชมชม จะมีอาคารกระจก 2 ชั้น ซึ่งชั้นบนขายอาหาร ชั้นล่างขายเครื่องดื่ม กาแฟ ขนม ร้านขายของที่ระลึกต่างๆ ที่มีสัญลักษณ์รูปไดโนเสาร์ ตัวหุ่นไดโนเสาร์ ทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ ไว้คอยบริการลูกค้าอีกด้วย

เดินชมไดโนเสาร์ ชมสวนพันธุ็ไม้สวยงาม ทั้งเดินบนพื้นราบ และขึ้นไปเดินบนสกายวอล์ค ...ช่างกว้างขวางใหญ่โต เดินไม่ทั่วถึงเลย แต่ขอเข้าไปดูรถแปลกของเจ้าของสวนก่อนกลับสักหน่อยสิ ว่าเป็นอย่างไร เยอะจนต้องจัดแสดงให้ลูกค้าได้เข้าไปเยี่ยมชมเลยเชียวหรือ

ห้องโชว์รถแปลงจะอยู่ชั้น 2 ของอาคาร ซึ่งจะอยู่ขวามือ จากทางเข้าด้านหน้า หากมองตรงไปด้านบน บริเวทางเชื่อมจะมีโปรสเตอร์ติดว่า ชวนชมรถแปลก...แต่ว่า เราเดินบนสกายวอล์ค ซึ่งเชื่อมถึงบริเวณชั้น 2 เลย

ก้าวเท้าผ่านประตูเข้ามา ...เหมือนฝันเลย ทำไมรถถึงเยอะขนาดนี้ รถโบราณ รถสปอร์ต รถจักรยานก็มี ...นอกจากนี้ ภายในชั้น 2 แห่งนี้ย้งมีร้านกาแฟ ไว้คอยบริการด้วยเหนื่อยนักก็พักจิบกาแฟก่อน)

หมดเวลาแล้ว(เวลานัดหมาย 15.30 น.) ยังเดินไม่ทั่วถึงเลย ที่สวนนงนุชแห่งนี้ เขามีรีสอร์ท ห้องพัก ไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วย จะพักแบบเป็นห้อง หรือเป็นบ้านเป็นหลังสำหรับครอบครัว (พักได้ 6 คน) พร้อมอาหารเช้า 1 มื้อ (ราคาแตกต่างกันตามประเภทห้องพัก)

15.30 น. พบกันที่จุดจอดรถชมวิวบริเวณหน้าโรงละครนงนุชเธียร์เตอร์ ลุงคนขับพาพวกเรามาถึงสถานีนงนุช เพื่อขึ้นรถไฟกลับกรุงเทพมหานคร
บอกเลยว่า... ทริปเที่ยวด้วยตนเองโดยรถไฟไทยครั้งนี้ คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม (ขากลับหลับตลอด ...ก็แอร์เย็นสบายจริงๆ)

-------------------------------------
ข้อดีของการเที่ยวโดยรถไฟ
*ไม่ต้องขับรถไปเอง สะดวก(รถไม่ติด) ถึงจุดหมายตรงเวลา
* ค่าใช้จ่ายไม่บานปลาย เพียง 790 บาท/คน/ทริป(เที่ยวด้วยตนเอง) ... ประกอบด้วย 1. ราคาค่าตั๋วรถไฟ(ไม่แพงมาก) ไป-กลับ รวม 340 บาท (ขาละ 170 บาท)  2. ซื้อแพคเกจเข้าชมสวนนงนุชในราคา 450 บาท (จากปกติ 800 บาท)  ... 3. ค่ากิน-ช้อป (แล้วแต่อัธยาศัย)