พาลูกหลานเรียนรู้งานหัตถกรรม

ร่วมกิจกรรมทำนาโยน

         ตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจทั้งทางด้านหัตถกรรมและด้านเกษตรกรรม เพื่อเสริมสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้ราษฎรไทยสามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ ดังนั้น เพื่อเปิดประสบการณ์เรียนรู้นอกสถานที่ทั้งงานหัตถกรรมและการเกษตรตามแนวพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ศูนย์ศิลปาชีพสีบัวทองและโครงการฟาร์มตัวอย่างบ้านยางกลาง จัดกิจกรรมเยี่ยมชมศูนย์ฯ บ้านยางกลาง ที่ให้ทั้งความรู้และความเพลิดเพลิน โดย ปิยวรา ทีขะระ เนตรน้อย ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสามี จูงลูกสาวตัวน้อย น้องมัดหมี่ และน้องหม่อน มาร่วมทำกิจกรรมกันอย่างสนุกสนาน ณ ศูนย์ศิลปาชีพสีบัวทองและโครงการฟาร์มตัวอย่างบ้านยางกลาง จ.อ่างทอง เมื่อเร็วๆ นี้

ปิยวรา-น้องมัดหมี่ เนตรน้อย สนุกกับกิจกรรมเก็บผักสด

          ภายในศูนย์ฯ ในช่วงเช้าผู้เยี่ยมชมจะได้เพลิดเพลินกับธรรมชาติของแปลงเกษตรขนาด 1,000 ไร่ พร้อมชมโครงการฟาร์มตัวอย่าง และได้ลงมือทำกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ เรียนรู้การเลี้ยงสัตว์ต่างๆ เช่น แพะพันธุ์นม หมูจิ้นหัว และกบ, ทดลองปลูกและเก็บผักสลัดปลอดสารพิษจากในกระถางและแปลงดิน, เรียนรู้การทำปุ๋ยมูลไส้ดิน, เพาะเห็ดและเก็บเห็ดจากโรงเรือน และร่วมกิจกรรมพิเศษที่จัดขึ้นในแต่ละเดือน โดยในเดือนนี้เป็นการร่วมทำนาโยน จากนั้น ดับกระหายด้วยไอศกรีมหวานเย็นจากน้ำสมุนไพรให้ชื่นใจ ก่อนไปอิ่มเอมกับอาหารกลางวันจากโครงการฟาร์มตัวอย่างฯ ซึ่งได้จัดเตรียมเมนูอาหารคาวหวาน ที่นำผลผลิตในโครงการฟาร์มตัวอย่างฯ มาปรุงเป็นอาหารมื้อพิเศษ พร้อมเสิร์ฟในรูปแบบปิ่นโต โดยเมนูจะเปลี่ยนแปลงไปตามแต่ละช่วงฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิต จากนั้นในช่วงบ่ายรื่นรมย์กับการชมกล้วยไม้นานาพันธุ์ที่เรือนกล้วยไม้ และชมงานฝีมือของศูนย์ศิลปาชีพสีบัวทอง ได้แก่ โรงผลิตกระดาษข่อยซึ่งมีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยและโรงผลิตหัวโขน, โรง ทอผ้ายก, แผนกปักผ้า และโรงเซรามิก พร้อมลองเพ้นท์ถ้วยเซรามิกด้วยตัวเอง

น้องๆ ให้ความสนใจงานแกะสลักอย่างใกล้ชิด

         หลังจากร่วมกิจกรรมแล้ว ปิยวรา ทีขะระ เนตรน้อย บอกว่า ปกติครอบครัวชอบไปทำกิจกรรมกลางแจ้งแบบนี้ด้วยกัน ไม่ค่อยพาไปเดินห้างสรรพสินค้า แต่พยายามพาไปสัมผัสธรรมชาติให้มากที่สุด เพื่อเป็นการปลูกฝังและสร้างลักษณะนิสัยให้รู้จักช่วยเหลือตัวเองไปในตัว

          “ความที่เราเป็นคนเมือง ทำให้ไม่ค่อยได้ใกล้ชิดธรรมชาติ จึงอยากพาลูกๆ ให้ได้มาซึมซับวิถีชีวิตเกษตรกร ได้เรียนรู้การปลูกพืชผักต่างๆ แบบเกษตรอินทรีย์ การทำนา การเลี้ยงสัตว์ ซึ่งชีวิตเราค่อนข้างจะห่างไกลกับสิ่งเหล่านี้มาก การที่ทำให้เขาได้มาพบเห็น และช่วยเหลือตัวเองในการทำกิจกรรมเหล่านี้ ทำให้เขาสามารถรู้คุณค่า ไม่ว่าจะเป็นพืชผักผลไม้ ที่เรารับประทานเข้าไป ต้องใช้เวลา และมีความยากลำบากอย่างไรบ้าง ในการที่จะผลิตอาหาร หรือกว่าจะเป็นข้าวที่เรารับประทาน นอกจากนี้การที่ให้ เด็กๆ ได้คลุกคลีกับธรรมชาติ ได้เล่นคลุกดิน คลุกฝุ่นบ้าง ก็จะทำให้เขารู้สึกคุ้นเคยกับวิถีชีวิตของเกษตรกร ซึ่งเป็นอาชีพหลักของคนไทย จึงอยากเชิญชวนทุกคนที่หากิจกรรมครอบครัวใกล้ชิดธรรมชาติ เสริมสร้างประสบการณ์ชีวิต และเป็นการเรียนรู้ผ่านการลงมือทำ ผ่านงานหัตถกรรมและการเกษตรตามแนวพระราชดำริ ผ่านกิจกรรมต่างๆ ในศูนย์ศิลปาชีพสีบัวทองและโครงการฟาร์มตัวอย่างบ้านยางกลาง ตลอดจนได้ซื้อผลิตผลการเกษตรต่างๆ ในราคาที่ย่อมเยา และปลอดภัยต่อสุขภาพ เพื่อนำกลับไปทำอาหารรับประทานที่บ้านได้ด้วย” คุณแม่ลูกสอง กล่าว

         ร่วมเรียนรู้งานหัตถกรรมและการเกษตรตามแนวพระราชดำริฯ ได้ทุกวันเสาร์ที่ 1 และ 3 ของเดือน ตั้งแต่เดือนเมษายนนี้ เป็นต้นไป จำกัดจำนวนวันละ 30 คน ผู้ใหญ่ราคา 799 บาท เด็กอายุ 3-12 ปี ราคา 599 บาท และไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดได้ทางเฟซบุ๊ก www.facebook.com/sibuathongth