คนดังพาเหรดยลภาพประวัติศาสตร์จากกล้องคลาสสิก

      กลายเป็นแหล่งพบปะเหล่าคนรักการถ่ายภาพและพิสมัยภาพถ่ายสุดคลาสสิกไปแล้ว เมื่อ “เอ” ดนัย สรไกรกิติกูล  แห่ง เอลิส ไพรเวต ผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย “Leica” (ไลก้า) แบรนด์กล้องคลาสสิกระดับโลก จัดงานฉลองเปิด “ไลก้า แกลเลอรี แบงค็อก” แห่งที่ 19 ของโลกและที่ 4 ในเอเชียกับคอนเซ็ปต์แรงบันดาลใจจากลายไทย “กระจัง” มาดีไซน์เป็นแกลเลอรีเก๋ไม่ซ้ำใคร พร้อมจัดแสดงผลงานของช่างภาพทั้งไทยและเทศ ให้ชมกันตลอดทั้งปี โดยได้รับพระกรุณาธิคุณจาก พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จเป็นการส่วนพระองค์ทอดพระเนตรนิทรรศการ ณ ไลก้า แกลเลอรี แบงค็อก ชั้น 2 เกษร วิลเลจ ค่ำวันก่อน

ดนัย สรไกรกิติกูล-คาริน เรฮ์น-เคาฟมัน และนิค อุท​​​​​​​ รับเสด็จฯ

    “เอ” ดนัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอลิส ไพรเวต จำกัด เล่าถึงการเปิดไลก้า แกลเลอรี แบงค็อกว่า ได้เข้ามาดูแลแบรนด์ไลก้าในประเทศไทยเมื่อ 2 ปีก่อน และได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ใช้ไลก้าเดิม รวมทั้งกลุ่มใหม่ๆ ที่ให้ความสนใจเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นการขอบคุณผู้ใช้และยกระดับมาตรฐานการถ่ายภาพ จึงได้พัฒนาไลก้า แกลเลอรี แบงค็อก เพื่อเป็นพื้นที่จัดแสดงผลงานของทั้งช่างภาพระดับโลก พร้อมทั้งต้อนรับผลงานช่างภาพระดับมืออาชีพของไทยเองด้วย

ดนัย-ดิษยา สรไกรกิติกูล

    “ความที่เราเป็นรายแรกที่เปิดแกลเลอรี่เลยต้องเป็นอะไรที่เป็นตำนาน สำหรับนิทรรศการครั้งนี้มาจากมุมมองของไลก้าเป็นกล้องที่เล็กและทนทาน ดังนั้นช่างภาพระดับโลกชาวเวียดนามที่นำภาพมาร่วมจัดแสดงครั้งนี้จึงพกพาในสงครามเวียดนาม เขาใช้ไลก้าเอ็ม ทู ถือว่าสะดวกในการถ่ายภาพมาก ผลงานของเขาได้รับราวัลมากมาย เราจึงเลือกเขามาจัดแสดงเพื่อให้เห็นถึงตำนานของทั้งกล้องและภาพ ตอนนี้แกลเลอรี่โชว์ผลงานของช่างภาพต่างประเทศ 1 คนคู่กับผลงานของคนไทยอีก 1 คน จัดให้ชมครั้งละ 4 เดือน สลับหมุนเวียนตลอดทั้งปี เราพยายามส่งเสริมช่างภาพคนไทยให้มีพื้นที่แสดงฝีมือด้วย" เจ้าภาพงานกล่าว

    ด้านช่างภาพชาวเวียดนามคนดังเจ้าของรางวัล “พูลิตเซอร์” จากผลงานก้องโลก “The Terror of War” ภาพเด็กหญิงร่างเปลือยเปล่ากำลังวิ่งหนีระเบิดจากสงครามเวียดนาม นิค อุท กล่าวว่า ช่วงสงครามเวียดนามตัวเองใช้กล้องไลก้าเอ็ม ทู ถ่ายภาพนี้ เพราะมีความสะดวกรวดเร็วดี  เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเร็วมาก กล้องไลก้าสามารถปรับถ่ายได้เทียบเท่ากล้องเลนส์ขนาดใหญ่ เทคนิคการถ่ายส่วนตัวจะต้องคิดก่อนลั่นชัตเตอร์เสมอ เพราะฟิล์มมีเพียง 26-34 ภาพเท่านั้น ทุกวันนี้ก็ยังคงทำแบบนั้น เชื่อหรือไม่ภาพหนึ่งภาพสามารถหยุดสงครามได้ พอสำนักข่าวนภาพนี้ไปเผยแพร่สู่สาธารณชน ได้เห็นถึงความโหดร้ายและสูญเสีย ก็เกิดการเปลี่ยนทัศนคติให้ช่วยกันหยุดสงคราม แล้วสงครามก็ยุติลงในปีถัดไป 

อรรณพ ไมเคิล เกษตระทัต-สุรัชนี ลิ่มอติบูลย์-ชัยพัชร์ ซอโสตถิกุล

ชาญ ศรีวิกรม์

    เนื้อหาดึงดูดเพียงนี้จึงมีคนดังหลากหลายวงการตบเท้ามาร่วมชื่นชมเพียบ อาทิ ชาญ-กรกฎ ศรีวิกรม์, นิติกร กรัยวิเชียร, ณัฐ ประกอบสันติสุข, ธาดา วาริช, “กุ๊กกุ๊ก” สุรัชนี ลิ่มอติบูลย์, “ปิ๋ม” ณัฐปรี พิชัยรณรงค์สงคราม, ทญ.อตินุช มาลากุล ณ อยุธยา, “แพร์” พิมพิศา จิราธิวัฒน์

อัครรัฐ วรรณรัตน์-พัชทรี ภักดีบุตร

ณัฐ ประกอบสันติสุข

     อรรณพ ไมเคิล เกษตระทัต, ชัยพัชร์ ซอโสตถิกุล, “รี่” พัชทรี ภักดีบุตร, “จริง” วรางคณา จิตศักดานนท์, กรณ์ ณรงค์เดช ฯลฯ พร้อมด้วย คาริน เรฮ์น-เคาฟมัน ผู้ก่อตั้งไลก้า แกลเลอรี สุนิล คาวล์ กรรมการผู้จัดการไลก้า คาเมร่า เอเชีย แปซิฟิก และแน่นอนว่ามี “ออม” ดิษยา ศรีภรรยาคนสวยของเจ้าภาพมาคอยช่วยต้อนรับแขกอย่างแข็งขัน โดยนิทรรศการจะจัดยาวไปจนถึง 30 เมษายนนี้จ้า..

​​​​​​​